กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--การบินไทย
วันนี้ (วันที่ 19 กันยายน 2556) ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ โดยมีนายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1. เรื่อง ผลการดำเนินงานด้านการขนส่ง ประจำเดือนสิงหาคม 2556
คณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนสิงหาคม 2556 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat - Kilometer: ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 จากการรับมอบเครื่องบินใหม่และปรับ เส้นทางบินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร เป็นผลให้ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger — Kilometer: RPK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) รวมทั้งระบบเฉลี่ยร้อยละ 78.0 ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเฉลี่ย ร้อยละ 78.7 อย่างไรก็ตาม ยังมีบางเส้นทางที่อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารในเดือนนี้สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เส้นทางยุโรป เส้นทางภูมิภาคสายใต้ และสายตะวันออกกลาง นอกจากนี้ เมื่อคิดเป็นจำนวนผู้โดยสาร มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 6.2
สำหรับหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยร้อยละ 77.0 ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เฉลี่ยร้อยละ 82.5 เป็นผลจากการขยายเส้นทางบินเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปัจจุบันหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ให้บริการจำนวน 13 เส้นทาง เปรียบเทียบกับปีก่อนที่ให้บริการจำนวน 4 เส้นทาง
สำหรับการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรง เป็นผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ (Revenue Freight Ton-Kilometers: RFTK) ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.4 ในขณะที่ปริมาณการผลิต (Available Dead Load Ton-Kilometers: ADTK) เท่ากับเดือนเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้มีอัตราส่วน การบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor) โดยรวมทั้งใต้ท้องเครื่องบิน (Belly) และเครื่องบินขนส่งสินค้า (Freighter) เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 45.6 ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เฉลี่ยร้อยละ 50.4
2. เรื่อง การเปิดเส้นทางบินใหม่
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบการเปิดเส้นทางบินใหม่ จำนวน 4 เส้นทาง เพื่อเพิ่มรายได้ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และรองรับความต้องการของตลาด โดยเพิ่มจุดบินใหม่ที่มีศักยภาพ ดังนี้
1 เส้นทางบินไป-กลับ กรุงเทพฯ — ฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำการบินโดยหน่วยธุรกิจ การบินไทยสมายล์ ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 320-200 สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2556
2 เส้นทางบินไป-กลับ กรุงเทพฯ — ฉางชา สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำการบินโดยหน่วยธุรกิจ การบินไทยสมายล์ ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 320-200 สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2556 และจะเพิ่มความถี่เป็นสัปดาห์ละ 5 เที่ยวบิน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นไป
3 เส้นทางบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ — หลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำการบินโดยหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 320-200 สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป
4 เส้นทางบินไป-กลับ กรุงเทพฯ — เซนได ประเทศญี่ปุ่น ทำการบินโดยการบินไทย ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 330-300 สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป
3. เรื่อง การปรับโครงสร้างสายการพาณิชย์
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างสายการพาณิชย์ เพื่อให้สอดคล้องกับ การปรับกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ของบริษัทฯ ทั้งนี้สายการพาณิชย์เป็นหน่วยงานสำคัญมากหน่วย งานหนึ่ง เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่สร้างรายได้และยังต้องดำเนินงานภายใต้ภาวะที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งต้องมีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังต้องเน้นการสร้างคุณภาพรายได้ให้ควบคู่กันไป รวมทั้งการให้บริการลูกค้าด้านการขาย จึงจำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างของสายการพาณิชย์ เพื่อทำให้องค์กรแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้ได้มีการจัดหมวดหมู่ของหน่วยงานต่างๆ ให้เหมาะสมกับสายงาน โดยแยกเป็น 5 ฝ่าย ดังนี้
1. ฝ่ายการตลาดและบริหารรายได้
2. ฝ่ายขาย-ประเทศไทยและอินโดจีน
3. ฝ่ายขาย-ภูมิภาค
4. ฝ่ายขาย-ระหว่างทวีป
5. ฝ่ายการพาณิชย์ดิจิตอล
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังแต่งตั้งฝ่ายบริหารระดับผู้อำนวยการใหญ่ทดแทนผู้บริหารซึ่งเกษียณอายุ และรองรับการปรับโครงสร้างครั้งนี้อีกด้วย