กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ หรือ CHG เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2556 เพิ่มขึ้น 58 % มีกำไรสุทธิกว่า 126 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นกว่า 23 % หรือกว่า 617 ล้านบาท ยันรายได้ปีนี้โตตามเป้า 20 % แน่นอน หลังพัฒนาศักยภาพศูนย์แพทย์เฉพาะทางโดยเฉพาะศูนย์โรคหัวใจ และศูนย์โรคมะเร็งได้รับการตอบรับที่ดี และทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าบริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทโรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ)หรือ CHG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2556 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯมีกำไรเพิ่มขึ้นคิดเป็น 58 % โดยมีกำไรสุทธิ 126.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.84 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมของบริษัทฯเพิ่มขึ้นคิดเป็น 23.88% มีรายได้รวมที่ 617.61ล้านบาท เพิ่มขึ้น119.04 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วง 9 เดือนของปี 2556 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 64.56 % หรือมีกำไรสุทธิ 306.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.42 ล้านบาท
“ สาเหตุรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยสำคัญที่ทางบริษัทฯเป็นที่รู้จักมากขึ้นสำหรับประชาชนทั่วไป และมีภาพลักษณ์ที่ดียิ่งขึ้นส่งผลทำให้ประชาชนหรือลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีรายได้มาเพิ่มขึ้นจากโครงการสวัสดิการภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการภาครัฐอื่นๆ ซึ่งเติบโตถึง1,500 % เป็นผลจากการเปิดศูนย์โรคหัวใจครบวงจรในช่วงไตรมาส 1 ปี 2556 อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเติบโตของบริษัทฯมีอัตราต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้บริษัทฯ
นายแพทย์กำพล กล่าวถึงทิศทางผลประกอบการในอนาคตน่าจะปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของรายได้ที่บริษัทฯตั้งเป้าเติบโตทั้งปีไม่ต่ำกว่า 20 % ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯได้เพิ่มผลิตภัณฑ์และเพิ่มศักยภาพในโรงพยาบาลมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง เช่น ศูนย์โรคหัวใจ และหลอดเลือด ศูนย์โรคมะเร็ง ศูนย์ตรวจสุขภาพ เป็นต้น
นายแพทย์กำพล กล่าวอีกว่า “ นอกจากนี้ทางบริษัทฯมีนโยบายการเดินหน้าขยายโรงพยาบาลให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทั้งในส่วนของการขยายจำนวนเตียง และพื้นที่ให้บริการ เช่นในโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และมีการเปิดโรงพยาบาลใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง ที่จ.ปราจีนบุรี บริเวณพื้นทีถนนสาย 304 ซึ่งเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม เช่น นิคมอุตสาหกรรม304 และโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)เป็นต้น”
“ แนวโน้มรายได้เติบโตปีนี้คงเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 20 % อย่างแน่นอน เนื่องจากรายได้ 9 เดือนที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นไปตามเป้า และในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ก็คงจะเป็นไปตามเป้าเช่นกัน เป็นเพราะบริษัทฯได้เพิ่มศักยภาพในการให้บริการกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการขยายพื้นที่ให้บริการ โดยเฉพาะการพัฒนาศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางที่เราตั้งใจในการหาเทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาใช้ในศูนย์ อาทิเช่น ศูนย์โรคหัวใจ และหลอดเลือด ศูนย์โรคมะเร็งที่ล่าสุดได้นำเข้าเครื่องรักษาโรคมะเร็งจุฬารัตน์ไฮฟูนิท 9000 เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามโดยเฉพาะมะเร็งตับ และตับอ่อนจึงเชื่อว่าไม่เพียงแต่ผู้ใช้บริการในพื้นที่จ.สมุทรปราการ และจ.ฉะเชิงเทรา และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะสามารถให้บริการรักษาครอบคลุมกับประชาชนทั่วประเทศได้” นายแพทย์กำพลกล่าว