สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futuresภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 25, 2013 10:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,423 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,429(22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 22.90 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,400 บาท กับ 19,500บาท และกลับมาปิดที่ 19,400 บาท กับ 19,500 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,470คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,367 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 2 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4.3% แบบ 10 บาท ลดลง 0.6% GFJ13ปิด 19,620 บาท และ GFM13ปิด 19,690 บาท GF10J13ปิดที่ 19,620บาท GF10M13ปิดที่ 19,690 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 14.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,423.7 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver เพิ่มขึ้ร 1.6 เซนต์ ปิดที่ 22.833 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,092.98 ตัน (ขายออก 4.21 ตัน ) น้ำมัน NYMEX เพิ่มขึ้น 2.25 ดอลลาร์/บาเรล ปิดที่ 91.43 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์ปิดลดลง 43.16 จุด ปิดที่ 14,676.30จุด ข่าวที่สำคัญ เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์และนักลงทุนต่างเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณความต้องการทองคำแท่งทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเอเชีย เช้านี้ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีรายงานข่าวว่า ธนาคารกลางรัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนมีนาคม และตุรกีก็เพิ่มการถือครองทองคำเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีการรายงานว่า กลุ่มธนาคารกลางต่างๆ มีการเข้าซื้อทองคำในปีที่แล้วมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1964 ก่อนที่ราคาจะปรับตัวเข้าสู่ตลาดขาลง ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มธนาคารกลางต่างๆ เป็นผู้ขาดทุนมากที่สุด เริ่มมีรายงานว่าทองคำแท่งและเหรียญทองคำขาดแคลนในบางประเทศแล้ว จึงเป็นเหตุให้ร้านค้าปลีกทำการเพิ่มราคาชาร์จค่าพรีเมี่ยม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าที่คาดทั้งสองตัว ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นพูดในตลาดว่า กำลังมีภาวะ "short squeeze" เกิดขึ้นในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเวลาที่ผู้ทำ Short ไม่สามารถทำให้ราคาทองคำลงได้อีกต่อไป และถูกบังคับให้ซื้อปิดสถานะในราคาที่สูงขึ้น เสมือนถูกกำจัดออกจากตลาด นักวิเคราะห์จากไอรอนบีม กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาด COMEX ยังคงมีการฟื้นตัว โดยเทรดเดอร์ต่างๆ ตระหนักดีว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในระยะยาว เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐไม่ว่าจะเป็นยอดค้าปลีก หรือภาคแรงงานยังคงอ่อนแอ ปัจจัยที่ยังฉุดรั้งการขึ้นของราคาทองคำยังคงเป็นการขายของ SPDR โดยเมื่อวานนี้ SPDR ขายออกมาอีก 4.21 ตัน หรือ 0.38% คงเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 1,092.98 ตัน ขายออกมาติดต่อกัน 12 วันทำการ โดยตลอดเดือนเมษายนขายออกมาทั้งสิ้น 124.07 ตัน ซึ่งจะเห็นได้ว่า SPDR ขายออกมาทุกวันในเดือนนี้ ยกเว้นวันที่ 4 เม.ย. เท่านั้นที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไร กองทุนในมหาวิทยาลัยเท็กซัส เทขายทองคำแท่งมูลค่า 375 ล้านดอลลาร์ จากการถือครอง 1.4 พันล้านดอลลาร์ และกลับเข้ามาลงทุนในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สและตลาดหุ้น เอ็มเคเอส แคปปิตอล กล่าวว่า ราคาทองคำมีการสะสมพลังบริเวณ $1400 - $1440 โดยด้านบนมีแรงกดดันจากเทขายของ ETF ส่วนด้านล่างมีแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อทองคำแท่งจากรายย่อย และอาจมีการเข้าซื้อของธนาคารกลาง และจะเป็นแบบนี้ไปอีก 2-3 สัปดาห์ เรื่องของทองคำยังเป็นการสู้กันระหว่างสองตลาด แรงซื้อ physical และแรงเทขายใน ETF นายจอห์น พอลสัน กล่าวต่อนักลงทุนเมื่อวานนี้ว่า เขายังคงยืนหยัดต่อการซื้อทองคำ แม้ว่าอาจมีความผันผวนของราคามากขึ้นในระยะสั้นก็ตาม เนื่องจากมองว่าวันหนึ่งราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ การนำเข้าทองคำของอินเดียเพิ่มขึ้น 38.7% ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ นับว่าเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะมีการเพิ่มภาษีนำเข้าในเดือนมกราคมก็ตาม แบร์ริค โกลด์ คอร์ป ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง ได้รายงานความคืบหน้าในการควบคุมราคาต้นทุน และกล่าวว่า มีการวางแผนต่อเนื่องในการตัดลดการใช้จ่ายทางต้นทุน ส่งผลให้หุ้นของแบร์ริค โกลด์ ปรับตัวสูงขึ้น สัญญาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้เป็นวันที่ 6 หลังจากที่เมื่อวานเพิ่มขึ้น 2.5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างหนัก กลุ่มนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มีการคาดการณ์กันว่า อีซีบีอาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน -Core Durable Goods Orders m/mตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.7% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.5% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -1.4% - Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -2.9% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 5.6%ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -5.7% - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.8M ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -1.2 Mตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.9M ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Unemployment Claimsตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 352K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 352K วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ภาพรวมราคาทองคำยังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,410 เหรียญได้ โดยค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้นในลักษณะของ Technical Rebound โดยมีแรงซื้อสนับสนุนจากปริมาณทางฝั่งอินเดียและ Middle East เป็นหลัก โดยที่อัตราค่าพรีเมี่ยมถูกปรับสูงขึ้นอย่างมากในตลาดทองคำ และเริ่มเกิดการขาดแคลนทองคำแท่งในหลายๆ แห่งที่จะไม่สามารถส่งมอบและผลิตได้ทัน รวมทั้งประเทศไทยก็เริ่มส่งมอบไม่ทันเช่นกัน เนื่องจากต้องรอทองคำที่ดันเข้ามาใหม่ ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานออกมาไม่ดีทั้ง 2 ตัว คือ Durable Goods Orders และ Core Durable Goods Orders ออกมาต่ำกว่าที่คาดอย่างมาก ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เองกลับมาอ่อนค่า โดยค่าเงินยูโรตอนนี้ขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 1.3047 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่ในคืนนี้จะมีตัวเลขที่สำคัญคือ Jobless Claims ซึ่งคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 352,000 ราย ขอให้จับตาดูถ้าตัวเลขนี้ถ้ามีความพลิกฟื้นก็จะมีส่วนที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์รวมทั้งราคาทองคำมีความผันผวนมากในคืนนี้ ซึ่งจะประกาศเวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาบ้านเรา นอกจากนี้จะเห็นการขายต่อเนื่องของ SPDR โดยเมื่อวานมีการขายออกมาอีก 4.21 ตัน ลดการถือครองมาอยู่ที่ระดับ 1,092.98 ตัน วิเคราะห์ทางเทคนิค — ราคาทองคำในระยะสั้นเริ่มมายืนอยู่เหนือระดับ 1,400 เหรียญได้ตาม Technical Rebound ที่ MTS Gold เคยวิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้แล้ว และได้รับแรงสนับสนุนจาก Physical Demand จึงวิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำในระยะสั้นๆ มีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นในกรอบ 1,445 — 1,450 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ กลยุทธ์ในระยะสั้น 1 — 2 วันทยอยให้ลดสถานะ Short Position ลงและเริ่มเปิดสถานะ Long บ้างเป็นการเก็งกำไรในระยะสั้นๆ ที่มี Technical Rebound ขึ้นมา รวมทั้งค่าเงินบาทซึ่งเริ่มทรงตัวในระดับ 28.90 บาท/ดอลลาร์ได้ เน้นว่าเป็นการเก็งกำไรในระยะสั้นเท่านั้น โดยมีเป้าหมายการทำกำไรบริเวณ 1,445 เหรียญ ซึ่งแนะนำให้บริหารพอร์ทให้สมดุลในการปิดเปิดหรือทำ Stop Loss เพื่อที่จะติดตามภาวะผันผวนของตลาด - นักลงทุนถือ Long Position แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น บริเวณ 1,420 เหรียญ และขายปิดทำกำไรในระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้เริ่มกลับพลิกหรือลดสถานะ Short เพื่อที่จะปรับตัวตามระยะสั้นที่เป็นการดีดขึ้นของ Technical Rebound เป้าหมายการเก็งกำไรสั้นๆ ที่ระดับ 1,445 เหรียญ สรุป — แนวโน้มระยะยาวยังเป็นแนวโน้มขาลง แต่เน้นว่าอย่าปรับ Leverage มากและปรับพอร์ทให้สมดุล Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,770 บาท Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,620 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,820 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ