อริสต้าจับมือวีเอ็มแวร์ และไมโครซอฟท์ เปิดตัวเน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday September 3, 2013 15:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--อริสต้า เน็ตเวิร์กส์ อริสต้า เน็ตเวิร์กส์ (Arista Networks) เปิดตัวเน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นใหม่ 3 รายการ ที่ทำงานบน Arista Extensible Operating System (EOS) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่ก้าวล้ำมากที่สุดในโลก เพื่อเพิ่มความสะดวกในการปฏิบัติงานด้านไอที โดยแอพพลิเคชั่นใหม่ได้แก่ OpenWorkload, Smart System Upgrade และ Network Telemetry ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Arista EOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายเพียงหนึ่งเดียวที่รองรับการตั้งค่าได้อย่างสมบูรณ์ เน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ รวมถึง Associated Partner Ecosystems ช่วยยกระดับการรับรู้แอพพลิเคชั่นสำคัญๆ ในดาต้าเซ็นเตอร์ 3 แอพพลิเคชั่นใหม่บน Arista EOS ได้แก่: OpenWorkload — ระบบเครือข่ายที่เรียบง่ายสำหรับสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น และคลาวด์ ช่วยให้ระบบสวิตซ์เครือข่ายที่แยกกระจัดกระจายสามารถรองรับเวิร์กโหลดแบบโมบายล์ได้อย่างแท้จริง อริสต้าและวีเอ็มแวร์ทำงานร่วมกันเพื่อให้สวิตซ์ Arista EOS สามารถผนวกรวมอย่างกลมกลืนเข้ากับ VMware NSX? ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเน็ตเวิร์กเวอร์ช่วลไลเซชั่น เพื่อจัดหาบริการเกตเวย์บนฮาร์ดแวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบ Non-Virtualized และ VLAN ที่มีอยู่ นอกจากนี้ อริสต้ายังผสานรวมเทคโนโลยีเข้ากับ OpenStack และแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อรองรับการจัดสรรแบบอัตโนมัติ การเคลื่อนย้ายเวิร์กโหลดที่มีการบันทึกสถานะ และการตรวจสอบเวิร์กโหลดอย่างทั่วถึง Smart System Upgrade — ลดภาระที่เกิดจากการอัพเกรดเครือข่าย ลดระยะเวลาหยุดทำงานของแอพพลิเคชั่น และลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นระหว่างการควบคุมการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ นอกจากนี้ยังจัดหาชุดฟีเจอร์ที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่เพื่อรองรับการผนวกรวมเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์จากพันธมิตรหลายราย เช่น ไมโครซอฟท์, F5 และ Palo Alto Networks โดย Open Management Infrastructure (OMI) ของไมโครซอฟท์ช่วยให้สามารถเปิดหรือปิดการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ลูกค้าจึงใช้งานซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้อยู่เสมอ โดยไม่ต้องหยุดระบบโดยไม่จำเป็น Network Telemetry — รูปแบบใหม่สำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจจับข้อผิดพลาด ไปจนถึงขั้นตอนการแยกข้อผิดพลาด สตรีมข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของเครือข่าย รวมถึงข้อมูลสถิติเครือข่ายทั้งในส่วนของเครือข่ายอันเดอร์เลย์ (Underlay) และโอเวอร์เลย์ (Overlay) ไปจนถึงแอพพลิเคชั่นจาก Splunk, ExtraHop, Corvil และ Riverbed ด้วยการเปิดเผยข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญให้แก่เลเยอร์ของแอพพลิเคชั่น จึงสามารถป้องกันปัญหาในลักษณะเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ “องค์กรธุรกิจปรับใช้เน็ตเวิร์กเวอร์ช่วลไลเซชั่นเพิ่มมากขึ้นเพื่อลดความยุ่งยากซับซ้อนของระบบไอที และปรับปรุงความรวดเร็วในการดำเนินธุรกิจ” มิลิน ดีไซ ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของวีเอ็มแวร์ กล่าว “วีเอ็มแวร์และอริสต้าร่วมมือกันเพื่อผนวกรวมแพลตฟอร์ม Arista EOS และ VMware NSX? ซึ่งจะรองรับการใช้รูปแบบการปฏิบัติงานเดียวกันสำหรับเวิร์กโหลดทั้งแบบเวอร์ช่วลและฟิสิคอล จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวสำหรับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์" “ด้วยมาตรฐานของไมโครซอฟท์สำหรับการจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการใช้งานแบบพลักแอนด์เพลย์ (plug-and-play) เมื่อใช้สวิตช์ที่รองรับ OMI ของอริสต้า” วีเจย์ เทวารี ผู้จัดการโครงการ Principal Group Program สำหรับ Windows Server and System Center ของไมโครซอฟท์ กล่าว “สวิตช์เหล่านี้มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดของ Windows เพราะทำงานร่วมกับ Windows Server and System Center 2012 R2 ได้อย่างกลมกลืน โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม” เครือข่ายคลาวด์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ เครือข่ายคลาวด์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (Software Defined Cloud Networking - SDCN) ของอริสต้า ผสานรวมหลักการที่ทำให้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นขุมพลังที่ต่อเนื่อง นั่นคือ ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ การจัดสรรบริการด้วยตนเอง และการปรับขนาดเชิงเส้นทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและการประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบกับแนวโน้มล่าสุดใน SDN ที่นำเสนอเน็ตเวิร์กเวอร์ช่วลไลเซชั่น การปรับแต่งค่าสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย และระดับราคาที่เหมาะสม การผสานรวมนี้สร้างซอฟต์แวร์ที่เหนือชั้นสำหรับการเพิ่มมูลค่าของเครือข่ายในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรและผู้ให้บริการ กล่าวคือ เป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับระบบที่สำคัญในโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่เพิ่มความสะดวกในการจัดการและจัดสรร เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ลดค่าใช้จ่าย และเปิดโอกาสในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ควบคู่ไปกับการขยายขีดความสามารถของผู้ดูแลระบบในการควบคุมและตรวจสอบอย่างทั่วถึง “EOS ของอริสต้ายังคงรั้งตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรม ด้วยนวัตกรรมเครือข่ายที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (Software Defined Networking - SDN) รวมไปถึงเน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นที่แปลกใหม่ และความสามารถที่ก้าวล้ำของ SDN ซึ่งรองรับการควบคุมอย่างเป็นระบบ การตรวจสอบติดตามอย่างมีประสิทธิภาพ และการแก้ไขปัญหาโดยอัตโนมัติ” แอนชัล ซาดานา รองประธานอาวุโส ฝ่ายวิศวกรรมลูกค้าของอริสต้า เน็ตเวิร์กส์ กล่าว “สถาปัตยกรรมของ Arista EOS บวกกับฮาร์ดแวร์ที่ก้าวล้ำ และความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในแต่ละหมวดหมู่เทคโนโลยี ก่อให้เกิดความสามารถด้านเครือข่ายที่เหนือชั้น การสาธิตเทคโนโลยี VMware NSX ที่ผนวกรวมเข้ากับ EOS ที่งาน VMworld นับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือที่สุดยอดอย่างแท้จริง” Arista EOS - ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับ SDCN EOS ของอริสต้าคือรากฐานจำเป็นสำหรับการใช้ API คอนโทรลเลอร์แบบเปิดในการสื่อสารระหว่างเครือข่ายกับคอนโทรลเลอร์ SDN เพื่อปรับใช้ระบบเครือข่าย cloud-scale Layer 2/3 โดยเครือข่ายเวอร์ช่วลและฟิสิคอลจะต้องทำงานควบคู่กันไป แพลตฟอร์มของอริสต้าสามารถปรับใช้การดำเนินการที่หลากหลายสำหรับการกำหนดเส้นทาง จึงช่วยให้สามารถควบคุมทราฟฟิกเครือข่ายได้อย่างละเอียดในอัตราความเร็วสูงสุดบนทุกพอร์ตพร้อมๆ กัน แพลตฟอร์มใหม่ของอริสต้าซัพพอร์ต Tunnel Encapsulation โดยรูปแบบที่ก้าวล้ำ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้เกินขอบเขตข้อจำกัดของ MAC Table ในแต่ละอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ EOS ของอริสต้าสามารถโฮสต์ส่วนไคลเอ็นต์ของระบบที่ใช้คอนโทรลเลอร์ โดยสื่อสารกับคอนโทรลเลอร์ส่วนกลาง และตั้งค่าการกำหนดเส้นทางของสวิตช์ผ่านทาง EOS System Database ด้วยคุณสมบัติในการตรวจสอบโฟลว์, การเริ่มปรับใช้สวิตช์จำนวนมาก (ZTP/ZTR) โดยอัตโนมัติ, การแจ้งเตือนแต่เนิ่นๆ เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นที่ทำให้เครือข่ายติดขัด (LANZ) และทริกเกอร์เหตุการณ์ขั้นสูง (AEM) สวิตช์ของอริสต้าที่รัน EOS จึงนับเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับเครือข่ายคลาวด์ที่ควบคุม SDN เครือข่ายคลาวด์อเนกประสงค์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่า สถาปัตยกรรมที่แบ่งกระจายการทํางานคล้ายกิ่งก้านของต้นไม้ (Leaf-Spine Architecture) พร้อมด้วยอิมเมจซอฟต์แวร์ชุดเดียว เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเครือข่ายอเนกประสงค์ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น โดยใช้โหลดบาลานซิ่ง Layer-3 เพื่อปรับระดับประสิทธิภาพ โครงสร้างเครือข่ายที่ว่านี้ใช้สวิตซ์ Arista 7500E ทำหน้าที่เป็นแกนหลัก และใช้ Arista 7150/7050 เป็นกิ่งก้านสาขา จึงสามารถรองรับดาต้าเซ็นเตอร์บนระบบคลาวด์ที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 100,000 เครื่อง ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอสำหรับการปรับขนาดเวิร์กโหลดแบบไดนามิกในระบบคลาวด์สาธารณะหรือระบบคลาวด์ภายในองค์กร รวมถึง Hadoop, Big Data, สตอเรจ, Web 2.0, ฟาร์ม VM และเน็ตเวิร์กเวอร์ช่วลไลเซชั่น เกี่ยวกับอริสต้า เน็ตเวิร์กส์ อริสต้าก่อตั้งขึ้นเพื่อนำเสนอ “โซลูชั่นเครือข่ายคลาวด์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (software-defined cloud networking solutions)” สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และระบบการประมวลผลขนาดใหญ่ โดยคลาวด์สวิตช์ที่ได้รับรางวัล 10/40/100 GbE ของอริสต้ายกระดับการปรับขนาดความยืดหยุ่น ความแข็งแกร่ง และประสิทธิภาพด้านราคา โดยมีพอร์ตเครือข่ายคลาวด (cloud networking ports) ที่ติดตั้งไปแล้วทั่วโลกกว่าหนึ่งล้านพอร์ต และลูกค้ากว่า 2,000 ราย ส่วนสำคัญในแพลตฟอร์มของอริสต้าคือ EOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่ก้าวล้ำมากที่สุดในโลก ผลิตภัณฑ์ของอริสต้ามีวางจำหน่ายทั่วโลกผ่านตัวแทนจำหน่าย ผู้ติดตั้งระบบ และรีเซลเลอร์ ข้อมูลและทรัพยากรเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์วันนี้สามารถอ่านได้ที่: http://www.aristanetworks.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ