“ยุทธพงศ์” มอบปัจจัยการผลิตด้านการพัฒนาที่ดิน โครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้สารอินทรีย์ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร จ.มหาสารคาม

ข่าวทั่วไป Monday May 20, 2013 10:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์ “ยุทธพงศ์” มอบปัจจัยการผลิตด้านการพัฒนาที่ดิน โครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้สารอินทรีย์ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร จ.มหาสารคาม พร้อมส่งเสริมความรู้ให้เกษตรกรมีการผลิตและบริโภคอาหารอย่างปลอดภัย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีการมอบปัจจัยการผลิตด้านการพัฒนาที่ดิน โครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้สารอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร ณ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ว่า ในยุคปัจจุบัน เป็นยุคของการผลิตและบริโภคอาหารปลอดภัย (food safety) ผู้บริโภคมีการตื่นตัวในกระแสรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักสำคัญ ผู้ผลิตจึงต้องมีการปรับตัว เปลี่ยนวิธีคิดและระบบการผลิตใหม่ โดยหันมาใช้สารอินทรีย์ทดแทน ลดการใช้สารเคมีลง เพื่อพัฒนาไปสู่การผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์ในที่สุด และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานหลักในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ผลิตในการปรับกระบวนการผลิต จากการผลิตแบบเดิมที่ใช้ปุ๋ยเคมีเป็นหลักมาสู่การผลิตอาหารปลอดภัย โดยการใช้สารอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรควบคู่กับการปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อให้สามารถทำการผลิตได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมีทางการเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในการผลิตและการใช้สารอินทรีย์ สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่อยอดให้กับกลุ่มเกษตรกรที่มีการดำเนินการต่อเนื่อง และเข้มแข็ง ซึ่งในจังหวัดมหาสารคามนั้น มีเป้าหมาย 553 กลุ่ม โดยปัจจัยการผลิตที่จะมอบให้ผู้แทนจากกลุ่มเกษตรใช้สารอินทรีย์ทดแทนสารเคมีทางการเกษตร เช่น ถังหมักสำหรับผลิตน้ำหมักชีวภาพ กากน้ำตาล เมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด รวมทั้งสารปรับปรุงดินปูนโดโลไมท์ ในโครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้สารอินทรีย์ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร "การดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้สารอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร นอกจากจะทำให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในการผลิตและการใช้สารอินทรีย์แล้ว ยังก้าวสู่การผลิตเกษตรอินทรีย์ ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง” นายยุทธพงศ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ