ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท “บ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส” ที่ระดับ “A+/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 13, 2013 17:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาทของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A+” เช่นกัน ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทเนื่องจากบริษัทมีฐานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก ทริสเรทติ้ง บริษัทอยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีสเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารพาณิชย์แบบครบวงจร ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทมีพื้นฐานมาจากฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตลอดจนคณะผู้บริหารที่มากประสบการณ์และมีผลงานเป็นที่ยอมรับ รวมถึงระบบการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกบั่นทอนบางส่วนจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการขยายกิจการ ผลประกอบการ และคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทในอนาคต ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าทิศทางธุรกิจของบริษัทจะมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจของกลุ่มธนาคาร กรุงศรีอยุธยา และบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารต่อไป แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของผู้บริหารของบริษัทในการรักษาฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ด้วย ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าปัจจัยเอื้ออำนวยต่าง ๆ เช่น ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ระบบบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับดีและปรับปรุงฐานะทางการเงินให้ดีขึ้นได้ในระยะปานกลาง บริษัทอยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีสมีฐานะเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 โดยบริษัทมียอดลูกหนี้คงค้างทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 24% ของยอดสินเชื่อตามงบการเงินรวมของธนาคาร ณ เดือนธันวาคม 2555 ในขณะที่มีรายได้สุทธิสำหรับปี 2555 คิดเป็นสัดส่วน 31% ของรายได้สุทธิตามงบการเงินรวมของธนาคาร การสนับสนุนทางธุรกิจและการเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่าจะช่วยยกระดับฐานะทางการตลาดในธุรกิจหลักและเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทลูกที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินในลำดับต้น ๆ จากธนาคารดังเห็นได้จากเงินให้กู้ยืมที่บริษัทได้รับจากธนาคารในสัดส่วนถึง 60% ของเงินกู้รวมที่ธนาคารให้แก่บริษัทในเครือ ณ เดือนธันวาคม 2555 บริษัทเป็นบริษัทลูกเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาภายใต้ชื่อ “กรุงศรี ออโต้” (Krungsri Auto) โดยเป็นการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว และรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหลักประกันด้วย บริษัทมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในบรรดาผู้ให้บริการเช่าซื้อรถยนต์ทั้ง 20 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง โดยมียอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อรวม 194 พันล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2555 คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 14% นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ที่มียอดคงค้างสินเชื่อ 7 พันล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2555 (เติบโต 27% จาก 5.5 พันล้านบาทในปี 2554) ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจที่ยาวนานถึง 20 ปี บริษัทสามารถสร้างคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและพัฒนารูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็งจนทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการแข่งขันและยังคงฐานะความเป็นผู้นำอยู่ได้ บริษัทประยุกต์ใช้รูปแบบการบริหารความเสี่ยงตามแนวปฏิบัติของธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งได้รับแนวทางมาจาก GECIH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ของธนาคาร นอกจากนี้ ทั้งบริษัทและธนาคารกรุงศรีอยุธยาต่างก็ได้รับการกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทยภายใต้มาตรฐานเดียวกัน การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดีและระบบการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพช่วยทำให้บริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งหมายถึงสินเชื่อที่ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปต่อยอดคงค้างสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยของบริษัทมีสัดส่วนลดลงมาอยู่ในระดับ 1.24% เมื่อสิ้นปี 2555 จากระดับ 1.89% เมื่อสิ้นปี 2554 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2555 หลังจากที่ลดลงเล็กน้อยในปี 2554 เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 รายได้สุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 4,750 ล้านบาทในปี 2555 จาก 3,150 ล้านบาทในปี 2554 (ซึ่งเกือบจะเท่ากับรายได้สุทธิ 3,103 ล้านบาทในปี 2553) อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยจึงเพิ่มขึ้นเป็น 2.68% และ 27.14% ตามลำดับ ในปี 2555 จาก 2.32% และ 22.66% ในปี 2554 เนื่องจากสินเชื่อขยายตัว จึงทำให้อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อยเป็น 9.80% ณ สิ้นปี 2555 จาก 10.01% ในปี 2554 ส่วนฐานทุนของบริษัทถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าผู้ประกอบการเช่าซื้อรายอื่นที่จัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาสร้างความเข้มแข็งด้านสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการการเงินให้แก่บริษัท บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL) อันดับเครดิตองค์กร: A+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: AYCAL13OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,558 ล้านบาท ไถ่ถอน 2556 A+ AYCAL145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2557 A+ AYCAL14DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2557 A+ AYCAL14OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2557 A+ AYCAL155A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+ AYCAL156A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+ AYCAL159A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+ AYCAL15DA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+ AYCAL15OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+ หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559 A+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ