‘มาสเตอร์ แอด’ เดินหน้าขยายพื้นที่โฆษณา ตั้งเป้ารายได้โต 35% เปลี่ยนป้ายเดิมเป็น ดิจิตอล มีเดีย พร้อมลุยหาทำเลใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

ข่าวทั่วไป Monday June 10, 2013 16:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ MACO รุกเปลี่ยนป้ายโฆษณาเดิมเป็น LED เพิ่มรายได้และรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค พร้อมเสาะหาพื้นที่โฆษณาใหม่ตามหัวเมืองใหญ่ ในพื้นที่ของรัฐ รวมถึงต่างประเทศ หลังประเมินทิศทางธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปีนี้ทำรายได้โต 35% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้นำในด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยครบวงจรของไทย ( The Leader in Creative & Innovative Solution Provider) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ไว้จำนวน 400 ล้านบาท โดยจะใช้ในการพัฒนาสื่อในพื้นที่เดิมจำนวน 260 ล้านบาท โดยจะปรับเปลี่ยนป้ายโฆษณากลางแจ้ง (Billboard) เป็นจอ LED และเพิ่มสื่อบริเวณถนน (Street Furniture) บริเวณตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส จำนวน 20 สถานี เป็นจอ LED เช่นเดียวกัน ขณะที่เงินลงทุนที่เหลืออีก 140 ล้านบาท จะเตรียมไว้ในการขยายพื้นที่โฆษณาใหม่ไปยังหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาขอสัมปทานพื้นที่โฆษณาจากหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณไตรมาส 3/2556 “สื่อภายนอกที่อยู่อาศัย จำเป็นต้องมีนวัตกรรมการสื่อสารที่แปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค ซึ่งการเปลี่ยนป้ายโฆษณาไปเป็น LED นอกจากจะทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้นในแง่ของการโฆษณาสินค้าหรือบริการแล้ว ในส่วนของ MACO เองก็จะมีรายได้มากขึ้น โดยคาดว่ารายได้ปีนี้จะโตจากปีก่อน 35% อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้มองที่ตัวเลขรายได้อย่างเดียว เรายังมีเป้าหมายในการรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ได้ในระดับ 20% ด้วย ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 158.43 ล้านบาท กำไรสุทธิ 35.52 ล้านบาท เป็นอัตรากำไรสุทธิ 22.41% นับว่าอยู่ในเป้าหมายที่วางไว้” นายนพดลกล่าว นายนพดลกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมโฆษณายังเติบโตได้ดี เพราะปัจจัยเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังในการใช้จ่ายมากขึ้น เจ้าของสินค้าและบริการก็ต้องสื่อสารถึงผู้บริโภคมากขึ้น ขณะที่หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ก็มีการใช้จ่ายงบโฆษณาเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองของไทยที่มีเสถียรภาพ ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการซื้อพื้นที่โฆษณาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเปิดประชาคมอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558 ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับการโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์ของสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ปัจจุบันธุรกิจของ MACO แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ธุรกิจสื่อโฆษณาหรือ MACO Space ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก อาทิ ป้ายโฆษณากลางแจ้ง (Billboard) สื่อบริเวณถนน (Street Furniture) สื่อบริเวณสถานีขนส่งและยานพาหนะ (Transit) และธุรกิจ Non MACO Space อาทิ สื่อที่ผลิตตามความต้องการของลูกค้า (Made To Order) การจัดกิจกรรมทางการตลาด (Event) และสื่ออื่นๆ ซึ่งในส่วนของ Non MACO Space นั้น บริษัทฯ จะรับงานที่สอดคล้องกับนโยบายในเรื่องของการเพิ่มรายได้ที่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ด้วย เพื่อไม่ให้กระทบต่ออัตราการทำกำไรของบริษัทฯ และหากเป็นโครงการต่อเนื่องระยะยาวก็จะพิจารณาเป็นพิเศษ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ