กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ปตท.
ฝ่ายกลยุทธ์และแผนธุรกิจ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์น้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ราคาน้ำมันดิบ เบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 1.88 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 104.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเวสท์ เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 2.45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอยู่ที่ 96.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 101.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาเฉลี่ยน้ำมันน้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 2.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 114.00 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 2.75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 116.81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
ปัจจัยที่ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- ท่อขนส่งน้ำมันดิบ Kirkuk - Ceyhan (กำลังการขนส่ง 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใช้ขนส่งที่ระดับ 400,000 บาร์เรลต่อวัน) ซึ่งขนส่งน้ำมันดิบจากแหล่งทางตอนเหนือของอิรักเพื่อส่งออกผ่านประเทศตุรกีหยุดดำเนินการเพราะถูกก่อวินาศกรรมวันที่ 13 พ.ค. 56 ซึ่งนับเป็นการถูกวินาศกรรมครั้งที่สองในรอบ 1 สัปดาห์
- อิสราเอลใช้กำลังทางอากาศโจมตีทำลายขีปนาวุธต่อสู้พื้นสู่พื้นที่มีรัศมีทำการไกลของอิหร่านที่กำลังลำเลียงผ่านซีเรียไปยังกลุ่มหัวรุนแรง Hezbollah ในเลบานอน ส่งผลต่อความมั่นคงในภูมิภาค
- Reuters รายงานเหตุลอบวางระเบิดสถานีตำรวจ 2 แห่งในเมือง Benghazi ของลิเบีย ส่งผลให้บริษัทน้ำมัน BP และสถานทูตอังกฤษในเมือง Tripoli ย้ายพนักงานออกจากประเทศลิเบีย เนื่องจากมองว่าเหตุการณ์ในประเทศอาจรุนแรงขึ้น
- IIR Energy รายงาน บริษัท BP จะเริ่มเปิดดำเนินการโรงกลั่น Whiting (240,000 บาร์เรลต่อวัน) ในรัฐ Indiana สหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์หน้า โดยโรงกลั่นดังกล่าวสามารถรองรับน้ำมันดิบชนิดหนัก (Oil Sand) จากแคนาดา และจะลดอัตราการส่งน้ำมันดิบจากแคนาดาไปสู่จุดส่งมอบที่เมือง Cushing, Oklahoma ได้
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค. 56 เพิ่มขึ้น 0.23 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 395.51 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์แต่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- Reuters Survey รายงานซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมันดิบเดือน เม.ย. 56 เพิ่มขึ้น 0.16 ล้านบาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดตั้งแต่ พ.ย. 55
- นาย Stephen Dhieo Dau รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมและเหมืองแร่ ซูดานใต้ กล่าวปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของประเทศ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 140,000 บาร์เรลต่อวัน และจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 180,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในสัปดาห์นี้
- OPEC รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC ในเดือน เม.ย. 56 เพิ่มขึ้น 0.28 ล้านบาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 30.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดในรอบ 5 เดือน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานความต้องการใช้น้ำมันจีนในเดือน เม.ย. 56 เพิ่มขึ้น 3.2% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 9.60 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามนับเป็นความต้องการใช้น้ำมันที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุง
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวลดลงหลังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น กอปรกับความต้องการใช้น้ำมันของจีนที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน และอุปทานน้ำมัน ณ ปัจจุบันที่มีเพียงพอต่อความต้องการในตลาด ขณะที่อัตราการผลิตจากกลุ่มประเทศสมาชิก OPEC อยู่ในระดับสูง อีกทั้งผลสำรวจ Reuters คาดการณ์ปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์สหรัฐฯ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่ร้อนแรงใน อิรัก ลิเบีย และ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาดจะมีส่วนช่วยสนับสนุนเงินลงทุนเข้ามาในตามสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ Intercontinental Exchange (ICE) รายงานสถานะการลงทุนล่าสุด ในตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า ICE ที่ลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 พ.ค. 56 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับเพิ่มสถานะการซื้อสุทธิ (Net Long Positions) ของสัญญาน้ำมันดิบ Brent ขึ้น 15,294 สัญญาจากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 124,035 สัญญา สูงสุดตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. 56 ในภาพรวม OPEC คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 56 จากเศรษฐกิจโลกโดยรวมที่ดีขึ้น และปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันจากกลุ่ม OPEC (Call on OPEC crude) ในปี 56 จากการคาดการณ์ครั้งก่อน 90,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 29.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งแม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากจากกลุ่มประเทศสมาชิก OPEC ให้ลดโควต้าการผลิตจากระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 31 พ.ค. 56 อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า OPEC น่าจะคงกำลังการผลิตไว้ที่ 30 บาร์เรลต่อวัน หลังปรับเพิ่มปริมาณ Call on OPEC crude ในปี 56 ในรายงานในเดือน พ.ค. 56 มาอยู่ที่ระดับ 29.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทางเทคนิคคาดว่าสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบ Brent จะเคลื่อนไหวในกรอบ 101.35-104.50 เหรียญสหรัฐฯ/ บาร์เรล WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 94.80-97.31 เหรียญสหรัฐฯ/ บาร์เรล Dubai จะเคลื่อนไหวในกรอบ 97.47-102.58 เหรียญสหรัฐฯ/ บาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
อินโดนีเซียผู้นำเข้าหลักในตลาดเอเชียมีแผนนำเข้าน้ำมันเบนซิน ในเดือน มิ.ย. 56 ที่ระดับ 10 ล้านบาร์เรล (เดือน พ.ค. 56 นำเข้าอยู่ที่ระดับ 8.5 ล้านบาร์เรล) เพื่อรองรับต่อความต้องการช่วงเทศกาล Ramadan ในเดือน ก.ค. 56 กอปรกับบริษัท CPC ของไต้หวันหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำมันเบนซินหลักในภูมิภาคจะลดอัตราการกลั่นของกลุ่มโรงกลั่น 3 โรงของบริษัทในเดือน มิ.ย. 56 ลง 20,000 บาร์เรลต่อวัน และงดการออกประมูลขายน้ำมันเบนซินในตลาดจรในเดือน มิ.ย. 56 ทางด้าน International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินในสิงคโปร์สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 10.17 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 110.55-115.66 เหรียญสหรัฐฯ/ บาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
อินเดียและซาอุดีอาระเบียมีความต้องการน้ำมันดีเซลเพิ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อินเดียจะส่งออกน้ำมันดีเซลลดลง ขณะที่ซาอุดีอาระเบียออกประมูลซื้อน้ำมันดีเซลในตลาดจรปริมาณ 770,000 บาร์เรล ทั้งนี้เกาหลีใต้มีปริมาณการกลั่นจะกลับมาเปิดดำเนินการหลังการปิดซ่อมบำรุง เดือน พ.ค. 56 ที่ปริมาณ 450,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่จีนมีปริมาณการกลั่นที่กลับมาเปิดดำเนินการที่ 220,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่งผลให้มีอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับต่อความต้องการในภูมิภาคโดยเฉพาะจากอินเดียและซาอุดีอาระเบีย ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 113.05-118.16 เหรียญสหรัฐฯ/ บาร์เรล