กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,320 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,329 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.12 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,350 บาท กับ 19,450 บาท และกลับมาปิดที่ 19,300 บาท กับ 19,400 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,399 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,732 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.9% แบบ 10 บาทลดลง 2.2% GFQ13 ปิด 19,660 บาท และ GFV13 ปิด 19,740 บาท GF10Q13 ปิด 19,680 บาท GF10V13 ปิด 19,750 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,328.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 13.4 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 20.15 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 927.35 ตัน (ขายออก 2.71) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 10 เซ็นต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 105.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 13.37 จุด ปิดที่ 15,555.61 จุด
ข่าวที่สำคัญ
สัญญาทองคำปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐจะส่งผลให้เฟด จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไป
เมื่อวานนี้ กองทุน SPDR ทำการเทขายทองคำออก 2.41 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 927.35 ตัน นับเป็นระดับต่ำสุดในปี 2009
World Gold Council กล่าวว่า ปริมาณความต้องการทองคำของจีนในปีนี้ อาจสูงถึงระดับ 1,000 ตัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจีนอาจแซงหน้าอินเดียซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ของโลกได้
ค่าพรีเมี่ยมทองคำของอินเดีย ปรับตัวสูงขึ้น 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในตลาดลอนดอน เนื่องจากขาดแคลนทองคำ เพราะนักลงทุนอินเดียรอให้ราคาทองคำต่ำลงจากจุดสูงสุดมากกว่า 1 เดือน
เจ้าหน้าที่จาก โธมัส รอยเตอร์ส จีเอฟเอ็มเอส กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเหมืองทองต่างๆ คาดการณ์ว่า จะทำการลดปริมาณทองคำของพวกเขาเพื่อป้องกันความเสี่ยง ปริมาณสุทธิ 20 ตันในปีนี้ ถึงแม้ว่าราคาทองคำจะมีการลดลงอย่างรวดเร็วก็ตาม
บริษัทโกล์ดคร๊อป เผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 แย่ลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ
สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดทองคำนิวยอร์ก คาดการณ์กันว่า เฟดจะยังเดินหน้า QE ต่อไป เนื่องจากข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐยังคงอ่อนแอ
ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานเมื่อคืนนี้ พบว่า มีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานเพิ่มขึ้น 7,000 ราย แตะระดับ 343,000 ราย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน เพราะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีและการลดงบประมาณของรัฐบาลกลางของสหรัฐ
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ประจำเดือน มิ.ย. ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 4.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ เนื่องจากมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นของสินค้าหลากหลายประเทศ
สถาบัน Ifo ของเยอรมนี เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนี ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 106.2 ได้ในเดือนกรกฎาคม จากเดิม 105.9 ในเดือนที่แล้ว แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดีสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3243 ดอลลาร์ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.56 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2533
ภาพในบรรทัด 3
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อย ขานรับยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทหลายแห่ง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงอย่างรุนแรง เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นเวลานาน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้
- Core Durable Goods Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% ตัวเลขจริงออกมาปรับตัวลดลงที่ระดับ 0.0%
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 334K ตัวเลขจริงออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 343K
- Durable Goods Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.7% ตัวเลขจริงออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 4.2%
ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 83.9 คาดการณ์ออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 84.0
ภาพรวมราคาทอง ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น หลังจากลงไปทดสอบบริเวณ 1,310 เหรียญ โดยที่ตัวเลขการว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง จาก 336,000 ตำแหน่ง ตำแหน่งมาอยู่ที่ระดับ 343,000 ตำแหน่ง ทำให้มีแรงซื้อกลับในตลาดทองคำขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำกลับมายืนอยู่เหนือ 1,330 เหรียญได้อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี SPDR ยังคงเป็นผู้ขายทองคำอย่างต่อเนื่องอีก 2.41 ตัน คงเหลือการถือครองทองคำเพียง 927.35ตัน ภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจ Fund Flow ตลาดเริ่มมองว่าอาจจะมี QE ต่อเนื่อง จึงเป็นการเล่นข่าวเพื่อเก็งกำไรอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลงในระยะกลางและระยะยาว ระยะสั้นเห็นถึงการปรับตัวขึ้นลงโดยราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบ 1,320 — 1,350 เหรียญในวันนี้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — ขึ้นขายลงซื้อในกรอบ 1,320 — 1,350 เหรียญ
นักลงทุนถือ Long Position ยังคงแนะนำให้ขายปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านบริเวณ 1,350 เหรียญ
นักลงทุนที่ถือ Short Position ซื้อปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณ 1,320 เหรียญ เก็งกำไรอยู่ในกรอบแคบ
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,800 บาท
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,860 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
Sangchai Kanonchaipanidkui MTS GF แสง
Tel: 02-222-6222 E: sangchai@mtsgoldgroup.com