กรุงเทพ--15 ม.ค.--อย.
อย.ออกระเบียบใหม่กำหนดขั้นตอน วิธีการอนุญาตและให้ความเห็นเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ เริ่มบังคับใช้จริงตั้งแต่ 5 กุมภาพันธ์ 2542 หวังผลให้การดำเนินงานด้านนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อป้องกันการลัดขั้นตอนหรือการปลอมแปลงเอกสารการอนุญาตโฆษณา
น.พ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยเกี่ยวกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการออกมาตรการป้องกันการปลอมแปลงใบอนุญาตโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า อย.ได้ออกระเบียบใหม่ว่าด้วยขั้นตอนและวิธีการอนุญาตและให้ความเห็นเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ พ.ศ. 2541 เพื่อให้การดำเนินงานด้านการขออนุญาต การอนุญาต และการให้ความเห็นเกี่ยวกับการโฆษณาเกี่ยวกับโฆษณาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากขึ้น และเพื่อป้องกันการลัดขั้นตอนหรือการปลอมแปลงเอกสาร สาระสำคัญในระเบียบใหม่นี้จะมีขั้นตอนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบยิ่งขึ้น โดยเรื่องใดที่มีปัญหาทางเทคนิค ปัญหาทางวิชาการหรือมีความเห็นแย้งกันในหลาย ๆ ด้านจะมีนำเรื่องเสนอผู้เชี่ยวชาญหรือคณะทำงาน พิจารณากลั่นกรองตามความเหมาะสมอีกครั้ง และมีการกำหนดให้ใช้คำขออนุญาตโฆษณาตามแบบที่ อย.เห็นชอบ ซึ่งจะไม่รวมอยู่ในใบเดียวกันเหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งใบอนุญาตโฆษณายังใช้กระดาษเฉพาะของ อย.พิมพ์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ยากต่อการปลอมแปลง ส่วนในกรณีที่เจ้าของผลิตภัณฑ์มอบให้บุคคลอื่นมายื่นขออนุญาต จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรมาด้วย เพื่อป้องกันปัญหาการแอบอ้างขอโฆษณาโดยที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ไม่ทราบ นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมการออกเลขที่ใบอนุญาตโฆษณาที่รัดกุมมากขึ้น โดยกำหนดให้มีอักษรย่อแทนชนิดผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตามด้วยเลขที่ใบอนุญาตทับปี พ.ศ. เช่น ฆอ_/_ สำหรับโฆษณาอาหาร ฆพ_/_ สำหรับโฆษณาเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ซึ่งระบบนี้ ในอีกทางหนึ่งจะช่วยให้เจ้าของสื่อและผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ว่าโฆษณาดังกล่าวผ่านการอนุญาต อย.หรือไม่ด้วย โดยการระบุให้โฆษณาข้อความเลขที่ใบอนุญาตโฆษณาในสื่อโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าว เริ่มใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2542 แต่จะขยายเวลาบังคับใช้ออกไป โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2542 เป็นต้นไป
สำหรับปัญหาที่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์บางรายเห็นว่าการพิจารณาอนุญาตโฆษณาของอย.ล่าช้าเกินไป ไม่ทันเวลาที่ต้องการนั้น สามารถแก้ไขได้ โดยผู้มายื่นขออนุญาตควรเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในการยื่นขออนุญาตโฆษณาให้ครบถ้วน ได้แก่ แบบคำขออนุญาตโฆษณา, หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์มอบให้บุคคลอื่นมายื่นขออนุญาตแทน) สำเนาหนังสือรับรองทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรณีที่เป็นนิติบุคคล หรือสำเนาหนังสือจดทะเบียนพาณิชย์ (ถ้ามี), สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน กรณีเป็นบุคคลธรรมดา, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและของผู้รับมอบอำนาจ กรณีมอบอำนาจให้ยื่นขออนุญาตแทน และรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่ปรากฎในแบบคำขออนุญาตโฆษณาเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการพิจารณาอนุญาต ไม่ต้องเสียเวลาในการขอหลักฐานเพิ่มเติมอีก รองเลขาธิการฯ น.พ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ กล่าวในที่สุด--จบ--