TFIC Furniture Outlet 2013 คึกคัก ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ตัวจริงกว่า 100 บริษัท ระดมสินค้ามาให้ช้อปในราคาโรงงาน คาดผู้ร่วมงานทะลุ 6 หมื่น เงินสะพัด 150 ล้าน

ข่าวทั่วไป Sunday September 29, 2013 11:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่อง เรือนไทย เดินหน้าจัดงาน TFIC Furniture Outlet 2013 ระดมเฟอร์นิเจอร์ส่งออกแบรนด์ชั้นนำจากผู้ผลิตตัวจริงมาจำหน่ายในราคาโรงงาน ลดพิเศษสูงสุด 70% ตั้งเป้าผู้ร่วมงาน 60,000 คน มูลค่าซื้อขาย 150 ล้านบาท มั่นใจอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยฉายแววสดใส เติบโตเพิ่ม 5% นายวีระชัย คุณาวิชยานนท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงจุดเด่นของงานจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ TFIC Furniture Outlet ว่า งานนี้เปรียบเสมือนเป็นเอาท์เล็ตของตัวจริงเสียงจริงจากผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งได้ยืนหยัดจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 แล้ว โดยมีผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์มาร่วมงานกว่า 100 บริษัท เพื่อจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง คุณภาพส่งออกในราคาโรงงาน ลดพิเศษสูงสุด 70% ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะมีความหลากหลายให้เลือกตามความต้องการ อาทิ เฟอร์นิเจอร์สำหรับที่พักอาศัย สำนักงาน สวน เฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก รวมทั้งของตกแต่งบ้านและสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญ สินค้าบางชิ้นไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากผลิตเพื่อส่งออกโดยเฉพาะ งาน TFIC Furniture Outlet จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25-29 กันยายนนี้ ที่ฮอลล์ 2-4 อิมแพค เมืองทองธานี ภาย ในงานยังจัดให้มีมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีและกสิกรไทย รับสิทธิผ่อน 0% 10 เดือน และยังได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 36,000 บาท โดยสามารถรวมบิลได้ทุกร้านตลอดงานทั้ง 5 วัน โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้ชมงานกว่า 60,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% และคาดว่าจะมียอดขาย 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 25% นายวีระชัย กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยในปัจจุบันว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม — กรกฎาคม 2556 เฟอร์นิเจอร์ไทยสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกได้แล้ว 617.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าทั้งปีจะมีการส่งออกอยู่ที่ 1,250 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มียอดส่งออกอยู่ที่ 1,143 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับมุมมองต่อการเปิดเออีซีนั้น นายวีระชัย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากตลาดของประเทศที่เจริญแล้วและสามารถแข่งขันได้ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ไทยสามารถเข้าไปสร้างมูลค่าเพิ่มได้ สร้างภาพลักษณ์ของสินค้าที่มีดีไซน์กว่า โดยเน้นจำหน่ายในตลาดบน ส่วนประเทศลาว พม่า กัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดที่ประเทศไทยมีศักยภาพมากกว่า จะใช้วิธีถ่ายทอดพฤติกรรมผู้บริโภคเข้าไป เช่น ชาวพม่าที่เข้ามาทำงานในเมืองไทยซึ่งได้รับการถ่ายทอดวัฒนธรรมจากไทย ทำให้เขารับรู้ว่ามีเฟอร์นิเจอร์ยี่ห้อใดบ้าง คุณภาพเป็นอย่างไร และน่าจะดีกว่าประเทศเขา เป็นต้น วิธีเหล่านี้จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ไทยได้รับประโยชน์จาก 3 ประเทศนี้ชัดเจน นอกจากนี้ การเปิดเออีซี จะทำให้หลายประเทศเข้ามาเปิดสำนักงานในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นสำนักงานรองรับการเปิดเออีซี ซึ่งจะทำให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศเติบโตขึ้นตามไปด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ