แฟรี่บริดจ์ เปิดตัว “168 แพลตินั่ม” อุดรธานี อาณาจักรค้าส่งแฟชั่นชั้นนำครบวงจร กว่า 1,000 ร้านค้า ขยายการลงทุนรับ AEC

ข่าวทั่วไป Wednesday June 5, 2013 15:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค “แฟรี่บริดจ์” ปักธงศูนย์กลางค้าส่ง จ.อุดรธานี เปิดตัว “168 แพลตินั่ม” อาณาจักรค้าส่งแฟชั่น ชั้นนำครบวงจรกว่า 1,000 ร้านค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ลงทุนคุ้มค่า ร้านค้าทำเลทอง” The Wholesales Destination จุดหมายใหม่ของการค้าส่ง สมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าทั้งไทย ลาว เวียดนาม จีน พร้อมรับความเติบโต ในภูมิภาคอาเซียน (AEC) เปิดจองพื้นที่อย่างเป็นทางการ 15 มิ.ย. นี้ นางสาวปัญจพร พัฒนพิฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟรี่บริดจ์ โฮลดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้พัฒนาโครงการ “168 แพลตินั่ม” เปิดเผยว่า โครงการ 168 แพลตินั่ม ได้พัฒนาขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “ลงทุนคุ้มค่า ร้านค้าทำเลทอง” The Wholesales Destination ศูนย์ค้าส่งแฟชั่นชั้นนำกว่า 1,000 ร้านค้า ที่ทันสมัยและครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน พัฒนาบนสุดยอดทำเลศักยภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุนของ จ.อุดรธานี มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยทุกพื้นที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มผู้ประกอบการค้าส่ง และค้าปลีก ทั้งใน จ.อุดรธานี จังหวัดใกล้เคียง เช่น ขอนแก่น หนองคาย หนองบัวลำพู สกลนคร ฯลฯ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าโครงการ 168 แพลตินั่ม จะเป็นศูนย์ค้าส่งที่เข้ามาช่วย ให้ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องเดินทางมาซื้อที่กรุงเทพฯ ตลอดจนรองรับกลุ่มผู้ประกอบ จากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว รวมทั้งประเทศใกล้เคียง เช่น เวียดนาม และ จีน ที่มีอยู่จำนวนมาก และพร้อมรับความเติบโตในภูมิภาคอาเซียน (AEC) อีกด้วย โครงการ 168 แพลตินั่ม ตั้งอยู่บนพื้นที่ 44 ไร่ ติดถนนบุญยาหาร อ.เมือง จ.อุดรธานี ใกล้สนามบิน เพียง 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางสู่จังหวัดโดยรอบได้สะดวก พัฒนาเป็นศูนย์ค้ามีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 52,000 ตร.ม. มีร้านค้าถึง 1,168 ร้านค้า จัดโซนอย่างเป็นสัดส่วน แบ่งออกเป็น เฟสที่ 1 จำนวน 679 ร้านค้า และเฟส 2 จำนวน 489 ร้านค้า ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 9 ตรม.- 13.50 ตรม. โดยแบ่งเป็นส่วนพื้นที่เป็นประเภทขายสิทธิการเช่า (เช้งระยะยาว) 10 ปี, 20 ปี และ 30 ปี ประกอบด้วย โซนแฟชั่นหญิง, แฟชั่นชาย, แฟชั่นเด็ก,เครื่องประดับ, เครื่องหนัง และพื้นที่สำหรับเช่าระยะสั้น ประกอบด้วยพื้นที่ พลาช่า ,รีเทล และโซนปรับอากาศ ครบครันด้วยศูนย์รวมธนาคาร ศูนย์อาหาร ห้องน้ำหรูระดับดีลักซ์ และที่จอดรถรองรับกว่า 600 คัน นอกจากนี้มีการออกแบบตกแต่งภายในที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้สัญลักษณ์แห่งเอเชีย 4 โซน ได้แก่ ตลาดเอเชีย, ตลาดสยาม, ตลาดลาว และตลาดจีน ตลอดจนโครงสร้างอาคารถูกออกแบบให้มีหลังคาเสริมฉนวนกันความร้อน เพดานอาคารที่สูงกว่ามาตรฐาน มีการวางหลังคาหลายชั้นซ้อนกัน รวมทั้งการติดตั้งพัดลมขนาดยักษ์ (Giant Turbo Fan) ขนาด 6 เมตร เพื่อช่วยให้อากาศถ่ายเท ได้สะดวก สร้างบรรยากาศและประสบการณ์การซื้อขายที่สะดวกสบายและทันสมัยสำหรับผู้ประกอบการและลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอย โดยโครงการยังมีแผนงานด้านการตลาดและการขายหลังศูนย์เปิดดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นให้มีกำลังซื้อเข้ามาสนับสนุนการค้าของผู้เช่า ทั้งนี้โครงการจะเปิดจองพื้นที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มิถุนายน ศกนี้ พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษ 10 ยูนิต สำหรับผู้จองและวางเงินทำสัญญาพื้นที่เช่าเซ้ง 30 ปี ด้วยส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท ซึ่งหลังจากเปิดการขายอย่างไม่เป็นทางการในช่วงกลางเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีขณะนี้มียอดจองในเฟสที่ 1 แล้วกว่า 70% ส่วนด้านการก่อสร้าง มีความคืบหน้าแล้วประมาณ 40 % คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ และพร้อมเปิดให้บริการภายในไตรมาสแรกของปี 2557 นางสาวปัญจพร กล่าวต่อว่า จากการศึกษาตลาดของ จ.อุดรธานี ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่าเป็นอีกจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานที่มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ มีการเติบโตสูงทั้งในด้านการเป็นศูนย์กลางการค้าและบริการของภาคอีสานตอนเหนือ เช่น การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภาคอีสาน และมีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงจำนวนมากทั้งในจ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนกลุ่มลูกค้าที่มาจาก สปป.ลาว เวียดนาม และจีน เป็นต้น ประกอบกับยังเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพที่จะรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ โดยเห็นได้จากแผนจากภาครัฐที่จะให้จ.อุดรธานีเป็นชุมทางของรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจในย่านนี้มีความเติบโตมากขึ้น และการเปิดเสรีทางการค้า AEC จะช่วยเอื้อให้ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ขยายตลาดภายในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของการค้าตามแนวชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีการค้าขายผ่านแนวชายแดนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของการค้าทั้งหมด จึงคาดการณ์ว่าธุรกิจค้าส่งของไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนจะมีโอกาสขยายตัว ได้อีกมากภายหลังการเปิด AEC "บริษัทมีความมั่นใจว่า โครงการ 168 แพลตินั่ม จะเป็นศูนย์ค้าส่งที่เติบโตอย่างยั่งยืน และจะนำความเจริญ ความคุ้มค่าด้านการลงทุน สู่กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้ามาค้าขายใน 168 แพลตินั่ม ตลอดจนความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจสู่ชาวจ.อุดรธานี ในระยะยาว” นางสาวปัญจพร กล่าว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด โทรศัพท์ : 0-2937-4518-19 โทรสาร : 0-2937-4510 Email : patthira@pr-one.com,utaiwan@pr-one.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ