กองการประกอบโรคศิลปะเร่งอบรมหมอพื้นบ้านให้เป็นการแพทย์ทางเลือกที่มีมาตรฐาน

ข่าวทั่วไป Thursday March 19, 1998 17:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--19 มี.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
กองการประกอบโรคศิลปะจัดอบรมก่อนมอบใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณแก่ผู้สอบผ่านจำนวนกว่า 200 คน พร้อมทั้งปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณกำหนดให้ขึ้นทะเบียนครูผู้สอน และต้องใช้ตำราและแผนการสอนที่ได้รับการรับรองเพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพแพทย์แผนโบราณให้เป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดการใช้ยาจากต่างประเทศ
นายแพทย์ปรากรม วุฒิพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดการอบรม"การเพิ่มพูนความรู้และมอบใบประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไป" ณ ห้องประชุมชั้น 9 อาคาร 7ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ากระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสนับสนุนให้การแพทย์แผนโบราณเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพของประชาชนนอกเหนือไปจากการพึ่งพาการแพทย์แผนปัจจุบันเพียงด้านเดียวซึ่งจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดการใช้ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศแต่ในขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขก็มีหน้าที่ต้องตรวจสอบควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการ เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยและเพื่อให้การศึกษาและอบรมความรู้วิชาชีพการแพทย์แผนโบราณทั่วไปเป็นไปอย่างมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดให้มีการสอบเพื่อขึ้นทะบียนและรับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทุกสาขาโดยเปิดรับสมัครและสอบเป็นประจำทุกปีแต่ที่ผ่านมาปรากฎว่าผู้ที่สอบผ่านได้รับใบอนุญาตในแต่ละปีนั้นมีจำนวนไม่มากคิดเป็นประมาณร้อยละ 10 ของจำนวนผู้เข้าสอบเท่านั้นเนื่องจากผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตต้องสอบผ่านทั้งสาขาวิชาชีพเฉพาะและกฎหมายเกี่ยววิชาชีพที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้นเพื่อยกระดับวิชาชีพแพทย์แผนโบราณให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศและเพื่อเปิดโอกาสให้หมอพื้นบ้านสามารถสอบขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์แผนโบราณอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้มากขึ้น กองประกอบโรคศิลปะจึงได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ ฉบับที่ 2(พ.ศ.2541)กำหนดให้ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณต้องเป็นผู้ซึ่งได้รับการอบรมศึกษาจากผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นครูผู้รับมอบตัวศิษย์กับคณะกรรมการฯแล้วและการให้การศึกษาอบรมต้องเป็นไปตามตำราที่คณะกรรมการฯให้การรับรองมีการกำหนดแผนการสอนและระยะเวลาศึกษาในแต่ละสาขาวิชาและกำหนดให้ครูผู้สอนต้องมีสถานพยาบาลเพื่อให้ศิษย์ได้ฝึกปฏิบัติกับผู้ป่วย เป็นต้น
สำหรับการอบรมครั้งนี้เป็นการอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้แก่ผู้ที่สอบรับใบประกอบโรคศิลปะผ่านในปี 2541 จำนวนทั้งสิ้น279 คน แยกเป็นสาขาวิชาเวชกรรม 53 คน สาขาเภสัชกรรม 215 คน สาขาผดุงครรภ์ 11 คนซึ่งกองการประกอบโรคศิลปะได้กำหนดจัดการอบรมก่อนการรับมอบใบอนุญาตทุกครั้งเพื่อให้ผู้ที่ผ่านการอบรมแล้วเป็นผู้มีคุณสมบัติแห่งการประกอบวิชาชีพ ทั้งด้านคุณธรรมและจรรยาบรรณที่ดี สามารถให้บริการแก่ประชาชนอย่างถูกต้องเหมาะสมและมีประสิทธิภาพต่อไปนายแพทย์ปรากรม กล่าวตอนท้าย--จบ--

แท็ก ศิลปะ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ