โพลล์เผยพฤติกรรมความสนใจภาษาอื่น ๆองเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ. ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการและดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ แถลงผลการสำรวจเรื่องความคิดเห็นต่อการเรียนรู้ และ ความสนใจในการเรียนรู้ภาษาที่สามนอกเหนือจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษของกลุ่มวัยรุ่นไทยในเขตกรุงเทพมหานครของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพมหานคร ว่า สืบเนื่องจากประเทศไทยกำลังจะก้าวเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 2015 เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ปี ที่คนไทยและเยาวชนไทย จะได้พบความเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา นอกเหนือจากกลุ่มประเทศมหาอำนาจเดิม ดังนั้น การติดต่อสื่อสารจำเป็นต้องใช้ทั้งภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักและภาษาที่สาม เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษารัสเซีย ฯลฯ ด้วย นักวิชาการด้านการศึกษาหลายท่านแสดงความห่วงใยถึงความสนใจและเอาใจใส่ของวัยรุ่นไทยต่อการเรียนรู้ภาษาที่สามเพราะในเยาวชนไทยระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่านั้นแม้แต่ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นวิชาบังคับเยาวชนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เอาใจใส่เท่าที่ควร ผู้ใหญ่หลายฝ่ายต่างห่วงว่าทักษะทางภาษาของเยาวชนไทยจะล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) ทำการสำรวจกลุ่มเยาวชนไทย ในกรุงเทพมหานคร อายุระหว่าง 15-24 ปี ระดับการศึกษาภาคบังคับถึงระดับสูงปริญญาตรี จำนวน 1,085 คนโดยวิธีการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ในระหว่างวันที่ 14-19 มิถุนายน 2556 พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า ในปัจจุบันการเรียนรู้ภาษาที่สามนอกเหนือจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีความสำคัญ 83.04 % อีก 78.81 %เชื่อว่าวัยรุ่นไทยมีศักยภาพในการเรียนรู้ภาษาที่สาม และ กลุ่มตัวอย่าง 81.29% มีความคิดเห็นว่าสถาบันการศึกษาควรจัดหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาที่สามให้กับผู้เรียนทุกคน นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความพร้อมในการเรียนรู้ภาษาที่สามนอกเหนือจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยคิดเป็น 78.34% ขณะเดียวกัน กลุ่มตัวอย่าง 77.51% ตอบว่า ในปัจจุบันมีความสนใจอยากเรียนรู้ภาษาที่สามนอกเหนือจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สำหรับภาษาที่สามที่กลุ่มตัวอย่างสนใจเรียนรู้มากที่สุดคือภาษาจีนกลาง โดยคิดเป็น 39.48 %รองลงมา สนใจเรียนรู้ภาษาเกาหลี และ ภาษาญี่ปุ่น โดยคิดเป็น 23.19% และ 16.76% ตามลำดับ สาเหตุที่กลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีความสนใจอยากเรียนรู้ภาษาที่สามคือ ต้องการเพิ่มโอกาสในการหางานทำหรือเพื่อประโยชน์ในการทำงาน โดยคิดเป็น 85.49 %รองลงมาคือ ต้องการติดตามข้อมูลเรื่องราวของสิ่งที่สนใจ เช่น ข้อมูลดารานักร้อง นักแสดง การ์ตูน เพลง ละคร ภาพยนตร์ เกม เป็นต้น คิดเป็น 84.66 %ขณะที่ กลุ่มตัวอย่าง 82.16% มีความสนใจเรียนภาษาที่สามเนื่องจาก พ่อแม่ผู้ปกครองหรือบุคคลใกล้ชิดต้องการให้เรียน และ สำหรับสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างคาดหวังจากการเรียนภาษาที่สามมากที่สุดได้แก่ มีทักษะในการใช้ภาษานั้นๆ อย่างเพียงพอในการนำไปใช้ได้จริง โดยคิดเป็น 85.26 % องลงมาคือ ได้ฝึกการใช้ภาษานั้นๆ ในสถานการณ์จริงกับเจ้าของภาษา คิดเป็น 83.12 %ขณะที่ กลุ่มตัวอย่าง 80.62 อ คาดหวังว่า จะมีสื่อการเรียนการสอน เช่น ตำรา หนังสือ สิ่งพิมพ์ วารสาร สื่อโสตทัศนูปกรณ์ เกี่ยวกับภาษานั้นๆ ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และ เพียงพอในการใช้เรียน และ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 79.55 คาดหวังว่าจะได้เรียนกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในภาษานั้นๆ อย่างแท้จริง กลุ่มเยาวชนไทยยังให้ความสำคัญต่อสิ่งบันเทิง และนักร้อง นักแสดง สาระบันเทิงและสิ่งเร้าภายนอก โดยกลุ่มเยาวชนไทยตัวอย่าง 84.66 %ต้องการรู้ภาษาที่สามเช่น ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น ฯลฯเพื่อติดต่อข้อมูลเรื่องราวของคนที่ตนชื่นชอบ