กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (LT FC IDR) ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ที่ ‘BBB’ และ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว ที่ ‘AA+ (tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงอยู่ด้านท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตสนับสนุน อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ และอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB สะท้อนถึงการที่ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หากมีความจำเป็น KTB เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ ทั้งยังมีการควบคุมกำกับอย่างใกล้ชิด และการสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลในอดีต ดังนั้นรัฐบาลอาจมีอำนาจควบคุมดูแล KTB ในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐในอนาคต หากมีความจำเป็น นอกจากนี้ KTB ยังเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งมีความสำคัญต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพของธนาคารสะท้อนถึงความคาดหมายว่าระดับการสนับสนุนจากรัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ ‘bbb-’ ของ KTB คำนึงถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจเงินฝากและสถานะทางการเงินของธนาคารที่ปรับตัวดีขึ้น ผลกำไรของธนาคารซึ่งในอดีตอยู่ในระดับไม่สูงนักเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกัน ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ธนาคารสามารถตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับที่สูงขึ้น และช่วยให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ฟิทช์คาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวแย่ลงและการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนในประเทศไทย อาจส่งผลให้ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของธนาคารในด้านอื่นเช่น สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และเงินกองทุนนั้น ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์อื่นในประเทศที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกัน แต่ยังคงต่ำกว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศเล็กน้อย อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าระดับเงินกองทุนที่จะช่วยรองรับผลความเสี่ยงของธนาคารในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ถ้าระดับการเติบโตและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับ (risk appetite) ของธนาคารได้ยังคงอยู่ในระดับที่จัดการได้
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของประเทศไทย (BBB+/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ KTB แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง ในขณะเดียวกันอันดับเครดิตอาจถูกปรับลงหากมีการลดสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาล หรือการมีปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลให้โอกาสในการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลลดลง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจได้รับผลกระทบหากแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์และเงินกองทุนของธนาคารปรับตัวไปในทิศทางที่แย่ลง และอาจส่งผลให้อัตราส่วนที่สำคัญในด้านดังกล่าวปรับตัวต่ำลงและมีความแตกต่างกันมากขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกัน เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดจากความพยายามของธนาคารที่จะขยายการเติบโตของสินเชื่อ และ/ หรือ การเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจที่มากเกินไป ในขณะเดียวกันการปรับตัวดีขึ้นของผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้รับการปรับเพิ่มอันดับ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะไม่เกิดขึ้นในระยะปานกลาง
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ KTB อาจส่งผลกระทบไปในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตของโครงการห้นกู้ Euro Medium Term Note (EMTN) ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อันดับเครดิตของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และ อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ในขณะเดียวกันก็อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB ด้วยเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจต่อผลกระทบต่อ อันดับเครดิตภายในประเทศของตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (ตราสารตามเกณฑ์ Basel II) ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถงดการจ่ายดอกเบี้ยได้ถ้าธนาคารมีผลขาดทุน (non-cumulative coupon deferral feature)
KTB เป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 15% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 KTB มีเครือข่ายสาขาอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 1,124 สาขา
ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ KTB ดังต่อไปนี้:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F3’
- อันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ ‘bbb-’
- อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ ‘BBB’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’
- โครงการห้นกู้ EMTN มูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Hybrid Tier 1 Securities) ที่ ‘B’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการห้นกู้ระยะสั้น มูลค่า 30 พันล้านบาทที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ ‘AA(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Hybrid Tier 1 Securities) ที่ ‘BBB(tha)’