กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,385 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,364 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.80 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,100 บาท กับ 20,200 บาท และกลับมาปิดที่ 20,000 บาท กับ 20,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 558 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,355 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 20 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.3% แบบ 10 บาทลดลง 3 % GFM13 ปิด 20,200 บาท และ GFQ13 ปิด 20,280 บาท GF10M13 ปิด 20,190 บาท GF10Q13 ปิด 20,270 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 16.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,366.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 8.1เซนต์ ปิดที่ระดับ 21.67 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,001.66 ตัน (ขายออก 1.51 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 0.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 98.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 138.38 จุด ปิดที่ 15,318.23 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ระดับ 1,361 เหรียญเมื่อคืนนี้ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,366.9 เหรียญ โดยมีปัจจัยกดดันหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นจากแรงเทขายทางเทคนิค การกระตุ้นการใช้คำสั่ง pre-placed sell stop orders การปิดสถานะ Long Position ก่อนผลการประชุมเฟด รวมไปถึงการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ต่างก็เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเมื่อวาน
SPDR ขายต่อเนื่องจากเมื่อวานอีก 1.51 ตัน ปัจจุบันคงทองคำที่ระดับ 1,001.66 ตัน ต่ำสุดในรอบมากกว่าสี่ปี
การประชุมเฟดจะสิ้นสุดในช่วงคืนวันนี้ตามเวลาไทย โดยจะมีการแถลงผลการประชุมในช่วงเวลา 01.00 น. หลังจากนั้นนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะออกมาแถลงข่าวเวลา 01.30 น.
มีกระแสคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ว่าเฟดคงยังไม่ได้ลดขนาดหรือยกเลิกมาตรการ QE ในการประชุมครั้งนี้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นในระยะหลังอาจเป็นสิ่งจูงใจให้เหล่าสมาชิกเฟดเริ่มต้นที่จะชะลอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต
สิ่งที่เทรดเดอร์จับตาก็คือ จะมีความชัดเจนใดจากแถลงการณ์ FOMC หรือถ้อยแถลงของนายเบอร์นันเก้ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดและเวลาของ QE หรือไม่ ซึ่งหากมีจะส่งผลกดดันต่อราคาทองคำในท้ายที่สุด
เมื่อวานนี้สำนักข่าว Bloomberg รายงานคำกล่าวของนายโอบาม่าที่ระบุว่า นายเบน เบอร์นันเก้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดมานานมากกว่าที่เขาเองต้องการจะเป็น และเขาได้ทำงานที่ค้างคาไว้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ประธานเฟดจะออกจากตำแหน่งเมื่อสิ้นสุดวาระในต้นปีหน้าอย่างแน่นอน
ฝ่ายปกครองเฟดคนก่อนกล่าวต่อ CNBC เช้านี้ว่า นางเจเน็ต เยลเลน เหมาะสมที่จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไปแทนนายเบน เบอร์นันเก้
สำหรับทางฝั่งยูโรโซน ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีเมื่อวานออกมาดีกว่าที่คาด ส่งผลสนับสนุนสกุลเงินยูโร
นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีกล่าวว่า อีซีบีกำลังพิจารณาเครื่องมือทางนโยบายการเงินแบบไม่มาตรฐานเพื่อช่วยเหลืเศรษฐกิจเพิ่มเติม และจะนำมาใช้หากสภาพแวดล้อมพร้อมรับ
บาร์เคลย์และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ แบงก์ คาดการณ์ว่า ยอดนำเข้าทองคำของอินเดียในเดือนมิถุนายนจะลดลงจากมาตรการจำกัดการนำเข้าต่างๆ และภาษีที่ปรับสูงขึ้น
ค่าพรีเมี่ยมทองคำในฮ่องกงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2 เหรียญจาก 6 เหรียญในเดือนที่แล้ว
เช้านี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ฮ่องกง และออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยนที่กระตุ้นยอดส่งออกของญี่ปุ่นให้พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
-Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.01M ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 0.97M
-Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.1% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มชึ้นอยู่ที่ 0.2%
-CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.4% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มชึ้นอยู่ที่ 0.1%
-Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.86M ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มชึ้นอยู่ที่ 0.91M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
-Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 2.5M ตัวเลขคาดการณ์ลดลง อยู่ที่0.5M
- Federal Funds Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.25% ตัวเลขคาดการณ์เท่าเดิม 0.25%
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงต้นตลาด COMEX ในระหว่างตลาดลอนดอน โดยที่ตลาดยังมีความคาดหวังหรือใช้ข่าวเรื่องการลดขนาดของมาตรการ QE ซึ่งโดยภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ออกมาเมื่อคืนส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากเดิม อันได้แก่ Core CPI, CPI, และ Housing ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งค่าเงินเยนอ่อนลงอย่างมาก ตอนนี้อยู่ที่ระดับ 95.38 เยน/ดอลลาร์ และตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเมื่อวานออกมาปรับตัวดีขึ้น ดาวโจนส์ปิดบวก 138.38 จุด หรือ 0.91% ปิดตลาดที่ระดับ 15,318.23 จุด ค่าเงินยูโรต่อดอลลาร์ปิด 1.3413 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียเช้านี้เปิดตลาดปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
จะเห็นได้ว่าภาพรวมราคาทองคำปรับตัวมีการแกว่งตัวอย่างมากและปรับตัวในทิศทางขาลง โดยที่เมื่อวานนี้ SPDR ขายต่อเนื่องอีก 1.51 ตัน คงเหลือการถือครองทองคำเพียง 1,001.66 ตัน ภาพรวมมีความกังวลว่าเฟดอาจจะมีการลดปริมาณ QE ลง ทำให้ราคาทองคำหลุดจากระดับแนวรับที่ 1,375 เหรียญลงมา โดยเมื่อวานราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,361 เหรียญโดยประมาณ และดีดขึ้นมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,366.9 เหรียญ ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1,365 เหรียญ วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลงในรูปของดอลลาร์สหรัฐ จะเห็นได้ว่าราคาทองคำของไทยอาจจะทรงตัวอยู่ในที่เดิมได้ เนื่องจากค่าเงินบาทนั้นอ่อนค่าจากเมื่อวานอย่างมาก ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 30.99 บาท/ดอลลาร์ อ่อนจากเมื่อวาน 20 สตางค์ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยดึงราคาทองคำของไทยให้ทรงตัวอยู่ได้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้เป็นการลงทุนในลักษณะ Sideways อย่างต่อเนื่อง โดยที่ทองคำของไทยจะมีแนวรับบริเวณ 20,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ระดับ 20,350 บาท/บาททองคำ สำหรับราคาทองคำของต่างประเทศจะมีแนวต้านอยู่ที่ 1,385 เหรียญ และมีแนวรับอยู่ที่ 1,360 เหรียญและ 1,350 เหรียญตามลำดับ โอกาสที่จะลงไปทดสอบ 1,350 เหรียญมีสูง
- นักลงทุนถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ปรับพอร์ทให้สมดุล หมายความว่า ทำพอร์ทอยู่ที่ประมาณ 30-40% ปิดสถานะเมื่อมีโอกาสทำกำไรได้ และรอความชัดเจนของตลาดอีกครั้งหนึ่งในคืนนี้ เชื่อว่าตลาดน่าจะแกว่งตัวอย่างมากทั้งก่อนและหลังการประชุมเฟด โดยที่จะมีการแถลงผลการประชุม FOMC ในช่วงเวลา 01.00 น. และนายเบน เบอร์นันเก้จะแถลงข่าวในช่วงประมาณ 01.30 น. ราคาทองคำน่าจะแกว่งในช่วงประมาณ 1,350 — 1,385 เหรียญ
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,200 บาท
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,280 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้นยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง