กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ตรวจเยี่ยมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมมอบนโยบายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เน้นย้ำให้นำหลัก 2P 2R ขับเคลื่อนการบริหารจัดการสาธารณภัยอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับพื้นที่ ควบคู่กับ การสร้างคลังข้อมูลสาธารณภัยให้ครอบคลุมทุกประเภทภัย พร้อมทั้งบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมเป็นเครือข่ายสร้างความปลอดภัยทางถนน ตลอดจนเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติระดับอาเซียน เพื่อสร้างประเทศไทยให้มีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) เปิดเผยว่า ในโอกาสตรวจเยี่ยมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้มอบนโยบายเป็นแนวทางปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยเน้นย้ำให้กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยวางกลไกการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศที่เป็นระบบทั้งในเชิงโครงสร้าง ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติของทุกภาคส่วน โดยบูรณาการบริหารจัดการสาธารณภัยตามหลัก 2P 2R ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารจัดการ สาธารณภัยระดับสากลและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ไปขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ กำหนดมาตรการรองรับการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและทรัพยากรในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพการจัดการภัยพิบัติของบุคลากร ควบคู่กับการวางแผน จัดหา สั่งใช้และบริหารจัดการทรัพยากรเครื่องจักรกลให้พร้อมปฏิบัติงานครอบคลุมทุกพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายอาสาสมัครด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (One Tambon One Search and Rescue Team : OTOS) และเครือข่ายอาสาสมัครเตือนภัย (มิสเตอร์เตือนภัย) ให้มีความพร้อมในการสนับสนุนภาครัฐจัดการภัยพิบัติระดับพื้นที่ นอกจากนี้ ให้เร่งส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทย โดยบูรณาการทุกภาคส่วนให้ร่วมเป็นเครือข่ายสร้างความปลอดภัย ทางถนน รวมถึงดำเนินมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนทั้งช่วงปกติและเทศกาลสำคัญ รวมทั้งสร้างคลังข้อมูลสาธารณภัย ให้ครอบคลุมทุกประเภทภัย โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเชื่อมโยงข้อมูลด้านสาธารณภัยกับหน่วยงานในระดับต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการภัยพิบัติของประเทศ
นายวิสาร กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่งเสริมการสร้างศักยภาพชุมชนในการจัดการภัยพิบัติ โดยเร่งผลักดันให้ชุมชนเสี่ยงภัยเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และสามารถจัดการภัยพิบัติได้ด้วยตนเองในเบื้องต้น ที่สำคัญ ในภาวะที่เกิดสถานการณ์วิกฤตให้นำระบบบัญชาการเหตุการณ์ (Incident Command System : ICS) มาใช้เป็นหลักการสำคัญในการบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินภายใต้ศูนย์สั่งการแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อเชื่อมโยงกลไกการสั่งการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติของประเทศ ตลอดจนให้เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติระดับอาเซียน โดยพัฒนาความร่วมมือ ผลักดัน การจัดกิจกรรมลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในระดับอาเซียน ส่งเสริมกลไกการจัดการสาธารณภัย เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็งและปลอดภัยจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะหน่วยงานกลางของภาครัฐด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอ???งประเทศ จะได้นำนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไปบูรณาการทุกภาคส่วนบริหารจัดการสาธารณภัยเชิงรุกตามแนวทางและนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากภัยพิบัติ และประเทศไทยมีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน