เดลล์กำไรพุ่ง 63 % พร้อมด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 52%

ข่าวเทคโนโลยี Friday May 22, 1998 12:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--22 พ.ค.--เดลล์ คอมพิวเตอร์ คอร์ป เดลล์ คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (หรือมีชื่อในตลาดหุ้นนาสเด็กคือ DELL) เผยสถิติการเติบโตสูงสุดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 17 ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เดลล์สามารถสร้างผลกำไรที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีได้เพิ่มสูงถึง 40% ในแต่ละไตรมาส โดยมีรายได้ในไตรมาสแรกประจำปีการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2541 เพิ่มขึ้นมากกว่า 3,900 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้น 52% และมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 0.27 เหรียญสหรัฐในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วเป็น 0.44 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 63% (มีหน่วยเป็นล้าน ยกเว้นตัวเลขเกี่ยวกับจำนวนหุ้น) Q1 FY ’99 Q1FY ’98 รายได้สุทธิ $3,920 $2,588 รายได้จากการดำเนินงาน $429 $277 กำไรสุทธิ ิ $305 $198 กำไรต่อหุ้น $0.44 $0.27 มร. ไมเคิล เอส. เดลล์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า "ผลการดำเนินงานที่มีความโดดเด่นอย่างต่อเนื่องของเดลล์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการซื้อสินค้าโดยตรงจากเดลล์จะเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าทั้งด้านความน่าเชื่อถือ การบริการ คุณค่าเสริมและความสะดวกสบายที่ลูกค้าได้รับจากเรา" มร. เดลล์ กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานที่ประกาศในครั้งนี้ ประกอบกับการประเมินสถานการณ์ของนักวิเคราะห์ในวงการคอมพิวเตอร์ ทำให้เดลล์ก้าวสู่อันดับที่ 1 ในด้านผลกำไร ครองอันดับที่ 2 ในด้านรายได้สุทธิทั่วโลก และครองอันดับที่ 3 ในด้านจำนวนยอดขายเครื่องพีซี ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯ ได้ดำเนินการบริหารกำไรที่ได้จากการหักต้นทุนสินค้า (gross margin) และค่าใช้จ่ายควบคู่กันอย่างรอบคอบและมี สัดส่วนที่เหมะสม ซึ่งมีส่วนผลักดันให้มีรายได้จากการดำเนินงานโดยคิดจากยอดรายได้เพิ่มขึ้นจาก 10.7% ในไตรมาสของปีที่แล้วเป็น 10.9% นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เดลล์ได้เป็นผู้ริเริ่มในการนำระบบการบริหารสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในวงการคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้เดลล์สามารถสร้างเงินสดได้สูงถึง 457 ล้านเหรียญ และมีปริมาณเงินสดและหลักทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีการเงินเท่านั้น ทั้งนี้ปริมาณสินค้าในคลังของบริษัทฯ มีการผลัดเปลี่ยนถึง 46 ครั้งต่อปี หากพิจารณาเป็นมูลค่าเงินแล้ว เดลล์สามารถรักษาระดับสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับเดียวกันตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในขณะที่ยอดรายได้มีการเติบโตขึ้นกว่า กำไรจากการลงทุนในส่วนทุน (Return on invested capital หรือ ROIC) เป็นหลักพื้นฐานในการวัดความมีประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ โดยบริษัทฯ มีผลกำไรจากการลงทุนในส่วนทุนในไตรมาสนี้สูงถึง 229% หรือสูงกว่าคู่แข่งรายสำคัญมากกว่า 4 เท่า อัตราการเติบโตของรายได้ทั่วภูมิภาคของเดลล์ เติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดถึง 3 - 6 เท่าในทุกภูมิภาคที่เดลล์ดำเนินงานอยู่ ในประเทศอเมริกา รายได้จากการจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคและองค์กร ในช่วงไตรมาสแรกเติบโตขึ้นถึง 50% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2,600 ล้านเหรียญ โดยเดลล์ได้วางแผนที่จะขยายสู่กลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตามบ้านที่มีประสบการณ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากรายได้จากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคมีปริมาณสูงมาก รายได้ในยุโรปเพิ่มขึ้น 62% หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการรายงานของนักวิเคราะห์ระบุว่าเดลล์เป็นผู้จำหน่ายยักษ์ใหญ่อันดับที่ 3 ในตลาดยุโรปแทนฮิวเลตต์ แพ็คการ์ด สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศญี่ปุ่น เดลล์มีรายได้เพิ่มขึ้น 35% หรือคิดเป็นมูลค่า 269 ล้านเหรียญและมียังผลกำไรเพิ่มสูงขึ้น สิ่งนี้เป็นการแสดงให้เห็นชัดถึงการเติบโตอย่างสวนกระแสของตลาดคอมพิวเตอร์ในภูมิภาคโดยรวมซึ่งมีการตกต่ำลงถึง 7% ผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อของเดลล์ได้รับการกล่าวขวัญถึงในด้านเทคโนโลยี ความน่าเชื่อถือ และคุณค่า ทำให้บริษัทฯสามารถสร้างอัตราการ เติบโตของรายได้ ซึ่งมีตัวเลขการเติบโตสูงถึง 3 หลักติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6 รายได้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ และเครื่องเวิร์คสเตชั่นรุ่น Precision เติบโตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 177% ทั้งนี้นักวิเคราะห์ได้ระบุว่า เดลล์สามารถครองตลาดเซิร์ฟเวอร์ซึ่งใช้สำหรับงานเครือข่ายได้เป็นอันดับที่ 2 ภายในไตรมาสแรกของปี และครองอันดับ 1 สำหรับตลาดเครื่องเวิร์คสเตชั่นที่ใช้วินโดวส์ เอ็นที ในประเทศสหรัฐอเมริกา เดลล์ครองตำแหน่งอันดับที่ 4 ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ และอันดับที่ 2 ในตลาดเอ็นที เวิร์คสเตชั่นในระดับโลก จากการรายงานของบริษัทการ์ทเนอร์กรุ๊ปเรื่อง วินโดวส์เอ็นที: กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ ซึ่งได้ดำเนินการสำรวจและวิจัยกลุ่มผู้จำหน่ายเครื่องเซิร์ฟเวอร์ชั้นนำ ได้ระบุว่า เดลล์ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านการจำหน่ายเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งในด้านขีดความสามารถในการปฏิบัติงานและวิสัยทัศน์ที่สมบูรณ์แบบ รายได้ในส่วนของเครื่องโน้ตบุ๊ครุ่น Latitude และ Inspiron เพิ่มขึ้นถึง 87% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเดลล์สามารถก้าวล้ำหน้าบริษัทไอบีเอ็ม โดยได้กลายเป็นผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊คใหญ่เป็นออัันดับที่ 3 ในประเทศสหรัฐอเมริกา และครองตำแหน่งผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊คใหญ่อันดับที่ 5 ของโลก ยอดจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้ประจำไตรมาสเพิ่มขึ้นถึง 40% โดยหลังจากผ่านพ้นช่วงไตรมาสที่ 1 มาแล้วเครื่องเดสก์ทอปรุ่น Dimension ของเดลล์ทุกเครื่องจะใช้หน่วยประมวลผลแบบ เพนเทียม ทู ของอินเทลทั้งหมด และกว่า 70% ของเครื่องรุ่น OptiPlex ใช้เพนเทียมทู เดลล์มุ่งเน้นในการเพิ่มการลงทุนด้านการจำหน่ายด้วยระบบขายตรงมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานและการบริการให้กับลูกค้า โดยสังเกตุได้ว่าบริษัทฯ สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยมูลค่ากว่า 5 ล้านเหรียญต่อวัน หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 2,000 ล้านเหรียญต่อปีผ่านเวิลด์ ไวด์ เว็บที่ www.dell.com ทั้งนี้ธุรกิจการบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-service) และการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) มีการเติบโตใกล้เคียงกัน โดยเดลล์ให้บริการข้อมูล และการบริการสำหรับลูกค้าด้วยระบบการติดต่อแบบ Interactive ผ่านเว็บเพจกว่า 3,000 หน้า ทั้งนี้โปรแกรมการติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่เดลล์ขยายเพิ่มมากขึ้น เป็นรูปแบบการขายตรงอันเป็นเอกลักษณ์ของเดลล์ ซึ่งได้รับรางวัลรับรองในด้านความพึงพอใจและคุณภาพมากมายในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานี้ ได้แก่ รางวัล Top Hardware Vendor จากเวิร์คกรุ๊ป เทคโนโลยีส์, รางวัลชนะเลิศด้านคุณภาพและความพึงพอใจของลูกค้าในช่วงไตรมาสที่ 1 จากการศึกษาจากกลุ่มองค์กรประเภทไอที ของบริษัท Technology Business Research, รางวัล Texas Quality Award ซึ่งได้รับรองในด้านคุณภาพ ความพึงพอใจของลูกค้า และประสิทธิภาพการทำงาน ยอดเยี่ยมของเครื่อง OptiPlex รุ่นใหม่ที่ผลิตจากโรงงาน นอกจากนี้ เดลล์สามารถกวาดรางวัลอื่น ๆ อีกถึง 6 รางวัล ซึ่งเป็นที่ยืนยันในด้านความเหนือชั้นของการบริการและความพึงพอใจของลูกค้าตลอดช่วง 24 เดือนที่ผ่านมานี้ มร. เดลล์ กล่าวเสริมว่า "เราได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนอุปกรณ์ ตลอดจนกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรในการมอบการบริการที่ดีที่สุด โดยมุ่งเน้นในการพัฒนาปรับปรุงสินค้าและการบริการสู่มือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และตราบใดที่เรายังคงยึดมั่นในการทำงานให้ดีที่สุด เราเชื่อว่าวิธีการดำเนินงานที่เราทำอยู่นี้จะเป็นการนำเสนอทางเลือกใหม่ ๆ ที่มีความยืดหยุ่น และเชื่อถือได้สำหรับลูกค้าของเรา"เดลล์ คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่ติดอันดับในจำนวน 125 บริษัทของฟอร์จูน 500ฎ และเป็นบริษัทผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลกด้วยระบบขายตรง รวมทั้งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตระบบคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกด้วยรายรับที่สูงถึง 13,600 ล้านเหรียญสหรัฐตลอดช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา สิ้นสุด ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2541 นอกจากนี้ เดลล์ยังออกแบบ และนำเสนอสินค้าและบริการที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะตามความต้องการของผู้ใช้ รวมทั้งนำเสนออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตั้งอยู่ที่ประเทศฮ่องกง และมีหน้าที่ดูแลควบคุมการดำเนินงานครอบคลุมในประเทศออสเตรเลีย บรูไน จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี มาเก๊า มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นอกจากนี้ในเดือนมกราคม 2539 เดลล์ได้เปิดโรงงานผลิตประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บนพื้นที่ 238,000 ตารางฟุตที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานอุตสาหกรรม ISO 9002 ในเดือนกรกฏาคม 2539 ผู้ที่ ทั้งนี้เดลล์ดำเนินการผลิตคอมพิวเตอร์นับตั้งแต่โน้ตบุ้ค เครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป เซิร์ฟเวอร์สำหรับงานเครือข่าย และเวิร์คสเตชั่น สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ของเดลล์สามารถติดต่อโดยตรงผ่านบริการโทรศัพท์ฟรีของเดลล์ที่ โทร. 0880 060 06 หรือที่เว็บ ไซท์ของเดลล์ ที่ http://www.dell.com/ap/.--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ