LVT เผยไตรมาสแรกปี 56 พลิกทำกำไร 154 ล้านบาท หลังขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปี คาด Backlog สิ้นปีพุ่งแตะ 5 พันล้าน ลั่นธุรกิจเดินหน้าแข็งแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 2, 2013 15:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ LVT เผยผลประกอบการเฉพาะกิจการไตรมาสแรกสิ้นสุดมีนาคม 2556 บริษัทฯ พลิกทำกำไรสุทธิ 154 ล้านบาท หลังจากขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปีในปี 2555 และ 2554 เผยนำส่งงบล่าช้า เหตุปรับวิธีบันทึกบัญชีเป็น Dual Accounting แจงบริษัทรับรู้รายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ขณะที่การบันทึกบัญชีก่อนหน้านี้ทำเป็นรูปของเงินบาทเพียงสกุลเดียว ชี้เร่งปฏิบัติตามเกณฑ์ ก.ล.ต.และมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไปที่เป็นหลักสากล ทำให้ต้องรื้อระบบบัญชีย้อนหลัง เพื่อบันทึกบัญชีทั้งสกุลต่างประเทศและสกุลเงินบาท คาดจะเรียบร้อยแล้วเสร็จครบถ้วนสิ้นเดือนกันยายนนี้ ย้ำความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจที่ยังคงเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง โดยล่าสุดงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 3 พันล้านบาท ขณะที่สิ้นปียอดงานในมือพุ่งแตะระดับ 5 พันล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้จากการปิดงานในอเมริกาใต้ พม่า ตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้ นายแฮนส์ จอร์แกน เนียลเซ่น ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท แอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT ผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการวิศวกรรม ออกแบบ คิดค้น พัฒนา จัดหา และควบคุมการติดตั้งอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ในหลายประเทศทั่วโลก เปิดเผยถึงผลประกอบการเฉพาะกิจการไตรมาสแรก (มกราคมถึงมีนาคม 2556) ของบริษัทฯ ว่า LVT มีกำไรสุทธิในงวดดังกล่าว 154.47 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ยังเป็นการพลิกจากที่มีผลขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง 2 ปี ในปี 2555 ซึ่งบริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 293.20 ล้านบาท และ 23.88 ล้านบาทในปี 2554 อีกด้วย ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2556 ยังเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 12.72 ล้านบาท คิดเป็น 141.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,114.39% ส่วนงบการเงินรวมไตรมาสแรกของปี 2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 89.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 444.60% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 16.39 ล้านบาท ทั้งนี้ การรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกล่าช้า เนื่องจากบริษัทฯ ต้องจัดทำระบบบัญชีใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเป็นการบันทึกตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไปที่เป็นหลักสากล เนื่องจาก LVT รับรู้รายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ จากงานที่อยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ที่ผ่านมา บริษัทฯ บันทึกบัญชีเป็นสกุลเงินบาท ทั้งที่จริงๆ แล้ว บริษัทฯ จะต้องบันทึกเป็น Dual Accounting โดยบันทึกเป็น Dual Currency หรือบันทึกทั้งสองสกุล โดยขณะนี้การแก้ไขการบันทึกบัญชีสำหรับงบการเงินไตรมาสแรกได้เสร็จสิ้นลง และบริษัทฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนงบการเงินในไตรมาสที่ 2 นั้น คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณสิ้นเดือนกันยายนนี้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พักการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ โดยการขึ้นเครื่องหมาย SP ต่อไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนกันยายน “ในนามของบริษัทฯ เราต้องขออภัยผู้ถือหุ้น LVT สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จเรียบร้อยในเร็วๆ นี้ ส่วนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นั้น เรายังคงเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง โดย ณ ขณะนี้ มียอดงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 3 พันล้านบาท และคาดว่า จะเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งก็จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจัยสนับสนุนหลัก ยังมาจากการปิดงานลูกค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ละตินอเมริกา ประกอบด้วยบราซิลและเปรู ตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้ รวมถึงพม่า ซึ่งแต่ละประเทศยังคงขยายโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ยังอยู่ในระดับที่สูง ส่งผลให้การสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ขยายตัวตามไปด้วย” นายเนียลเซ่นกล่าว ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาอาวุโสของ LVT กล่าวย้ำด้วยว่า บริษัทฯ พร้อมที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ด้วยศักยภาพ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ซึ่งทำให้ลูกค้าทั่วโลกต่างไว้วางใจ มอบหมายให้บริษัทฯ ดูแลงานวางระบบโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ครบวงจร โดยเรายืนยันว่า จะไม่มีการลดจำนวนหรือเลิกจ้างพนักงานจำนวน 450 คนที่กระจายอยู่ทั่วโลก แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา จะปรากฏข่าวว่า คู่แข่งรายใหญ่ในตลาดโลกอย่าง FL Smidth จะประกาศลดพนักงานลง 1,100 คนหรือคิดเป็น 11% ของพนักงานทั้งหมดก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ