กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มุ่งต่อยอด "สานโอกาสการลงทุน เพื่อคุณ เพื่อธุรกิจ" ให้ความสำคัญกับการขยายฐานผู้ลงทุนคุณภาพ โดยสนับสนุนสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ในการจัดทำบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ขนาดกลางและเล็กที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มดัชนี SET 100 ครอบคลุมหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) ในลำดับที่ 101—250 เพื่อให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ เป็นความร่วมมือในการจัดหาเครื่องมือที่จะช่วยให้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์สามารถนำไปจัดทำบทวิเคราะห์เพื่อให้คำแนะนำในการลงทุนได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วขึ้น โดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับคัดเลือกในการให้บริการข้อมูล คือ S&P Capital IQ ซึ่งได้ลงนามในสัญญากับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “จากข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาสสี่ปี 2555 จนถึงสิ้นเดือนเมษายนปีนี้ สัดส่วนและมูลค่าซื้อขายหุ้นที่มี Market Cap ขนาดกลางและขนาดเล็กเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ เช่น หุ้นใน SET50 โดยสัดส่วนของหุ้นขนาดกลางและเล็กมีมูลค่าซื้อขายประมาณ 45% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งตลาด เทียบกับช่วงก่อนหน้าที่มีสัดส่วนประมาณ 34%
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงให้ความสนับสนุนแก่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเพื่อให้มีการจัดทำบทวิเคราะห์หุ้นจำนวนมากขึ้น โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มี Market Cap ตั้งแต่อันดับ 101-250 รวม 150 บริษัท และหวังว่าการสนับสนุนครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพของตลาดทุนไทยทั้งผู้ลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ โดยช่วยให้นักวิเคราะห์มีเครื่องมือที่ใช้จัดทำบทวิเคราะห์เต็มรูปแบบได้ในระยะเวลาอันสั้น และสามารถเผยแพร่บทวิเคราะห์ที่มีความคิดเห็นที่หลากหลายไปยังผู้ลงทุนได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ทันต่อความต้องการ สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ ก็จะมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำลงจากการให้ความสนับสนุนดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ต้องการเพิ่มจำนวนบทวิเคราะห์ให้ครอบคลุมหลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างสูง ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้การสนับสนุนสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเป็นการต่อเนื่อง 3 ปี”
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวว่า “ในการให้บริการข้อมูลหลักทรัพย์เพื่อจัดทำบทวิเคราะห์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และจากบริษัทสมาชิกที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์ได้ตัดสินใจลงนามการใช้บริการอย่างเป็นทางการในวันนี้ 10 บริษัท”
“ทั้งนี้ ASCO ได้พิจารณาคัดเลือกบริษัท S&P Capital IQ บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการข้อมูลเพื่อจัดทำบทวิเคราะห์ ซึ่งใช้หลักการและเกณฑ์การจัดทำข้อมูลที่เป็นมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก ทำให้สามารถเปรียบเทียบบริษัทไทยกับบริษัทที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันในประเทศอื่นได้ด้วย ข้อมูลที่บริษัทหลักทรัพย์จะได้รับประกอบด้วยข้อมูลทางการเงิน พัฒนาการของบริษัท และข้อมูลอื่นๆ ที่มีคุณภาพในระดับสากลที่ใช้ในการจัดทำบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้านปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เนื่องจากข้อมูลของ S&P Capital IQ ค่อนข้างละเอียด มีความหลากหลายและใช้งานง่ายโดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บไซต์และดึงข้อมูลมาใช้ต่อในรูปแบบ Excel ทำให้นักวิเคราะห์สามารถนำข้อมูลไปใช้งานต่อในการจัดทำบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดย ASCO เห็นว่า เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนที่จะมีบทวิเคราะห์จำนวนมากขึ้น ได้รับทราบมุมมองของนักวิเคราะห์อย่างหลากหลาย และเชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพของอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ไทยได้ต่อไป” นางภัทธีรา กล่าวเสริม
Mr Jose Ordonez กรรมการผู้จัดการ ดูแลงานด้านการขายในภาคพื้นแปซิฟิค S&P Capital IQ กล่าวว่า S&P Capital IQ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยในการตอบสนองความต้องการด้านการลงทุน ด้วยทีมงานมืออาชีพกว่า 4,000 คนทั่วโลก ครอบคลุมข้อมูลพื้นฐานในเชิงลึกของบริษัททั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จะช่วยให้นักวิเคราะห์ไทยสามารถจัดทำบทวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนไทยด้านข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถเริ่มให้ข้อมูลหลักทรัพย์ขนาดกลางและเล็กได้ทันที และจะพัฒนาเป็นบทวิเคราะห์สำหรับหลักทรัพย์ที่มีความน่าสนใจในการลงทุนภายในระยะเวลาอันใกล้