กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ปตท.
ฝ่ายกลยุทธ์และแผนธุรกิจ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 101.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส (WTI) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 91.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 99.45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.07 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 111.67 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 113.91 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- หน่วยข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (CIA) รายงานว่ารัฐบาลซีเรียได้ใช้อาวุธเคมีในการปราบปรามกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา กล่าวว่าสหรัฐฯ อาจแทรกแซงทางทหารในซีเรียเพื่อยุติข้อขัดแย้งที่บานปลายเป็นสงครามกลางเมือง หากซีเรียขยายขอบเขตการใช้อาวุธเคมี
- การส่งออกน้ำมันดิบจากอิรักที่ท่า Ceyhan ในตุรกีล่าช้ากว่ากำหนด 2-3 วัน เนื่องจากท่อขนส่งน้ำมัน Kirkuk-Ceyhan ทางตอนเหนือของอิรัก ถูกโจมตีด้วยระเบิด ทั้งนี้ ในการสลายกลุ่มประท้วงฝ่ายต่อต้านที่เป็นชาวมุสลิมนิกาย Sunni ที่เมือง Mosul ช่วงวันที่ 23-25 เม.ย. 56 มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน
- Commodity Future Trading Commission (CFTC) ของสหรัฐฯ รายงานสถานการณ์ลงทุนในสัญญาน้ำมันดิบ WTI ของตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า NYMEX ที่นิวยอร์ก และ ICE ที่ลอนดอน ล่าสุดสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 เม.ย. 56 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับเพิ่มสถานะการซื้อสุทธิ (Net Long Positions) ขึ้น 6,392 สัญญา จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 230,819 สัญญา
- สำนักสารสนเทศพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration หรือ EIA) รายงานปริมาณสำรองเชิงพาณิชย์ของ Gasoline หรือน้ำมันเบนซิน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. 56 ลดลงถึง 3.9 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 217.8 ล้านบาร์เรล นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.2 ล้านบาร์เรล
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 เม.ย. 56 ลดลง 16,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 339,000 ราย
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- สถานการณ์ความวุ่นวายในซูดานและซูดานใต้เริ่มคลี่คลาย โดยกลุ่มผู้ต่อต้านบริเวณชายแดนกว่า 3,000 คน ยินยอมสลายกองกำลังอาวุธ หลังได้รับการนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ซูดานใต้หยุดการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 350,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่ ม.ค. 55 เป็นต้นมา
- PetroChina บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของจีนแถลงเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนไม่กระทบต่อโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่ ใกล้เคียงเมืองเฉิงตู ขนาด 200,000 บาร์เรลต่อวัน และการขนส่งน้ำมัน ทั้งนี้เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 179 คน และมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1.5 ล้านคน
- HSBC รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash Purchasing Manager’s Index: PMI) ของจีนในเดือน เม.ย. 56 ลดลง 1.1 จุด จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 50.5 จุด และดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing Output Index) ลดลง 1.9 จุด อยู่ที่ 51.1 จุด
- Markit Economics รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing PMI) ของเยอรมนีในเดือน เม.ย. 56 ลดลง 1.1 จุด จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 47.9 จุด ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และดัชนีภาคบริการเบื้องต้น (Flash Services Activity Index) ลดลง 1.7 จุด อยู่ที่ 49.2 จุด ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้ Flash Manufacturing PMI ของยูโรโซนลดลง 0.3 จุด อยู่ที่ 46.5 จุด ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
แนวโน้มราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ที่ 22-26 เม.ย. 56
นักลงทุนคลายกังวลหลังการเมืองในอิตาลีเริ่มคลี่คลาย โดยนายเอนริโก เล็ตตา นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลีและคณะทำงาน เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งหลังจากอิตาลีล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลหลายครั้ง และเศรษฐกิจ (GDP) ของสหราชอาณาจักร (UK) ในไตรมาส 1/56 ขยายตัว 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยก่อนหน้านักลงทุนเกรงว่าจะถดถอยต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 และกลุ่มประเทศ G20 ยังคงสามารถใช้มาตรการทางการคลังสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังของกลุ่ม G20 เห็นว่าไม่ควรเร่งรัดตั้งเป้าหมายการลดหนี้สาธารณะของกลุ่มสมาชิก อย่างไรก็ตาม ท่อขนส่งน้ำมัน Kirkuk-Ceyhan ไม่ได้รับความเสียหายรุนแรง โดยทางการตุรกีรายงานท่อดังกล่าวได้กลับมาขนส่งน้ำมันดิบแล้ว และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 1/56 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ +3.0% โดยเติบโตเพียง +2.5% จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ คาดว่าในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบ Brent จะเคลื่อนไหวในกรอบ 102-105 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 92-95 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล