JMT ดันบริษัทย่อย JAM ลุยซื้อหนี้สินเชื่อบ้าน ล่าสุด ซื้อหนี้จาก “อัลฟา แคปปิตอล” มูลค่า 38 ลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 15, 2013 14:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--IR PLUS JMT แจ้งความคืบหน้าบริษัทย่อย “บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด หรือ JAM” เข้าไปซื้อหนี้จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ อัลฟา แคปปิตอล จำกัด มูลค่า 38 ลบ. ซึ่งเป็นหนี้ NPL ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อเตรียมความพร้อมรุกธุรกิจซื้อหนี้ NPL ประเภทที่มีหลักประกัน และ NPA มากขึ้น หลังมองเห็นโอกาสสร้างความแข็งแกร่ง “ปิยะ พงษ์อัชฌา”แม่ทัพใหญ่ JMT เผย เป็นแค่ช่วงการทดลองซื้อหนี้ประเภทดังกล่าวเท่านั้น เพื่อเตรียมพร้อมซื้อหนี้ก้อนใหญ่ในอนาคต คาดเห็นความชัดเจนการขยายธุรกิจซื้อหนี้ในปี 57 นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ และรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด หรือ JAM เพื่อสิทธิทางกฎหมายในการดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการหนี้สินที่ดำเนินการทางกฎหมายแล้ว โดยล่าสุด แจ้งความคืบหน้าว่า บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพ กับบริษัท บริหารสินทรัพย์ อัลฟา แคปปิตอล จำกัด โดยสัญญามีมูลค่าหนี้คงค้างตามสิทธิเท่ากับ 38 ล้านบาท ซึ่งหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาซื้อหนี้ ดังกล่าวเพิ่มอีกราว 2 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูล “ ล่าสุดบริษัทบริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด หรือ JAM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMT ซื้อหนี้จากบริษัท บริหารสินทรัพย์ อัลฟา แคปปิตอล จำกัด มูลค่า 38 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ NPL ประเภทสินเชื่อบ้าน ถือว่าเป็นหนี้ก้อนไม่ใหญ่มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในช่วงทดลองการซื้อหนี้ดังกล่าวเข้ามาบริหาร เพื่อเตรียมความพร้อมในการซื้อหนี้ NPLประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยก้อนใหญ่เพิ่มขึ้นในอนาคต จากก่อนหน้านี้ JMT ดำเนินธุรกิจซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์และจักรยานยนต์เท่านั้น” นายปิยะ กล่าว นายปิยะกล่าวอีกว่า หนี้ NPL ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใช้ระยะเวลาในการจัดเก็บหนี้นานเนื่องจากบ้านมีการผ่อนชำระค่อนข้างยาว และมีมูลค่าหนี้ต่อรายสูง ส่งผลให้ต้นทุนในการทำงานของบริษัทฯ ต่ำ เมื่อเทียบกับหนี้ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์และจักรยานยนต์ อีกทั้ง เป็นหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ความเสี่ยงในการติดตามหนี้จึงมีน้อย โดยมองว่าหนี้ประเภทดังกล่าวยังมีอยู่ในตลาดจำนวนมาก จึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายเข้าไปรุกหนี้ประเภทนี้มากขึ้น “JMT ดำเนินธุรกิจบริหารหนี้มาอย่างยาวนาน จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่สินเชื่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งการบริหารหนี้ NPL ประเภทที่มีหลักประกัน รวมทั้งทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ได้ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างศึกษาและทดลองการเก็บหนี้ดังกล่าวแล้ว และคาดว่า จะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปี 2557” นายปิยะ กล่าว
แท็ก ประกัน   ลุย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ