บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะจัดพอร์ตลงกองหุ้นหลังปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แนะกองหุ้นเด่น SCBDV ผลตอบแทนย้อนหลังกว่า 333%

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 4, 2013 13:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--PRdd นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงนี้ว่า ยังคงมีความน่าสนใจลงทุน จากการที่ตลาดได้ปรับตัวลดลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง เนื่องจากนักลงทุนหันกลับไปลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนยังคงดีอยู่ และ หลายบริษัทจะมีผลการดำเนินการที่ดีขึ้นในไตรมาสถัดไป ในระดับราคาหุ้นปัจจุบันนั้น จึงเป็นจังหวะดีที่จะทยอยเลือกซื้อหุ้นที่ดีเก็บไว้ ประกอบกับความเสี่ยงด้านการเมืองลดลงจากการปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายได้มีการปรับลงอีก 0.25% ซึ่งจะส่งผลให้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นดูน่าสนใจมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของผลดำเนินงานกองทุนหุ้นก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาด ถึงแม้จะมีการปรับตัวลดลงบ้างแต่ก็มองว่าเป็นการปรับตัวระยะสั้น โดยทิศทางระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น จึงแนะนำให้นักลงทุนถือครองกองทุนรวมหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและ กองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตเร็วและทำกำไรสูง สำหรับแนวทางการลงทุนในช่วงนี้ บริษัทฯยังคงแนะนำให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตตามความเสี่ยงที่รับได้ โดยสามารถกระจายสินทรัพย์ไปกองทุนหุ้น ทั้งนี้ กองทุนภายใต้การบริหารจัดการลงทุนของบลจ.ไทยพาณิชย์ที่แนะนำคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV) ที่สามารถให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึง ณ สิ้นเดือน เม.ย. 56 สูงถึง 333.26% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ผลตอบแทน 180.90% ซึ่งกองทุนนี้เน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผลดี ซึ่งมักจะเป็นหุ้นของบริษัทที่เน้นการสร้างผลกำไรและบริหารเงินสดที่ดี เป็นบริษัทที่เหมาะกับ สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีอีก 1 กองทุนที่น่าสนใจ คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง (Growth stocks) สามารถให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (28 มิ.ย.54) จนถึงณ สิ้นเดือน เม.ย. 56 อยู่ที่ 76.49% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ผลตอบแทน 57.66% ซึ่งกองทุนนี้เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวนไม่เกิน 30 หลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มั่นคง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอแก่ผู้ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุนด้วย นางโชติกา กล่าวว่า ในช่วงนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นพร้อมกันอีก 2 กองทุนซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวและให้ผลตอบแทนเป็นไปตามดัชนีอ้างอิง สำหรับผลดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2555 ถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2556 ได้แก่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (SCBENERGY) ซึ่งจะจ่ายปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.57 บาท และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING) จ่ายในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.42 บาท ในวันที่ 5 มิถุนายน 2556

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ