กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--เอ็ม.โอ.ชิค
ถ้าคุณคือคนยุคใหม่ สำรวจตัวเองกันสักนิดว่าชีวิตคุณเป็นอยู่เช่นนี้หรือเปล่า? วิถีแต่ละวันต้องอยู่กับความรีบเร่ง รถติด ผจญควันพิษ ชีวิตส่วนใหญ่พึ่งพาอาหารจานด่วน อาหารถุง อาหารกล่องพลาสติก อ่อนมื้อเช้าหนักมื้อเย็น เป็นคนมีความเครียดสูง หาเวลาออกกำลังกายได้ยาก หากต้องเข้าสังคมงานสังสรรค์ก็เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ไม่ได้ ..ถ้าทุกวันของคุณมีวิถีชีวิตอย่างที่กล่าวมา ..เชื่อได้เลยว่า คุณกำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างมหันต์ด้านสุขภาพกับมะเร็งร้ายสองชนิดที่มาพร้อมกับวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ นั่นคือ ‘มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่’
โรคมะเร็งเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่แบ่งแยกเพศและวัย แม้กระทั่ง ‘มะเร็งเต้านม’ ที่ในปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันว่า ผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้ แม้อัตราส่วนที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงร้อยละ 1 ของเพศหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมก็ตาม ทั้งนี้ นายแพทย์นิกร ไวประดับ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน ระบุถึงความเป็นไปได้ในการเกิดมะเร็งเต้านมว่า ‘อุบัติการณ์ของการเกิดมะเร็งเต้านม ส่วนใหญ่จะพบมากในชุมชนเมืองที่มีความเจริญ และมีวิถีชีวิตแบบสังคมเมือง ในประเทศไทยอัตราการเกิดมะเร็งเต้านมอยู่ที่ประมาณ 20 คน ต่อประชากรหญิง 100,000 คน พบมากสุดในเขตจังหวัดกรุงเทพมหานคร และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่’
ส่วน ‘มะเร็งลำไส้ใหญ่’ แม้จะมีข้อมูลยืนยันว่า ส่วนใหญ่มักเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่เพศหญิงก็มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้จากรูปแบบการใช้ชีวิตเช่นกัน ‘มะเร็งลำไส้ใหญ่’ มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งที่ควบคุมไม่ได้ เช่นกรรมพันธุ์ อายุ และเพศ ส่วนปัจจัยที่ควบคุมได้ คือ เรื่องของอาหารการกิน และการจัดสมดุลเวลาของชีวิต หากคุณยังต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเสี่ยงของการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร คุณต้องพยายามพิถีพิถันกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าให้ความสำคัญกับการเร่งรีบด้วยข้อจำกัดของเวลาในแต่ละวัน และสิ่งต้องห้ามที่ควรลด ละ เลิก หรือหลีกเลี่ยงมากที่สุด คือแอลกอฮอล์ บุหรี่ และความเครียด นั่นเอง
นายแพทย์ธรณัส กระต่ายทอง อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ว่า ‘การเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในระยะแรกจะไม่มีอาการใดๆ ปรากฏ แต่เมื่อรอยโรคมีความรุนแรงมากขึ้นจึงจะปรากฏอาการ แนวทางป้องกันคือ การตรวจร่างกายประจำปี ซึ่งสำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้อาจจะช่วยให้พบรอยโรคในระยะเริ่มแรกและรักษาให้หายขาดได้’ โดยในปัจจุบัน
วงการแพทย์แนะนำให้คนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เพื่อคัดกรองความผิดปกติภายในลำไส้ วิธีนี้สามารถลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ และลดอัตราการเสียชีวิตลงได้
ในส่วนของการรักษามะเร็งเต้านมนั้น ปัจจุบันมีการรักษาห้าวิธี คือ 1.การผ่าตัด ซึ่งรวมถึงการศัลกรรมตกแต่งในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการคงเอกลักษณ์ความเป็นผู้หญิงไว้ 2.การให้ยาเคมี เพื่อลดความเสี่ยงการเป็นซ้ำ 3.การรับยาต้านฮอร์โมน 4.การฉายแสง เป็นการรักษาเฉพาะที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการผ่าตัด และ5.การรักษาด้วยยาต้านเฉพาะเซลล์ ซึ่งเป็นการให้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเซลล์มะเร็งเท่านั้น ไม่กระทบเซลล์อื่นๆ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก การรักษามะเร็งเต้านมต้องใช้วิธีรักษาร่วมกันหลายวิธี เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด และในการบำบัดรักษาจำเป็นต้องได้รับการดูแลแบบสหสาขา ทั้งศัลยแพทย์ แพทย์เคมีบำบัด และรังสีแพทย์ เพื่อให้ผลการรักษาเกิดประสิทธิภาพแก่ผู้ป่วยมากที่สุด
แต่ทั้งนี้มีอยู่หนึ่งปัจจัยที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งส่วนใหญ่เป็นกังวลมาก เมื่อรับทราบว่าตนเองกลายเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็ง นั่นคือ ปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา หลายคนต้องยอมจำนนต่อการขาดโอกาสในการบำบัดรักษาอาการป่วยของตนเอง แต่วันนี้ เครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล ได้มอบโอกาสดีๆ สำหรับคนไทย เพื่อการเข้าถึงคุณภาพการรักษาสองโรคมะเร็งร้ายได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเป็นประวัติการณ์กับโครงการ ‘เพราะมะเร็ง รอไม่ได้’ ซึ่งประกอบด้วย แพคเกจการรักษาแบบให้ยาคีโมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ประกอบด้วยมะเร็งเต้านมราคา 5,900 บาทต่อครั้ง และมะเร็งลำไส้ราคา 17,900 บาทต่อครั้ง รวมถึงมีบริการตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหาร ราคา 5,900 บาท ตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ 9,900 บาท การผ่าตัดซีสต์ที่เต้านมแบบไม่นอนพักที่โรงพยาบาล ราคา 9,900บาท การผ่าตัดมะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรกแบบรักษาเต้านม ราคา 49,000 บาท และการผ่าตัดลำไส้ราคา 99,000 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามบริการดังกล่าวได้ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 พฤศจิกายน 2556 หรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์เพื่อสุขภาพอื่นๆ ของเครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล ได้ที่ โทร. 0-2271-7000 หรือเช็คสุขภาพออนไลน์รูปแบบใหม่ผ่าน Application ทาง Facebook และรับข่าวสารกิจกรรมเพื่อสุขภาพดีได้ที่ http:/www.facebook.com/PaoloMemorialHospital