กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“พีทีจี” ปลื้มกำไร 9 เดือน 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 19% จากปีก่อน จากรายได้รวมกว่า 36,799 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดสถานีบริการน้ำมันพีที เพื่อให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศและเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับรอบ 9 เดือน สิ้นสุดเดือนกันยายน 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 36,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,294 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 20.63% และมีกำไรสุทธิ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 46 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 19.20%
สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุดเดือนกันยายน 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 11,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 989 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 9.76% และมีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 367% และมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจาก 10,129 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2555 เป็น 11,120 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2556 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 991 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 9.78% โดยรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากบริษัทฯ มีปริมาณการขายน้ำมันที่สูงขึ้นจาก 335 ล้านลิตรในไตรมาส 3 ปี 2555 เป็น 363 ล้านลิตรในไตรมาส 3 ปี 2556
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่สูงขึ้นจาก 3.53% ในไตรมาส 3 ปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 4.52% ในไตรมาส 3 ปี 2556 เนื่องมาจากการที่บริษัทฯ มีสัดส่วนปริมาณการขายผ่านสถานีบริการของบริษัทเอง (สถานีบริการน้ำมัน COCO) มากขึ้นจาก 46% เป็น 63% โดยช่องทางการขายดังกล่าวถือว่าเป็นช่องทางการขายที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าช่องทางอื่น
นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า นับจากนี้บริษัทฯ พร้อมรองรับการขยายตัวและการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า จากการเปิดคลังน้ำมันแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 8 ในจังหวัดพิษณุโลก โดยสามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมกราคม ปี 2557 ประกอบกับการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยสิ้นสุดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสถานีบริการน้ำมันพีทีรวมเกินกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ
อย่างไรก็ดี ในช่วงสิ้นปีนี้ บริษัทฯ ก็ยังคงเดินหน้าที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ประกอบกับการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีบริการน้ำมันพีทีแบบเดิมให้เป็นภาพลักษณ์ใหม่ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้ได้ 200 สาขา ภายใน 2 ปี อีกทั้งยังไม่นับถึงการเปิดร้านสะดวกซื้อ “แมกซ์มาร์ท” และร้านกาแฟพันธุ์ไทย รวมถึงคลับการ์ดสะสมแต้มอย่าง “แมกซ์การ์ด” สำหรับแลกของสมนาคุณให้กับลูกค้า ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าให้ความสนใจและสมัครเป็นจำนวนมาก
“เชื่อว่าในสิ้นปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายกิจการให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทั้งในส่วนของการขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันพีที การเปิดร้านแมกซ์มาร์ท และร้านกาแฟพันธุ์ไทย รวมถึงการเพิ่มกองรถบรรทุกน้ำมัน เพื่อรองรับการเปิดคลังน้ำมันแห่งใหม่ ซึ่งจะให้บริการได้ในมกราคมปีหน้า และการอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น บัตรคลับการ์ด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในสถานีบริการพีที เพื่อให้เป็นไปตามคำสัญญาที่ให้ไว้ว่า “ที่ไหนมีคนไทย พีทีจะไปถึง เพื่อเป็นที่ 1 ในใจคนไทยทั่วประเทศ” ” นายพิทักษ์กล่าว