นักเศรษฐศาสตร์ นิด้า หนุน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน รับ AEC วอนทุกฝ่ายหาทางออกแหล่งที่มาของเงิน หวั่นโครงการสะดุดฉุด ศก.ไทยดิ่งเหว

ข่าวทั่วไป Thursday September 19, 2013 16:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ลั่น พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ชี้ชะตาอนาคตประเทศไทยสู่ความพร้อมเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในอาเซียนได้หรือไม่ วอนทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกที่มาของเงินเพื่อนำไปลงทุนอย่างมีเหตุผล หวั่นโครงการสะดุด ฉุดขีดความสามารถแข่งขันไทยในอาเซียนดิ่งเหว รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) (Prof. Dr. Montree Socatiyanurak, Director of the Master of Public Administration 's MPA Executive Program) เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ยืมเงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และขนส่งของประเทศ วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท นับเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นที่ต้องผลักดันให้เกิดการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อเตรียมความพร้อมที่ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่ก่อให้เกิดโอกาสการค้าการลงทุนและชิงความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์การค้า ที่ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนได้ ทั้งนี้ เนื่องจากไทยมีความได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ที่อยู่กึ่งกลางของภูมิภาค โดยพบว่า ภายในระยะเวลาการบิน 1 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ จะครอบคลุมกลุ่มประชากรในอาเซียนได้ถึง 300 ล้านคน หากเพิ่มระยะการบินเป็น 3 ชั่วโมง จะครอบคลุมประชากรถึง 1,000 ล้านคน และหากเพิ่มเป็น 5 ชั่วโมง จะครอบคลุมประเทศจีนและอินเดียทั้งประเทศ คิดเป็นจำนวนประชากร 3,100 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะพัฒนาระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมรองรับโอกาสทางด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว ที่จะเป็นแรงกระตุ้นหนุนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวสูงขึ้นได้ “ในด้านภูมิศาสตร์ เราได้เปรียบแล้วที่อยู่ตรงกึ่งกลางอาเซียน แต่หากมองในแง่ของการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในอาเซียนได้หรือไม่นั้น ต้องอยู่ที่โครงสร้างพื้นฐานของไทยที่จะต้องมีความพร้อมรองรับด้านการขนส่งสินค้าที่สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีสนามบินที่สามารถรองรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นได้หรือไม่มากกว่า ซึ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะใช้เวลานาน ดังนั้น เชื่อว่าทุกฝ่ายต่างก็เห็นด้วยในการผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดขึ้นให้ได้” รศ.ดร.มนตรี กล่าว ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA กล่าวว่า ส่วนแหล่งที่มาของเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ที่หลายฝ่ายถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้นั้น แต่ละฝ่ายต้องรัดกุมและวิเคราะห์ส่วนได้ส่วนเสียที่ชัดเจนก่อนกำหนดมาตรการ เนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยหากนำไปผูกพันกับงบประมาณประจำปี ก็ต้องพิจารณาความเสี่ยงในการดำเนินโครงการว่า มีความต่อเนื่องหรือก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการดำเนินโครงการได้สำเร็จหรือไม่ และหากลงทุนในรูปแบบการกู้ยืมเงิน อาจเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินช่วยแบ่งเบาภาระการก่อหนี้ เช่น ออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงขีดความสามารถในการก่อหนี้ของไทย จะพบว่า ยังไม่เป็นประเด็นที่น่าวิตกนัก เนื่องจากสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของไทย ณ เดือนมิถุนายน มีหนี้เทียบกับจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 44.5 ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และหากต้องกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนภายใต้ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะอยู่ที่ระดับร้อยละ 50 ของจีดีพี ซึ่งถือว่ายังอยู่ในกรอบความมั่นคงทางการคลัง “เชื่อว่าทุกฝ่ายเห็นด้วยการกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจของอาเซียน ที่มีระบบสาธารณูปโภครองรับการคมนาคม ขนส่ง และโลจิสติกส์ที่ดี เพื่อเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านได้ แต่ปัญหาในขณะนี้คือ แหล่งที่มาของเงินว่าจะเป็นการกู้ยืมหรือจะนำไปผูกกับงบประมาณประจำปี ซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะต้องร่วมกันวิเคราะห์หาทางออกเพื่อผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดให้ได้ เนื่องจากการลงทุนครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลดีทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ไทยมีความพร้อมด้านการคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ ที่ส่งผลให้ไทยมีศักยภาพแข่งขันกับประเทศต่างๆ ในอาเซียนได้ดีขึ้นอีกด้วย” รศ.ดร.มนตรี กล่าว เผยแพร่ข่าวในนามหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ MPA NIDA โดย บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คุณพิภพ ฆ้องวง(ท๊อป) โทร. 02-612-2081 ต่อ 127 Email : baokaban_naja@hotmail.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ