กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,327 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,314 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.34 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,600 บาท กับ 19,700 บาท และกลับมาปิดที่ 19,450 บาท กับ 19,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 679 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,287 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2 % GFV13 ปิด 19,580 บาท และGFZ13 ปิด 19,650 บาท GF10V13 ปิด 19,570 บาท GF10Z13 ปิด 19,650 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 10.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,316.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 27.1 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.586 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 909.59 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 46 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 103.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 66.79 จุด ปิดที่ 15,334.59 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นและลดลงสลับกัน โดยลงไปทำจุดต่ำสุดประมาณ 1,307 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดใหม่ของสัปดาห์ในช่วงการซื้อขายเมื่อคืนนี้ จากการที่ไม่มีข่าวการเมืองและตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมามากนัก และยังคงมีความกังวลถึงการที่เฟดอาจลด QE อย่างไรก็ตาม สมาชิกเฟดหลายรายยังเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะลด QE
ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และมอร์แกน แสตนลีย์ ระบุว่า การตัดสินใจของเฟดในการคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยสนับสนุนราคาทองคำแค่ในระยะสั้น ซึ่งมองว่าราคาอาจปรับตัวลดลงหลุด 1,250 เหรียญก่อนสิ้นปีนี้
ขณะนี้ยังไม่มีการตกลงกันระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวได้ ซึ่งหากยังไม่เกิดข้อตกลงกันได้ภายในวันที่ 30 กันยายน รัฐบาลสหรัฐจะยุติการปฏิบัติงานชั่วคราวในวันอังคารหน้า โดยตลาดจะมุ่งประเด็นไปที่เรื่องเพดานหนี้ทันที
นายแจ็ค ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ระบุเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐอาจมีเงินน้อยกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนตุลาคม ในช่วงที่รัฐบาลหมดกำลังทางการกู้ยืม ซึ่งรายได้รัฐบาลน้อยกว่าที่คาดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดี บารัค โอบามาได้ประกาศแถลงการณ์ถึงการเจรจาเรื่องความเข้มงวดและความร่วมมือเรื่อง อาวุธนิวเคลียร์กับประเทศอิหร่านที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากอิหร่านนั้นมีท่าทีให้ความร่วมมือกับสหรัฐ
เจ้าหน้าที่จากอีซีบีระบุวานนี้ว่า อีซีบีอาจนำมาตรการผ่อนคลายการเงินใหม่มาใช้ หากเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปไม่ส่งสัญญาณที่ดีขึ้น กดดันสกุลเงินยูโรให้อ่อนค่าลง และจำกัดแรงเข้าซื้อในทองคำ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนเฟดในการลด QE
สัญญา Gold Option จะหมดอายุวันนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดร่วงลง เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการ
ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดลดลงเช้านี้ เข้าสู่การปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สาม จากความไม่แน่นอนในเรื่องนโยบายการเงินและการคลังสหรัฐ ซึ่งดูเหมือนมีโอกาสมากขึ้นที่รัฐบาลสหรัฐจะยุติการปฏิบัติงานชั่วคราว
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 81.8 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 79.9 ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 79.7
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.8% ตัวเลขที่คาดการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.1%
- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -7.4% ตัวเลขที่คาดการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.0%
- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 394K ตัวเลขที่คาดการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 422K
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -4.4M ตัวเลขที่คาดการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ -1.0M
ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมของราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ และมีการปรับตัวลดลงมาทำจุดต่ำสุดประมาณ 1,308 เหรียญโดยประมาณ และทรงตัวบริเวณ 1,310 - 1,320 เหรียญ โดยทั่วไปข่าวเริ่มให้ความสนใจกับประเด็น Fiscal Cliff ที่จะครบกำหนดภายในกลางเดือนตุลาคม คืออีกประมาณสองสัปดาห์ โดยที่ราคาทองคำเองเคลื่อนตัวในกรอบแคบ เช้านี้เคลื่อนตัวอยู่บริเวณ 1,323 เหรียญโดยประมาณ ในขณะที่ค่าเงินบาทเองกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งหนึ่งอยู่บริเวณ 31.45 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำของไทยยังคงเป็นลักษณะ Sideways อยู่ในกรอบ ตัวเลขเศรษฐกิจในวันนี้ ได้แก่ Core Durable Goods Orders, Durable Goods Orders และ New Home Sales ซึ่งตลาดคาดการณ์ปรับตัวสูงขึ้นทั้งหมด
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในเชิงเทคนิคยังเป็นลักษณะการเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways โดยที่รอข่าวใหม่ๆ ที่จะเข้ามา ยังเป็นลักษณะของแนวโน้มขาลง ซึ่งมีแนวต้านด้านบนบริเวณ 1,335 เหรียญ แนวรับด้านล่างอยู่บริเวณ 1,300 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นลักษณะของ Sideways ในกรอบดังกล่าว ทองคำของไทยคงจะปรับตัวสูงขึ้นได้บ้างจากการที่เงินบาทอ่อนค่าลง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ทำกำไรในกรอบแคบ
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,540 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,740 บาท
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,800 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง