สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 25, 2013 10:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,341 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,330 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.93 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,550 บาท กับ 19,650 บาท และกลับมาปิดที่ 19,550 บาท กับ 19,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,171 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,287 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.5% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 5% GFQ13 ปิด 19,640 บาท และ GFV13 ปิด 19,680 บาท GF10Q13 ปิด 19,650 บาท GF10V13 ปิด 19,720 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 15 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,319.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 23.4 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 20.02 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 929.76 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.84 เซ็นต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 105.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 25.50 จุด ปิดที่ 15,542.24 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวลดลงโดยได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนนอกตลาดที่สำคัญกลับเข้ามาเทขายอย่างเต็มกำลัง นอกจากนี้การขายปิดสถานะ Short ของนักลงทุนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ในเช้านี้ราคายังปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังจากเมื่อวานลงไปถึง 2% โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีขึ้น ทั้งยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบห้าปี ภาคการผลิตก็ออกมาดีกว่าคาด ในขณะที่อุตสาหกรรมภาคเอกชนของยูโรโซนขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่าหนึ่งปี ในวันนี้สัญญา Gold Options จะหมดอายุลง และอาจทำให้ Open Interest ปรับตัวลดลงอย่างหนัก โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ 1,413 เหรียญ เนื่องจากมองว่าจะไม่มีการลดการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนักจากเฟด World Gold Council ระบุว่า ปริมาณ Scrap Gold อาจลดลงมากถึง 25% หรือประมาณ 300-400 ตันในปีนี้ จากระดับประมาณ 1,600 ตันในปีที่แล้ว เนื่องจากราคาทองคำที่ลดลงช่วยยับยั้งผู้ถือครองไม่ให้ขาย ในขณะที่ปริมาณความต้องการแข็งแกร่งขึ้น สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในเช้าวันนี้ จากตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงปรับตัวสูงขึ้น และเป็นการเตือนความจำให้นักลงทุนระลึกถึงว่ากำลังใกล้เข้าสู่การลดขนาด QE เข้าไปทุกที ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะต้องยึดความไม่สมดุลในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมาเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง 1.7% เมื่อวานนี้ เนื่องจากการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.56 ล้านบาร์เรล มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 1990 ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา S&P ลดอันดับเครดิตแบงก์อิตาลี 18 แห่ง เหตุภาวะถดถอยรุนแรง ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง แอปเปิล อิงค์ และแรงหนุนจากยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่ายอดขายบ้านใหม่ที่ดีขึ้น อาจทำให้เฟดชะลอ QE ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ - Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 51.9 ตัวเลขจริงออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 53.2 - New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 459K ตัวเลขจริงออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 497K - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -6.9M ตัวเลขจริงออกมาปรับตัวลดลงที่ระดับ -2.8M ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ - Core Durable Goods Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% คาดการณ์ออกมาเท่าเดิมที่ระดับ 0.5% - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 334K คาดการณ์ออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 339K - Durable Goods Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.7% คาดการณ์ออกมาปรับตัวลดลงที่ระดับ 1.1% ทิศทางราคาทองคำ ภาพรวมราคาทองภาพรวม ราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาลงหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมา 10 วัน และเคลื่อนขึ้นไปชนแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,350 เหรียญโดยประมาณ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่าเป็นจุดแนวต้านที่สำคัญ โดย SPDR เมื่อวานไม่ได้ขาย ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ตัวเลข New Home Sales ของสหรัฐอออกมาดีกว่าที่คาด เป็นตัวกระตุ้นทำให้สกุลเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเยน ทำให้เงินบาทเองก็ปรับอ่อนค่าขึ้น และมีแรงซื้อเข้ามาในตลาดพันธบัตร ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวาน เป็นแรงกดดันให้เกิดแรงเทขายในทองคำต่อเนื่อง วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ราคาทองคำหลุดแนวรับแรกที่ระดับ 1,330 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับในระยะสั้นสำหรับนักลงทุนรายวัน จุดที่ดิ่งลงมากลับไม่มีแรงเทขายจาก SPDR แต่เป็นแรงเทขายจากกองทุน Hedge Funds และการที่โยกเม็ดเงินไปสู่ตลาดพันธบัตร ในเชิงเทคนิคราคาทองคำกลับมาเป็นแนวโน้มขาลง หลังจากที่ชนแนวต้านบริเวณ 1,350 เหรียญแล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ วิเคราะห์ได้ว่าวันนี้น่าจะเป็นลักษณะปรับตัวลดลงเพื่อไปทดสอบแนวรับแรกที่ระดับ 1,300 เหรียญ โดยคาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,300 — 1,327 เหรียญ โดยให้แนวรับอยู่ที่ 1,300 เหรียญและแนวต้านด้านบนอยู่ที่ 1,327 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — แนะนำให้ปิดสถานะ Long และเก็งกำไรในกรอบแคบ ถ้าราคาหลุด 1,300 เหรียญมีโอกาสลงได้ลึกและเร็ว โดยในระยะสั้นๆ ยังคาดว่า ระดับ 1,300 เหรียญน่าจะเป็นจุดที่มีการเข้าซื้อและอาจจะมีการเด้งกลับในระยะสั้นๆ เท่านั้น แนะนำให้นักลงทุนบริหารพอร์ตให้สมดุล นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำปิดสถานะทำกำไรออกไป นักลงทุนที่ถือ Short Position รอจังหวะย่อลงมาบริเวณ 1,300 เหรียญค่อยปิดสถานะ Short ให้เก็งกำไรระยะสั้นเป็น Day Trade ตามการแกว่งค่อนข้างมากของราคาทองคำและค่าเงินบาท Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,600 บาท Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,620 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง Sangchai Kanonchaipanidkui MTS GF แสง Tel: 02-222-6222 E: sangchai@mtsgoldgroup.com MTS Gold Co., Ltd. 40, 42, 44 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ