กรุงเทพ--21 ก.ย.--ปรส. องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) โดยหน่วยประสานงานด้านการจำหน่ายทรัพย์สินที่มิใช่ทรัพย์สินหลัก (Asset Disposition Coordination Unit : ADCU) จะนำสทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์ที่ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสถาบันการเงินที่ไม่อาจฟื้นฟูฐานะหรือการดำเนินงานได้ จำนวน 56 ราย ออกจำหน่ายเป็นครั้งที่ 33/2 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ หุ้นสามัญ จำนวน มูลค่าที่ตราไว้ % ของทุน ของบริษัท (หุ้น) ต่อหุ้น (บาท) จดทะเบียนบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด 28,690,668 10 28.69 หลักทรัพย์ที่นำออกประมูล ผู้ประมูลจะต้องมีคุณสมบัติตามมติของคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 1. หลักทรัพย์ จำนวน 19,424,668 หุ้น ผู้ประมูลต้องเป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติ ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ. 2523 ซึ่งมีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2. ธนาคารพาณิชย์ 3. บริษัทเงินทุน, บริษัทหลักทรัพย์, และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 4. บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม 5. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 6. ธนาคารออมสิน 7. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 8. สหกรณ์ออมทรัพย์ ชุมนุมสหกรณ์ 9. บริษัทประกันชีวิต 10. สถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก 11. ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นที่จดทะเบียนและตั้งอยู่ในต่างประเทศ 12. บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม 13. ธนาคารเพื่อการนำเข้าและการส่งออกแห่งประเทศไทย 14. กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 15. บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) 16. บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย 2. หลักทรัพย์จำนวน 9,266,000 หุ้น ผู้ประมูลเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลก็ได้ แต่ต้องมิใช่บุคคลดังต่อไปนี้ 1) เป็นกรรมการ อนุกรรมการ พนักงานของปรส. รวมถึงผู้ปฏิบัติงานให้แก่ปรส. 2) เป็นกรรมการตามมาตรา 30 ของสถาบันการเงินนั้น 3) เป็นผู้จัดการเฉพาะกิจ หรือที่ปรึกษาเฉพาะกิจของสถาบันการเงินนั้นหรือ 4) บุคคลอื่นที่ประธานกรรมการตามมาตรา 30 กำหนด เงื่อนไขการประมูล 1) หลักทรัพย์ทั้งสองจำนวน ผู้ประมูลจะต้องจองซื้อขั้นต่ำ 1,000,000 หุ้นและเพิ่มได้เท่ากับตัวคูณทวีของ 100,000 หุ้น ในกรณีที่มีผู้จองซื้อเกินจำนวนหลักทรัพย์ที่มีอยู่ ปรส. สงวนสิทธิ์ที่จะจัดสรร 2) ผู้ประมูลมีหน้าที่จะต้องตรวจสอบก่อนเข้าประมูลว่า ตนเป็นผู้ที่สามารถรับโอนหลักทรัพย์หรือเงินลงทุน ที่เสนอประมูลได้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไข ทั้งปวงของหลักทรัพย์หรือเงินลงทุน 3) ผู้ประมูลต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ข้อบังคับหรือเงื่อนไขของหลักทรัพย์แต่ละบริษัทด้วยตนเอง 4) ปรส. และสถาบันการเงินที่เป็นผู้ขายหลักทรัพย์ ไม่รับประกันหรือรับผิดชอบในการให้ข้อมูลหรือความถูกต้องของข้อมูล 5) หลักทรัพย์ที่ไม่มีผู้ประมูลได้ในแต่ละงวด จะถูกนำออกประมูลในงวดต่อไป หลักเกณฑ์การตัดสินการประมูล ตัดสินโดยจัดสรรให้กับผู้ที่เสนอซื้อราคาทุกรายที่เสนอราคาสูงกว่าหรือเท่ากับราคาอ้างอิงของปรส. ซึ่งกำหนดโดยคณะอนุกรรมการจำหน่ายทรัพย์สินประเภทหลักทรัพย์ และเงินลงทุน โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะได้รับการจัดสรรก่อน กำหนดเวลายื่นซองประมูล 8 ตุลาคม 2542 ยื่นซองประมูลแก่ปรส. ภายในเวลา 12.00 น. โดย ปรส. จะแจ้งผลการประมูลแก่ผู้ชนะการประมูลภายใน 17.00 น. วันเดียวกัน 14 ตุลาคม 2542 ลงนามในสัญญาซื้อขายหลักทรัพย์ ผู้ชนะการประมูลชำระเงินค่าซื้อหลักทรัพย์เต็มจำนวน 18 ตุลาคม 2542 รับโอนใบหุ้นจากสถาบันการเงินที่ถือครองหลักทรัพย์นั้น ผู้สนใจยื่นซองประมูล สามารถติดต่อขอรับแบบฟอร์มการประมูล และข้อมูลพื้นฐานของแต่ละบริษัท ได้แก่ หนังสือรับรอง รายชื่อผู้ถือหุ้น งบการเงิน โดยเสียค่าใช้จ่ายชุดละ 500 บ. ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2542 เป็นต้นไป และแจ้งมายัง ปรส. 1 วันก่อนวันรับข้อมูลพื้นฐาน โดยสามารถติดต่อได้ที่ คุณพรอุมา เทวาหุดี หน่วยประสานงานการจำหน่ายทรัพย์สินฯ ปรส. ชั้น 20 อาคารสินธร 3 โทรศัพท์ 263-3345 ต่อ 641 โทรสาร 650-9872 และสามารถดูได้จาก Website ของปรส. ที่ www.fra.or.th หรือติดต่อขอสำเนาได้ที่ ปรส.ชั้น 20 (ประกาศฉบับนี้ เป็นการแจ้งให้ทราบเท่านั้น และข้อมูลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)--จบ--