กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--เดนท์สุ
บริษัท คาเมดะ-เอสทีซี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะนำผลิตภัณฑ์ข้าวแผ่นอบกรอบไขมันต่ำ “โอโคเมะ” ออกวางตลาดในเดือนตุลาคมนี้ โดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทำงานทั้งหญิงและชายที่รักสุขภาพอายุประมาณ 20-29 ปี และกลุ่มเป้าหมายรอง 20-39 ปี ที่นิยมบริโภคขนมขบเคี้ยว ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการทำตลาดในประเทศไทยว่าจะสามารถทำยอดขายติด 1 ใน 3 ของตลาดขนมขบเคี้ยว
“บริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากความโดดเด่นของโอโคเมะ ที่มีรสชาติสไตล์ Neo Japanese และยังเป็นข้าวแผ่นอบกรอบไขมันต่ำอย่างแท้จริง ด้วยการนำเทคโนโลยี Hot Air เข้ามาใช้เป็นรายแรกของเมืองไทย ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะใช้ลมร้อนความเร็วสูงในการอบกรอบโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน สามารถคงคุณค่าสารอาหารไว้อย่างครบถ้วนและรักษาความกรอบไว้ได้นานกว่า” มร.เท็ตสึยะ ฟูจิซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาเมดะ-เอสทีซี จำกัด กล่าว
ข้าวแผ่นอบกรอบไขมันต่ำโอโคเมะ มี 4 รสชาติประกอบด้วย รสโนริวาซาบิ รสเทอริยากิฟิช รสสวีทคอร์น และรสบาบีคิวเคอรี่ มีให้เลือก 3 ขนาดคือ ขนาด 60 กรัม, ขนาด 30 กรัม และขนาด 16 กรัม วางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ โดยในช่วงแนะนำ บริษัทฯได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดไว้ประมาณ 50 ล้านบาท สำหรับแผนงานสื่อสารครบวงจร ซึ่งจะมีทั้งภาพยนตร์โฆษณาความยาว 30 วินาที และ 15 วินาที การจัดกิจกรรมออนไลน์ การใช้สื่อดิจิตอลต่างๆ รวมไปจนถึงการแจกสินค้าตัวอย่างและกิจกรรมส่งเสริมการขาย
และสำหรับการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น KAMEDA SEIKA ยังร่วมมือกับ DKSH ผู้นำในการให้บริการด้านการขยายตลาดให้กับธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เหนือกว่าในการให้บริการด้านการขยายตลาดที่เหมาะสมกับความต้องการของคู่ค้า จึงมั่นใจได้ว่า โอโคเมะ จะประสบความสำเร็จในการทำตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน” มร.ฟูจิซากิ กล่าว
- ตลาดขนมขบเคี้ยวในไทย มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 7% อย่างต่อเนื่องทุกปี
- บริษัท คาเมดะ-เอสทีซี จำกัด เป็นบริษัทในเครือของบริษัท KAMEDA SEIKA ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายขนมข้าวอบกรอบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึงประมาณ 30%
- นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ในเครือของ KAMEDA SEIKA ยังติดอันดับยอดขายสูงสุดถึง 8 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งในปี 2555 ที่ผ่านมามียอดขายในญี่ปุ่นสูงถึง 25,493 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน: 3.19 บาท/เยน)