บลจ. กสิกรไทย เพิ่มทางเลือกแก่นักลงทุน เสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ อายุโครงการ 2 ปี พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสูง 3.50% ต่อปี เปิดขาย 19-25 พ.ย. นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 18, 2013 16:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--บลจ. กสิกรไทย นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 — 25 พฤศจิกายน 2556 บลจ. กสิกรไทย จะเสนอขายกองทุนเปิด เค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 ปี ซี (KFF2YC) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ที่มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี แต่เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยผลตอบแทนประมาณการไว้ที่ 3.50% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่พร้อมลงทุนได้ในระยะที่นานขึ้น และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝากของ Bank of China และ China Construction Bank Corporation ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A และตราสารหนี้ที่ออกโดย Banco Santander (Brasil) S.A., Banco Bradesco S.A. และ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ BBB, BBB+ และ BBB+ ตามลำดับ โดยกองทุนดังกล่าวจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 1 ปี พร้อมทั้งมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน นายชัชชัย กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย ได้รับการตอบรับที่ดีจากการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจหากเปรียบเทียบกับผลตอบแทนของเงินฝากและการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน อีกทั้งในช่วงนี้ สถานการณ์ของตลาดหุ้นขาดเสถียรภาพ เพราะนักลงทุนยังหวั่นกับเรื่องของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ บวกกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบทำให้ภาวะตลาดหุ้นมีความผันผวน ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ก็ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และสามารถตอบโจทย์ให้กับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีเอ็ม (KFI3MDM) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.80% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เออาร์ (KFF6MAR) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.05 % ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นเพิ่มเติมด้วย โดยกองทุน KFI3MDM ซึ่งมีอายุกองทุนประมาณ 3 เดือน จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Bank of China และ China Construction Bank Corporation ด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)(A/TRIS), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ AA- และ A+ ตามลำดับ ด้านกองทุน KFF6MAR ซึ่งมีอายุกองทุนประมาณ 6 เดือน จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Bank of China และ China Construction Bank Corporation ด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A และ BBB- ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการ ลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ดีเอช (KPPTF3MDH) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.50% ต่อปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน KFI3MDM, KFF6MAR, KFF2YC และ KPPTF3MDH ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 begin_of_the_skype_highlightinend_of_the_skype_highlighting

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ