กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘SANKO’ เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเครื่องจักร หนุนขีดความสามารถด้านการผลิตและการแข่งขัน รองรับคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่ม หลังศึกษาลู่ทางการลงทุนลุยตลาดต่างประเทศ แก้เกมตลาดรถยนต์ในประเทศหดตัวจากเศรษฐกิจชะลอตัวและนโยบายรถคันแรกปิดโครงการ ฉุดความต้องการซื้อรถยนต์ในประเทศลดลง
นายรัฐวัฒน์ ศุขสายชล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SANKO ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีฉีดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ ฉีดหล่อความดันสูง (High-Pressure Diecasting หรือ HPDC) ให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลเกษตร และอื่นๆ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเครื่องจักรที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตและช่วยลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลงได้ หลังจากได้ติดตั้งเตาหลอมและเครื่องกลึงอัตโนมัติแล้วเสร็จ ส่งผลให้ความสามารถการแข่งขันของบริษัทฯ ดียิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังสามารถรองรับคำสั่งซื้อสินค้าในอนาคตจากตลาดต่างประเทศ หลังบริษัทฯ ได้ศึกษาลู่ทางในการขยายตลาดชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ฉีดหล่อความดันสูงในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักรกลเกษตรไปยังตลาดต่างประเทศทั้งในเอเชีย ยุโรปและอเมริกา โดยเริ่มจากประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อรองรับมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันที่จะเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ไทยก้าวเข้าสู่ AEC
นอกจากนี้ ยังมองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปี 2557 จะกลับเข้ามาฟื้นตัวสู่ภาวะปกติ หลังปีนี้อุตสาหกรรมมีการเติบโตแบบชะลอตัวลงไปจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการดำเนินมาตรการรถยนต์คันแรกของภาครัฐที่กระตุ้นความต้องการซื้อรถยนต์ในช่วงปีที่ผ่านมา มีผลให้ปริมาณการซื้อรถยนต์ใหม่ในปีนี้ลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต้องปรับตัวด้านการผลิตให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดฯ
“อุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้ของไทยไม่สดใสมากนัก เราจึงใช้จังหวะนี้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อสินค้าที่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวต้นปีหน้า เนื่องจากขณะนี้ บรรดาค่ายรถยนต์ได้เริ่มวางแผนผลิตสินค้าในปี 57 ซึ่งส่งผลดีต่อความต้องการชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีฉีดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ ฉีดหล่อความดันสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”