กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน
นาย วีเจย์ ราว ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกกล่าวว่า ภูมิภาคอาเซียนถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่อันดับ 5 ของโลก โดยผลการวิจัย Strategic Analysis of ASEAN Automotive Outlook ระบุว่าจะมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 5.8 ในระหว่างปี 2555-2562 โดยสาเหตุหลักมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดในอินโดนีเซียและประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย นายราวคาดว่ายอดขายรถยนต์จะมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 1.4 (CAGR) หรือ 1.58 ล้านคันภายในปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และจากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล
“ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ยังคงเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในเซกเมนท์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้าซีวิค ไฮบริด, โตโยต้า วีออส, นิสสัน พัลซาร์, มิตซูบิชิ มิราจ ซีดาน, ฟอร์ด เฟียสต้า, ซูซูกิ เออร์ติก้า เป็นต้น”
“การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 6.5 ในปี 2555-2562 (CAGR) โดยผู้ผลิต OEM จากญี่ปุ่นจะยังคงครองตลาดรถยนต์เพื่อโดยสาร (Passengers car) ในปี 2562”
“นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นยังคงครองตลาดรถยนต์โดยสารในประเทศไทย ในปี 2562 และรถขนาดตั้งแต่ 650 — 1500 ซีซี จะมีสัดส่วนใจตลาดรถยนต์โดยสารสูงสุด เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับรถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น” นายราว กล่าว