เกษตรฯ ร่วมมือสมาคมยางพาราไทย ตั้งเป้ารักษาเสถียรภาพราคายาง วางราคา 110 บาท/กก. พร้อมเร่งผลิตแปรรูปยางจากอีสานส่งเข้าโกดัง คาดภายใน มิ.ย.นี้ ไม่เหลือยางค้างโรงงานแน่นอน

ข่าวทั่วไป Friday May 17, 2013 11:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ว่า จากการประชุมร่วมกับสมาคมยางพาราไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการหารือถึงประเด็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับสมาคมยางพาราไทยในการรักษาเสถียรภาพราคายางปี 2556/57 เบื้องต้นได้วางราคาเป้าหมายอยู่ที่ 110 บาทต่อกิโลกรัม โดยการประชุมครั้งต่อไปจะเรียนเชิญนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต นายกกิตติมศักดิ์สมาคมยางพาราไทย เข้าร่วมหารือด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีแนวทางในการรักษาเสถียรภาพราคายางที่มีรายละเอียดมากขึ้นและมีข้อสรุปร่วมกันที่ชัดเจนในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาราคายางปรับตัวสูงขึ้นกิโลกรัมละ 14 บาท ส่วนราคายางส่งออกในส่วนของยางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 90 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามากอย่างต่อเนื่อง และยางจากโครงการฯ ก็ถูกทาบทามเพื่อซื้อเช่นกันแต่ยังไม่มีการขายออกไป นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าในส่วนของโกดังสวนกิตติ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ในขณะนี้ได้ดำเนินการเรียบร้อยสมบูรณ์ โดยบริษัทประกันภัยได้แจ้งหนังสือยืนยันการรับประกันเข้ามาแล้ว ซึ่งยางจากทางภาคอีสานใน จ.ศรีสะเกษ อุดรธานี และนครพนม ประมาณ 2 หมื่นตัน ที่อยู่ในโรงงานขององค์การสวนยาง ขณะนี้กำลังเร่งผลิตและทยอยขนย้ายนำเข้ามา คาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้ จะเข้ามาครบทั้งหมด ส่วนกรณียางที่สื่อมวลชนเห็นว่าถูกเก็บกองไว้ที่ จ.ศรีสะเกษ และอุดรธานี ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบมาแล้วนั้น ขณะนี้กำลังเคลื่อนย้ายเข้าสู่โรงงานผลิตเพื่อแปรรูปมาเข้าโกดังดังกล่าว โดยภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้ไป โรงงานขององค์การสวนยางจะไม่มียางที่ค้างไว้อีกแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของค่ายางที่ยังไม่ได้จ่ายให้กับสถาบันเกษตรกร ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ตรวจสอบพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ส่อว่าจะมีการสวมสิทธิ์นั้น ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่เกิดปัญหา โดยให้ผู้ว่าฯ เร่งเข้าไปตรวจสอบ หากมีหลักฐานว่ามีการสวมสิทธิ์จริงก็จะดำเนินคดีกับสถาบันเกษตรกรนั้นๆ ตามกฎหมายต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ