กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดโครงการวัฒนธรรมสัญจรแหล่งมรดกโลกสำหรับคณะทูตานุทูต ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเร็วๆ นี้ โดยนำคณะทูตานุทูตและคู่สมรส ตลอดจนผู้แทน จำนวน 22 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย กัมพูชา แคนาดา โคลัมเบีย เช็ค เดนมาร์ก อิหร่าน ญี่ปุ่น เกาหลี มอลตา เม็กชิโก มองโกเลีย โมร็อกโก เนเธอแลนด์ โรมาเนีย สโลวัก เวียดนาม ฮังการี เคนยา เนปาล ปากีสถาน และศรีลังกาเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการที่ประเทศไทย กำลังเสนอวัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช เป็นมรดกโลกในอนาคต
การที่กระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมดังกล่าว จะทำให้คณะทูตานุทูต และผู้แทน ได้รับรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ที่ได้เข้าสู่บัญชีเบื้องต้น ก่อนเสนอให้เป็นแหล่งมรดกโลกต่อยูเนสโก นอกจากนี้ ยังมีการพาคณะทูตศึกษาแหล่งศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านคีรีวง และบ้านหนังตะลุงสุชาติ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รวมทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนให้เป็นที่รู้จักประจักษ์สู่สายตาชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น
“เป็นที่น่ายินดีที่คณะทูตานุทูตต่างพอใจกับการจัดงานของกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งยังชื่นชมในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวิศาสตร์และวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็ได้รับกระแสตอบรับจากหลายประเทศว่าจะช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ประชาชนในแต่ละประเทศเข้ามาเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามเราต้องมองไปข้างหน้าในการประสานงานกับทางสถานทูตต่างๆ เพื่อให้มีส่วนช่วยผลักดันประเทศไทยในการดำเนินงานในด้านอื่นๆต่อไปด้วย” นายอดิศักดิ์ กล่าว
ด้านผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า หลังจากที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ได้รับการพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนบัญชีรายชื่อเบื้องต้น(Tentative List) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2556 ประเทศกัมพูชา ที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อทำหน้าที่ศึกษาประวัติ และจัดทำเป็นแฟ้มข้อมูล (Nomination File) โดยมีกรมศิลปากรช่วยตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง เพื่อส่งให้กับศูนย์มรดกโลก ในขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำเค้าโครงร่างฉบับภาษาไทยในแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ และจะมีการประชุมทางวิชาการเพื่อจะให้ได้ข้อมูลที่สมบรูณ์ที่สุด หลังจากนั้นจะได้แปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อจะได้ส่งให้คณะกรรมการมรดกโลกประเมินคุณค่ามรดกโลก ในการประชุมสามัญประจำปีต่อไป นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้ขยายเส้นทางคมนาคมให้มีความสะดวกมากขึ้น การนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน และยังได้ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความสวยงามมากขึ้นอีกด้วย