ไนท์แฟรงค์ฯเผยพื้นที่จอมเทียนจะเป็นแหล่งคอนโดใหม่ในพัทยา

ข่าวอสังหา Thursday November 14, 2013 12:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--Knight Frank พื้นที่บริเวณจอมเทียนถึงนาจอมเทียนจะกลายเป็นแหล่งคอนโดมิเนียมหลักในพัทยา เนื่องด้วยหลายๆปัจจัยที่ทำให้ย่านนี้มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆในพัทยา ปัจจัยเหล่านี้รวมถึงการปรับปรุงการขนส่งภาคพื้นดินที่เชื่อมผ่านถนนสายที่สองที่วิ่งขนานถนนเลียบชายหาดจอมเทียนยาว 400 เมตรรวมกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่นตลาดจอมเทียน สวนน้ำ 2 แห่งได้แก่สวนน้ำรามายณะ สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์กแอมมาโซนซึ่งทั้งสองสวนน้ำมีกำหนดเปิดทำการในปลายปีนี้ นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าแกรนด์คิงดอม เป็นศูนย์รวมครอบครัวที่มีเด็กเล็กและนักช็อปไปสู่แหล่งนี้ จอมเทียนตั้งอยู่ทางใต้จากเขาพระตำหนักไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร พื้นที่เริ่มต้นของจอมเทียนมีคนพลุกพล่านเป็นอย่างมาก ในขณะที่พื้นที่ปลายสุดของหาดแห่งนี้เรียกว่า นาจอมเทียนค่อนข้างสงบและเงียบมีการจราจรไม่หนาแน่น ข้อมูลสถิติจากบริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงให้เห็นถึงจำนวนของคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้นในพัทยา จอมเทียนและบางสเหร่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 ซึ่งบันทึกไว้ที่ 40,939 ยูนิต เพิ่มขึ้น 32.9% จากในช่วงท้ายของปี 2012 จำนวนคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 โดยประมาณ 10,153 ยูนิตจากจำนวนคอนโดมิเนียม 20 โครงการที่เพิ่มเข้ามาในตลาด ในปีนี้มีนักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มเจาะตลาดและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาเช่น บริษัทเอสซีแอสเสท บริษัทแสนสิริ และ บริษัทศุภาลัย ตลาดคอนโดมิเนียมในจอมเทียนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เนื่องจากยังมีพื้นที่ที่พร้อมจะพัฒนาประมาณ 4,247 ยูนิต เปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 หรือ ประมาณ 42% ของโครงการที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตามตั้งแต่การขยายถนนจอมเทียนเส้นที่สองให้มีการเชื่อมต่อกับถนนสายหลักในพัทยา พื้นที่จอมเทียนก็กลายเป็นแหล่งพัฒนาคอนโดมิเนียมและรีสอร์ทที่ขนาดใหญ่ในพัทยา พื้นที่พัทยาเหนือและวงศ์อมาตย์ประสบความสำเร็จกลายเป็นพื้นที่นิยมอันดับสอง ด้วยจำนวนโครงการที่เปิดตัวใหม่ประมาณ 3,114 ยูนิต หรือราวๆ 30% ของโครงการที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด พัทยาเหนือและวงศ์อมาตย์เป็นพื้นที่สงบเงียบทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบจากผู้ซื้อชาวไทยเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามบริเวณพื้นที่นี้พื้นทยังค่อนข้างใหม่สำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งในพื้นที่และจากกรุงเทพฯ จำนวนรวมของโครงการเปิดตัวใหม่ในพัทยาใต้มีประมาณ 1,800 ยูนิต หรือ 18% ของโครงการเปิดตัวใหม่ทั้งหมด พัทยาใต้ค่อนข้างวุ่นวายเนื่องจากมีห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก ร้านอาหารและยังเป็นแหล่งบันเทิง ดังนั้นพื้นที่นี้จึงค่อนข้างแออัด ไม่เป็นที่น่าดึงดูดใจสำหรับการพัฒนาให้เป็นที่อยู่อาศัยเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ จำนวนโครงการที่เปิดตัวใหม่ในพระตำหนักคิดเป็น 992 ยูนิต หรือ 10% ของโครงการที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด ผลวิจัยบริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าความต้องการด้านที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมในพัทยาสิ้นครึ่งแรกของปี 2013 มีจำนวนทั้งหมด 21,614 ยูนิตคิดเป็นอัตราเข้าอยู่ 51.7% ในช่วงเวลานี้อัตราการเข้าอยู่เพิ่มขึ้นจาก 50.3% ในช่วงท้ายปี 2012 มาอยู่ที่ 51.7% ในช่วงกลางปี ??2013 หรือประมาณ 5,682 ยูนิตที่ขายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 ความต้องการของคอนโดที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อยูนิต สำหรับพื้นที่ขนาด 25-30 ตารางเมตร ผู้ซื้อส่วนมากเป็นชาวไทยที่ทำงานในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ชาวกรุงเทพฯที่ต้องการบ้านหลังที่สองไว้พักผ่อนริมทะเลและชาวรัสเซียที่ต้องการหลบหนีฤดูหนาวในรัสเซีย ราคาขายคอนโดมิเนียมในพัทยามีความแตกต่างขึ้นอยู่กับสถานที่และวิวโดยรอบ คอนโดสูงๆบางแห่งถึงจะตั้งอยู่ไกลจากชายหาดแต่ยังสามารถโฆษณาว่าเห็นวิวทะเล ราคาขายสูงสุดโดยรวมตั้งอยู่ในพัทยาเหนือซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชื่นชอบของชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพเป็นส่วนมาก ส่วนใหญ่แล้วโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณที่อยู่ใกล้กับชายหาดสามารถมองเห็นวิวทะเลได้จะขายอยู่ที่ 130,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนโครงการอื่นๆในพัทยาเหนือที่ไม่มีวิวทะเลสามารถขายได้ประมาณ 55,108 - 71,250 บาทต่อตารางเมตร โครงการส่วนใหญ่ที่มองเห็นวิวทะเลและเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2013 ตั้งอยู่ในพื้นที่จอมเทียนและพระตำหนัก ราคาขายของโครงการคอนโดมิเนียมติดทะเลในเขตจอมเทียน อยู่ในช่วงราคาประมาณ 91,372 - 140,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายโดยเฉลี่ยในพื้นที่พระตำหนักเพิ่มขึ้นจาก 77,610 บาทต่อตารางเมตรในปี 2012 ไปที่ 89,010 บาทต่อตารางเมตรในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 พัทยาได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ริมทะเลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดทั้งเป็นจุดผ่านไปสู่หลายๆสถานที่สำคัญในเอเชีย โดยได้รับการสนับสนุนการลงทุนการก่อสร้างจากรัฐบาลรวมถึงการปรับปรุงพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาที่สามารถรองรับผู้โดยสารถึง 5 ล้านคนต่อปี เช่นเดียวกับแผนการเชื่อมโยงทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกรุงเทพฯ-พัทยา ซึ่งช่วยให้อัตราการเดินทางไปยังเมืองรีสอร์ทนี้เร็วและสะดวกขึ้น นอกจากนี้ พัทยายังเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจสำหรับประชาคมอาเซียนดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวจากในและนอกประเทศก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นางสาวริษิณี สาริกบุตร อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีความต้องการใหม่ของลูกค้าคอนโดมิเนียมในพัทยาจากผู้ซื้อชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ตั้งอยู่ในพัทยาเหนือและวงศ์อมาตย์ เนื่องจากมีร้านอาหาร ร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมเขตที่สงบเงียบในจอมเทียน เป็นที่นิยมมากสำหรับชาวรัสเซียและสแกนดิเนเวียนที่กำลังมองหาคอนโดราคาไม่แพงสำหรับเป็นบ้านหลังที่สองในช่วงวันฮอลิเดย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ