สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futuresภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2556เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 14, 2013 09:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,433 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,433 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.70 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,200 บาท กับ 20,300 บาท และกลับมาปิดที่ 20,100 บาท กับ 20,200 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,579 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,437 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 1คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.2 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.4 % GFM13 ปิด 20,290 บาท และ GFQ13 ปิด 20,370 บาท GF10M13 ปิด 20,300 บาท GF10Q13 ปิด 20,370 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 2.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,434.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver เพิ่มขึ้น 3.8 เซนต์ ปิดที่ 23.696 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,051.65 ตัน (เท่าเดิม ) น้ำมัน NYMEX ลดลง 87 เซ็นต์ ปิดที่ 95.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดลดลง 26.81 จุด ปิดที่ 15,091.68 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ จากแรงเทขายทางเทคนิคที่มีต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว รวมไปถึงการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อราคาทองคำ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งสวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าตัวเลขจะลดลงต่อเนื่องจากในเดือนมี.ค. ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไร ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 1,051.65 ตัน แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี (จุดต่ำสุดปี 2010 = 1,104.55 ตัน) ข่าวจากวอลสตรีท เจอนัลที่รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า สมาชิกเฟดบางรายมีกลยุทธ์ที่จะลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟด แต่ยังไม่มีกรอบเวลาที่จะหยุด QE ที่ชัดเจน ส่งผลให้ราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ เนื่องจากตอนนี้นักลงทุนกำลังวิเคราะห์ถึงความจริงที่ว่า เฟดกำลังหารือกันถึงการพัฒนากลยุทธ์ที่จะหยุด QE รายงานจากอินเดียเมื่อวานนี้สำหรับปริมาณความต้องการทองคำไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก โดยผู้ค้าปลีกและกลุ่มนักวิเคราะห์กล่าวว่า ดีมานด์เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ในขณะที่ปกติจะเพิ่มขึ้น 40-50% อย่างไรก็ตาม ปริมาณการนำเข้าทองคำที่เพิ่มขึ้นของอินเดียส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าอินเดียยิ่งขาดดุลหนักถึง 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นถึง 10.9% ในขณะที่ส่งออกเพิ่มเพียง 1.68% มีรายงานเพิ่มเติมจากอินเดียว่า ทางรัฐบาลอินเดียสั่งห้ามการซื้อทองคำจากต่างประเทศผ่านทางสินเชื่อ เพื่อเป็นการจำกัดการเก็งกำไร ค่าเงินยูโรเองก็อ่อนค่าลง หลังจากหนึ่งในผู้วางนโยบายของอีซีบี นายอิคกาซิโอ้ วิสโค่ กล่าวว่า อาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปอยู่ระดับติดลบ หากเศรษฐกิจยูโรโซนมีความจำเป็นต้องใช้ เมื่อวานนี้ยูโรกรุ๊ปได้อนุมัติเงินช่วยเหลือ 2 งวดให้แก่กรีซ โดยในเดือนพฤษภาคมจะให้ 4.2 พันล้านยูโร และ 3.3 พันล้านยูโรในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ ไซปรัสยังได้รับเงินช่วยเหลือครั้งแรก 2 พันล้านยูโรในวันนี้ และจะได้เงินเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายนอีก 1 พันล้านยูโรจากกองทุน ESM นักลงทุนจับตาการประชุม Ecofin ของรัฐมนตรีคลังยุโรปวันนี้ที่จะพยายามบรรลุกรอบระยะเวลาในการฟื้นตัวและแก้ปัญหาภาคสถาบันปล่อยสินเชื่อ และบริษัทด้านการลงทุนตามที่ตกลงกัน ซึ่งแผนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนจัดตั้งสหภาพธนาคาร ในวันพุธ จะมีการเปิดเผยข้อมูลการถือครองทองคำของกองทุนพอลสันในไตรมาสแรก ที่จะเผยหลังครบไตรมาสไป 45 วัน เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกันสามวัน ไปทำจุดสูงสุดประมาณ 1,445 เหรียญจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.4% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ -0.1% - Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.4% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.3% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 0.1 ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจต้องติดตาม ทิศทางราคาทองคำ โดยภาพรวมของราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway Down ในกรอบ 1,425 — 1,450 ยังวิเคราะห์ได้ว่า ยังมีภาพรวมทางเทคนิคที่เป็นแนวโน้มขาลง ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ทางสหรัฐอเมริกาอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย และแรงซื้อจากฝั่งเอเชียดูจะลดน้อยถอยลง ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานประมาณ 10 สตางค์ โดยที่ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาในการประชุม จึงคาดว่าเงินบาทน่าจะค่อยๆ แข็งค่าขึ้น วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลงทั้งระยะสั้น กลาง และยาว โดยคาดว่าจะเคลื่อนในกรอบ 1,425 — 1,450 เหรียญ เมื่อวาน SPDR ไม่ได้ซื้อขาย วันนี้ไม่มีตัวเลขศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯจึงคาดว่าราคาน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเป็นการหาจังหวะในการขายก่อนในจังหวะที่ราคาดีดตัวสูงขึ้นมาบริเวณ 1,450 เหรียญ และค่อยหาจังหวะในการช้อนซื้อกลับเพื่อทำกำไรในทิศทางขาลง - นักลงทุนถือ Long Position ยังแนะนำให้ทำการปิดสถานะ Long Position เมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น ทำกำไรในระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Short Position ให้ลงทุน 2 — 3 วัน ในจังหวะที่ราคาร่วงลงมา ทำการซื้อปิดเพื่อทำกำไร Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,380 บาท Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,470 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ