บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลแนะปรับพอร์ต สร้างผลตอบแทนอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่ยุคไร้ QE ด้วยกองทุน iFUND Series ที่ยืนหยัดจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 4, 2013 15:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล จำกัด แจ้งข่าวประกาศจ่ายเงินปันผลและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ สำหรับ 4 กองทุน iFUND Series ซึ่งได้แก่ 1.กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iPROP) 2. กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ดิวิเดนด์ อินคัม(CIMB-PRINCIPAL iDIV) 3.กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iFIXED) และ 4.กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iDAILY) นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี—พรินซิเพิล จำกัด แจ้งข่าวกลุ่มกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล อินคัม หรือ กองทุน iFUND Series ทั้ง 4 กองทุนดังกล่าวข้างต้นนั้น ประกาศปิดสมุดทะเบียนกองทุนในวันที่ 28 มิถุนายน 2556 เพื่อจ่ายเงินปันผลสำหรับนักลงทุนที่ถือครองกองทุนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2556 โดยกองทุนทั้ง 4 กองทุน จะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน 2 ชนิดคือ Class D และ Class R ซึ่ง Class D จะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 สำหรับ Class R จะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 กองทุน iPROP รับซื้อคืนอัตโนมัติครั้งที่ 5 ในอัตรา 0.27 บาทต่อหน่วย คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 8% ต่อปี สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/56 โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ร้อยละ 5.79* กองทุน iDIV รับซื้อคืนอัตโนมัติครั้งที่ 4 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 12% ต่อปี สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/56 โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ร้อยละ 31.67* กองทุน iFIXED รับซื้อคืนอัตโนมัติครั้งแรก ในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 4% ต่อปี สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/56 โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ร้อยละ 4.31* กองทุน iDAILY รับซื้อคืนอัตโนมัติครั้งที่ 3 ในอัตรา 0.064 บาทต่อหน่วย คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 2.5% ต่อปีสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/56 โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ร้อยละ 2.78* “สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2556 สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในภาวะผันผวน นักลงทุนทั่วโลกมีความกังวลกับผลกระทบจากการถอนและยุติมาตรการผ่อนคลายทางการคลัง (QE) ของอเมริกา อย่างไรก็ตาม กองทุนกลุ่ม iFUND Series ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเรายังคงสามารถสร้างผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับนักลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอทุกๆไตรมาส” นายจุมพลกล่าวเสริม นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วไทยและเอเชียที่ผ่านมาปรับลงมาค่อนข้างมากในรอบนี้เกิดจากแรงขายอย่างตื่นตระหนกของนักลงทุนต่างชาติบนความกังวลว่าธนาคารกลางอเมริกาจะถอนหรือยุติมาตรการการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ตลาดทั่วภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะกลุ่ม TIP (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิบปินส์) ก็ปรับลงแรง ตามมาด้วยอาการ Panic sell ซึ่ง ณ จุดนี้มองว่าเป็นการปรับฐานที่มากเกินไป สังเกตเห็นได้ว่าปลายเดือนมิถุนายนนั้น ตลาดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของไทยพบว่า บัญชีเงินทุนเดินสะพัดและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2556 จะเติบโต 4% — 5% และแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนฯ ของไทยยังมีการเติบโตที่ดี “สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2556 บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย, กองทุนอสังหาฯ และตราสารหนี้ระยะกลาง กำไรของบริษัทจดทะเบียนน่าจะทำจุดสูงสุดต่อเนื่องโดยเติบโตได้ 10 - 20% ใน 1 -2 ปีข้างหน้าส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะทำ new high ได้เช่นกัน อเมริกาน่าจะยังคงมาตรการ QE ต่อเนื่องแม้อาจลดขนาดของเม็ดเงินกระตุ้นลงบ้าง ขณะที่ญี่ปุ่นก็น่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเช่นเดียวกัน ส่งผลให้งบดุลของธนาคารกลางทั่วโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวถึง 20% ในช่วงเวลา 1 ปีข้างหน้า ทำให้การลงทุนในหลักทรัพย์ที่ปันผลสูงอย่างกองทุนอสังหาฯ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานยังคงน่าสนใจ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงมีแนวโน้มทรงตัว ยังไม่น่าจะปรับเพิ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางดูจะมีความน่าสนใจมากกว่าพวกกองทุน money market หรือกองทุนแบบมีอายุ 6 - 12 เดือน ทั้งหมดเป็น 3 กลุ่มสินทรัพย์หลักที่น่าสนใจลงทุน” นายเจษฎา กล่าว ปัจจุบัน กองทุน iFund Series ภายใต้การบริหารของบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ได้แก่1) CIMB-PRINCIPAL iPROP - อสังหาริมทร้พย์เพื่อรับรายได้จากค่าเช่าอย่างสม่ำเสมอ 2) CIMB-PRINCIPAL iFIXED - ตราสารหนี้สำหรับใช้เป็นสินทรัพย์หลักในพอร์ตการลงทุน 3) CIMB-PRINCIPAL iDIV - หุ้นปันผลและเติบโตสำหรับเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนในระยะยาว 4) CIMB-PRINCIPAL iDAILY- ตราสารหนี้ตลาดเงินสำหรับบริหารสภาพคล่อง 5) CIMB-PRINCIPAL iGOLD - ทองคำเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม โดยกองทุน iFUND Series ทุกกองจะมีคุณสมบัติหลักในการมอบทางเลือกให้ผู้ลงทุนผ่านหน่วยลงทุนแบบ Multi Share Class 3 ชนิด คือ 1. Class A -Accumulation เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยหรือบริษัทที่ต้องการสะสมมูลค่าโดยนำผลตอบแทนการลงทุนที่ได้ไปลงทุนต่อ 2. Class R -Auto Redemption เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการรับรายได้แบบสม่ำเสมอผ่านการ Auto Redemption และ 3. Class D -Dividend เหมาะกับการลงทุนของบริษัทจำกัด และสถาบันการเงินที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอในรูปของเงินปันผล (Dividend) ซึ่งถือเป็นอีกนวัตกรรมของกองทุนรวมในการเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้เหมาะกับนักลงทุนแต่ละประเภท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวน ได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด โทร 0 2686 9595 หรือที่ www.cimb-principal.com หรือ CIMB Thai Care Center 0 2626 7777 กด 0 หรือที่www.cimbthai.com * ผลการดำเนินงานกองทุนประเภท Class R ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 **ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงการดำเนินงานในอนาคต การวัดผลการดำเนินงานของ กองทุนจัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานที่กำหนดโดยสมาคม **การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ