ความร้อนแรงทางการเมืองไม่ส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์

ข่าวอสังหา Wednesday November 6, 2013 12:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ในขณะนี้มีการชุมนุมทางการเมือง ทำให้สถานการณ์ดูอึมครึมจนมีความวิตกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ แต่ในความเป็นจริงไม่มีผลใด ๆ การชุมนุมทางการเมืองเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2556 ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ และ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ สองเสนาธิการร่วม กปท. แถลงเหตุผลของการชุมนุมว่า "เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของประชาชน . . . เอาแต่แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" จนมาถึงการชุมนุมเรื่องพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในขณะนี้ และมีท่าทีว่าจะพยายามโค่นล้มรัฐบาล แม้แต่รัฐประหารก็ยังไม่มีปัญหาต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ รัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็ยังไม่ได้ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลงแต่อย่างใด ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงไปบ้าง อย่างไรก็ตามหากไม่มีรัฐประหารในครั้งนั้น เป็นไปได้ที่ราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าในปัจจุบัน เพราะรัฐประหารในคราวนั้นส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาคมโลกต่อประเทศไทย และส่งผลต่อเศรษฐกิจพอสมควร อย่างไรก็ตาม ราคาอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ได้ตกต่ำลงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากประเทศไทยเปลี่ยนสภาพเป็นประเทศเผด็จการทรราช ก็อาจทำให้เกิดผลในระยะยาว ตัวอย่างที่เห็นชัดก็คือพม่า ซึ่งเมื่อ 60 ปีที่แล้วอาจเจริญกว่าไทยเล็กน้อย แต่ขณะนี้ถือว่าล้าหลังกว่าไทยเป็นอย่างมาก ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียซึ่งเคยมีความยุ่งเหยิงทางการเมือง ก็ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์อยู่ในระดับราคาที่ต่ำกว่าไทยในปัจจุบัน ดังนั้นการเมืองจึงเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว แต่ในระยะสั้น การกระเพื่อมทางการเมืองอาจทำให้เกิดการชะงักงันได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบด้านราคาแต่อย่างใด ในกรณีประเทศไทยครั้งล่าสุดคือเมื่อ พ.ศ.2553 ซึ่งมีความยุ่งเหยิงทางการเมือง ที่ประชาชนผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตรวมเกือบร้อยคนนั้น แม้เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลด แต่จำนวนโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็กลับเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จาก 57,604 หน่วยเป็น 116,791 หน่วยในระหว่างปี พ.ศ.2552 ถึง 2553 ทั้งนี้เป็นเพราะการส่งออกในปี พ.ศ.2553 เติบโตกว่าปี 2552 ถึง 17% เศรษฐกิจดีประชาชนจึงซื้อบ้านมากขึ้น โดยสรุปแล้ว ในความเป็นจริงประชาชนคงไม่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่บางครั้งมีการกระพือข่าวให้สถานการณ์ดูน่ากลัวกว่าความเป็นจริง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการทำลายความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และอาจทำให้ประชาชนหลงขายอสังหาริมทรัพย์ในราคาถูกกว่าความเป็นจริง ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงได้จัดทำ AREA แถลงฉบับนี้มาเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม ดร.โสภณ กล่าวในที่สุด การเดิมพันการแพ้ชนะทางการเมืองของกลุ่มบุคคลด้วยเครดิตของประเทศ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง โปรดน้อมระลึกถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชน เฉพาะในกรุงเทพมหานคร ถ้าสมมติว่า เฉพาะในกรุงเทพมหานครเสียหายไป ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง” ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ