กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ ว่า ที่ประชุมได้รับรายงานสถานการณ์ไก่ไข่และไข่ไก่ในปัจจุบัน ของกรมปศุสัตว์ โดยขณะนี้มีไก่ไข่ยืนกรง จำนวน 46-47 ล้านตัว ซึ่งโดยปกติจะให้ผลผลิต 36 ล้านฟองต่อวัน แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีอุณหภูมิที่ร้อนจัด ทำให้ไก่เกิดอาการเจ็บป่วย ส่งผลให้ผลผลิตไข่ไก่มีปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละวัน โดยลดลงเหลือ 32 ล้านฟองต่อวัน ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้คำนวณต้นทุนการผลิตไข่ไก่โดยเฉลี่ย ฟองละ 2.85 บาท ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มขั้นสูงเป็น 3.28 บาท - 3.42 บาท และราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มขั้นต่ำ ฟองละ 2.99 บาท (ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มชั้นสูง = ต้นทุนการผลิต+ (15-20%) ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มขั้นต่ำ = ต้นทุนการผลิต+(5%) ทั้งนี้ หากราคาไข่ไก่สูงกว่าราคาขั้นสูง หรือต่ำกว่าราคาขั้นต่ำ คณะกรรมการฯ จะกำหนดมาตรการรองรับ โดยขอรับการสนับสนุนจาก คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีมติให้กรมปศุสัตว์และกระทรวงพาณิชย์ ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงของปริมาณผลผลิตไข่ไก่ยืนกรง และผลผลิตไข่ไก่ในตลาด ภายใน 1 สัปดาห์ด้วย
นายยุคล กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงการบริหารโครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ปี 2555 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก คชก.ในการช่วยเหลือราคาไข่ไก่ที่ล้นตลาดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จำนวน 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมที่ 1 การชดเชยการลดกำลังการผลิตไข่ไก่ กิจกรรมที่ 2 การรวบรวมไข่ไก่ออกจากระบบ กิจกรรมที่ 3 การรณรงค์บริโภคไข่ไก่ของสหกรณ์ โดยในกิจกรรมที่ 1 การชดเชยการลดกำลังการผลิตไข่ไก่ มีเป้าหมายปลดแม่ไก่ไข่ออกจากระบบ 2.58 ล้านตัว แต่ดำเนินการได้เพียง 37,000 ตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเกษตรกรไม่ได้ให้ความสนใจในโครงการดังกล่าว จึงมีมติให้ยุติโครงการนี้ และนำเงินคืน คชก. ส่วนกิจกรรมที่ 2 การรวบรวมไข่ไก่ออกจากระบบ เนื่องจากมีพันธะสัญญากับต่างประเทศที่ต้องส่งออกไข่ไก่ 28 ล้านฟอง ภายในเดือนมิถุนายน 2556 โดยจะมีการส่งออกไข่ไก่เฉลี่ย 1 ล้านฟองต่อวัน จึงเห็นควรให้ดำเนินการต่อไป และกิจกรรมที่ 3 การรณรงค์บริโภคไข่ไก่ของสหกรณ์ โดยการบริโภคไข่ไก่ของสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 สหกรณ์ ที่ประชุมได้มีมติให้ยุติในส่วนการจำหน่ายไข่ไก่ตรงสู่ผู้บริโภค และจำหน่ายในร้านอาหาร แต่ยังคงจำหน่ายไข่ไก่ให้โรงเรียนในพื้นที่ต่อไป
สำหรับการพิจารณาข้อเรียกร้องของเกษตรกร ในการชดเชยการขาดทุนไก่ไข่ ปี 2555 และการรับจำนำราคาขาไก่ราคาฟองละ 3.50 เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่ฯ ได้เตือนผู้ประกอบการและประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ปี 2553 ว่า เมื่อไมได้ควบคุมการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์จะทำให้ปริมาณไก่ไข่ในระบบสูงเกินกว่าความต้องการในการบริโภค ซึ่งจะทำให้ราคาตกต่ำและที่ผ่านมาเกษตรกรได้เรียกร้องขอให้เป็นไปตามกลไกตลาด ประกอบกับในช่วงปลายปี 2555 ถึงต้นปี 2556 ได้รับเงินจาก คชก. มาดำเนินการโครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ปี 2555 ตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรและสมาคมผู้ผลิต และขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ จึงเห็นว่าไม่สมควรชดเชยการขาดทุนของเกษตรกร ขณะที่การรับจำนำราคาไข่ไก่ราคาฟองละ 3.50 นั้น เนื่องจากไข่ไก่เป็นสินค้าที่เน่าเสียง่าย ยากต่อการเก็บรักษาและการรับจำนำ ซึ่งจะทำให้ปริมาณไข่ล้นเกินความต้องการไปเรื่อยๆ จึงมีมติไม่สมควรดำเนินการดังกล่าว