เอเชียทีค ส่งท้ายปีทุ่มงบเนรมิตรงาน “เอเชียทีค เฟสติวัล 2013” คาดดึงนักท่องเที่ยวได้สูงสุด 300,000 คนต่อวัน เดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ

ข่าวทั่วไป Tuesday November 19, 2013 15:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น เอเชียทีค ส่งท้ายปีทุ่มงบเนรมิตรงาน “เอเชียทีค เฟสติวัล 2013” คาดดึงนักท่องเที่ยวได้สูงสุด 300,000 คนต่อวัน เดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติพร้อมงัดแผนพัฒนาเฟสใหม่และกระจายสู่หัวเมืองต่างจังหวัดนำร่องที่ “หัวหิน” นายฐวัฒน์ สมมะโนพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ มีชื่อเสียงมากขึ้นในระดับนานาชาติ ในฐานะ แหล่งท่องเที่ยวและ ช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืนคืนริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวในเมืองไทย เอเชียทีค ได้พัฒนาศักยภาพของการให้บริการในด้านต่างๆ มากขึ้น เช่น การร่วมมือกับสถาบันทางการเงิน ในการให้ร้านค้าเปิดรับบัตรเครดิตมากขึ้น ซึ่งจะยังประโยชน์ให้ลูกค้าได้จับจ่ายได้สะดวกขึ้น นอกจากนั้น เราได้จัดทำที่จอดรถสำรองสำหรับลูกค้ากลุ่มบาร์ แอนด์ เรสเตอร์รอง ให้มีที่จอดรถได้สะดวกเมื่อมารับประทานอาหารค่ำ และที่จอดรถพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถซูเปอร์คาร์ และกลุ่มผู้ชื่นชอบการขี่รถมอร์เตอร์ไซด์บิ๊กไบท์ด้วย ในด้านสุขอนามัย เราได้รณรงค์แคมเปญ เอเชียทีค ปลอดควันบุหรี่ โดยได้จัดสถานที่เฉพาะไว้ให้แก่ลูกค้าที่ต้องการสูบบุหรี่ ซึ่งช่วยให้ไม่ไปรบกวนลูกค้าอื่นๆ ที่ไม่สูบบุหรี่ ในด้านการเดินทางมายัง เอเชียทีค โดยเรือนั้นเราได้ร่วมประสานกับบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยาให้จัดเรือเสริมขึ้นมาโดยคิดค่าบริการตามอัตราของเรือด่วน เจ้าพระยาในช่วงเวลาที่คนใช้บริการเรือรับ-ส่งฟรีของเราหนาแน่น เป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางไป-กลับสถานที่รถไฟฟ้า ตากสิน และท่าพระอาทิตย์ได้สะดวกยิ่งขึ้น “ด้านปริมาณของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาตินั้นมีปริมาณหนาแน่นสม่ำเสมอ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมมา ท่องเที่ยวที่เอเชียทีค 10 อันดับแรก จะเป็นประเทศ ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเลเซีย, อเมริกา, อินโดนีเซีย, อังกฤษ, เยอรมัน และรัสเซีย ตามลับดับ โดยสัดส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเป็น 60% และชาวไทย 40% มีจำนวนรวมต่อปีประมาณ 10 ล้านคน โดยเฉลี่ยแล้วจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่เอเชียทีคตามปกติที่ประมาณ 20,000 — 40,000 คนต่อวัน และมีการจับจ่ายภายในโครงการฯ ต่อปีประมาณ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้รายได้หลักของเอเชียทีค มาจากการเช่าพื้นที่ของร้านค้า และการจัดกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ของโครงการฯ ได้ถูกเช่าไปแล้วกว่า 95% และในปีหน้าคาดว่า จะถูกเช่าเต็มทุกส่วนของโครงการฯ” นายฐวัฒน์ สมมะโนพัฒน์ กล่าว ด้านกลยุทธ์การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น นายฐวัฒน์กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า “ในด้านการเพิ่มสัดส่วนของนักท่องเที่ยวนั้น เอเชียทีค ยังคงร่วมมือกับทางหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ในการดึงนักท่องเที่ยวมาสู่เมืองไทย เรายังคงจัดแสดงโรดโชว์ในต่างประเทศร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานส่งเสริม การจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการฯ กับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ และเจาะตลาดในกลุ่ม ผู้ประกอบการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการพัฒนารูปแบบแหล่งท่องเที่ยวและคุณภาพการให้บริการให้ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมายังเอเชียทีคมากขึ้น” ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2557 ที่กำลังจะมาถึง เอเชียทีค จึงวางแผนเปิดการแสดงใหม่ เรียกว่า “ไทยโชว์” ซึ่งจะเป็นการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งจะแตกต่างจากการชกมวยแบบทั่วไป คือจะเป็นการแสดงที่สอดแทรกความเป็นศิลปะและเกร็ดความรู้ของประวัติศาสตร์ของมวยไทยให้นักท่องเที่ยวได้รับชม สำหรับบัตรเข้าชมจะมีราคาประมาณ 1,000 — 1,500 บาท เราคาดว่าไทยโชว์จะสามารถเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เอเชียทีคมากถึง 20 % โดยเราจะเน้นเจาะกลุ่มตลาดเอเชีย และยุโรปเป็นหลัก “ในช่วงปีที่ผ่านมาสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดของ เอเชียทีค โดยมากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชียกว่า 80% ทำให้เราได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับภาพรวมของเศรษฐกิจโลก ด้วยศักยภาพชองกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่ยังคงมีศักยภาพในการใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มอื่นในขณะนี้ โดยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ เอเชียทีค มีแผนในการขยายโครงการ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพฯ นั้น ในจุดแรกที่เอเชียทีคมองไว้จะเป็นการเพิ่มแหล่ง Attraction บริเวณฝั่งตรงข้ามถนนเจริญกรุงซึ่งปัจจุบันใช้เป็นที่จอดรถ โดยคาดว่าจะมีใช้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 9,000 ตารางเมตร และจุดที่สองเราวางแผนจะขยายสาขาไปฝั่งตรงกันข้ามของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนเจริญนคร ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 29 ไร่ โดยคาดว่าจะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 150,000 ตารางเมตร โดยยังคงแนวความคิดในการออกแบบที่สะท้อนถึงเรื่องราว ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของพื้นที่เป็นสำคัญ อีกทั้งเราวางแผนว่าใช้กระเช้าลอยฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดเชื่อมต่อ ของแหล่งท่องเที่ยว ระหว่างฝั่งธนบุรี และฝั่งกรุงเทพฯ เพื่อเป็นจุดดึงดูดสำคัญให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือนอีกด้วย ส่วนพื้นที่ใน ต่างจังหวัดนั้น เอเชียทีค ได้วางแผนในการขยายสาขาไปยังหัวหิน โดยจะพัฒนาพื้นที่ริมชายหาดประมาณ 15 ไร่ ซึ่งสาขาที่หัวหินนั้น มุ่งไปยังกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงหรือกลุ่มไฮเอนด์ ส่วนขั้นตอนการออกแบบเอเชียทีคทุกสาขานั้นยังอยู่ ระหว่างดำเนินการวางแผน คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนในการก่อสร้างรวมทั้งสินประมาณ 5,000 ล้านบาท” นายฐวัฒน์ สมมะโนพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม ด้านมุมมองของ เอเชียทีค ต่อภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวของไทยในปี 2556 และคาดการณ์ในอนาคตนั้น นายฐวัฒน์แสดงความเห็นว่า “ในปี 2556 นี้ถือว่าการท่องเที่ยวของไทยมีการเติบโตที่ดีขึ้น และในปี 2557 สถานการณ์ด้าน ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการขยายตลาดได้อีก คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยเองก็มีโอกาสการขยายตัวมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากจากการที่สายการบินขยายเส้นทางการให้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งในอนาคตอันใกล้ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบด้านบวกต่อธุรกิจมากที่สุดคือ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและนโยบายการส่งเสริมตลาด การท่องเที่ยวของรัฐบาล จะส่งผลเป็นอย่างมากต่อการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย” ทั้งนี้ เอเชียทีค ได้กำหนดจัดเทศกาล “เอเชียทีค เฟสติวัล 2013” ขึ้น ภายใต้แนวคิด “Light up the Colors of Life!” ที่พร้อมจะสร้างสีสันสุดตระการตาเพื่อเนรมิตความสุขเหนือกาลเวลาให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน “เราคาดการณ์ว่าในช่วง เอเชียทีค เฟสติวัล 2013 (เดือน พ.ย. — ธ.ค.) จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นถึง 50,000 คนในวันธรรมดาและ 70,000 คน ในวันหยุด โดยในวันหยุดและเทศกาลสำคัญเช่นวัน ลอยกระทง และวันเคาท์ดาวน์จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวในโครงการถึง 100,000-300,000 คนต่อวัน โดยเทศกาล เอเชียทีค เฟสติวัล 2013 นี้ เราได้จัดกิจกรรมไฮไลท์มากมาย อาทิ เทศกาลอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ ที่คัดสรรสุดยอดแห่งรสชาติจากทั่วทุกมุมโลกพิเศษเพื่อคุณ, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ แจ๊ซ เฟสติวัล คอนเสิร์ต (ASIATIQUE The River Jazz Festival Concert) เพื่อคนคอดนตรีแจ๊ซได้เพลิดเพลิน กับบรรยากาศแห่งลมหนาวริมเจ้าพระยา, ร่วมชมทัศนียภาพมุมสูงของคุ้งน้ำเจ้าพระยา ในยามค่ำคืนสุดแสนแสนโรแมนติก บนชิงช้าสวรรค์ยักษ์ สูงกว่า 60 เมตร ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกในเมืองไทย กับ “ASIATIQUE SKY” สำหรับใครที่กำลังเตรียมหาของขวัญของฝากสำหรับเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงพบกันได้ในงาน Gift Festival 2013 ไม่ว่าจะของฝากแบบไหน รับรองคุณหาได้ที่นี่ และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับงาน เอเชียทีค เคาน์ดาวน์ 2014 (Countdown 2014) มาร่วมส่งความสุขกับคนพิเศษในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในวันที่ 31 ธันวาคม นี้ รับรองว่าคุณจะได้ประสบการณ์การเคาน์ดาวน์ครั้งใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร เพราะจะเป็นการรวมเหล่านักร้องชื่อดังระดับแถวหน้า ของเมืองไทยมาไว้ในที่เดียว” ทั้งนี้ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ตั้งอยู่ ตรงข้ามซอยเจริญกรุง 93 สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถยนต์ และรถไฟฟ้าบีทีเอส แล้วต่อเรือ Shuttle ให้บริการฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 4 โมงเย็น — 5 ทุ่มครึ่ง จากท่าสาทร หรือ BTS สถานีสะพานตากสิน ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขระดับโลกเพื่อต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงกับ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ได้ทุกวันตั้งแต่บัดนี้ — 19 มกราคม 2557 เวลา 17.00 — 24.00 น. สำหรับผู้ที่สนใจสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.asiatiquethailand.com หรือ www.facebook.com/Asiatique.Thailand หรือ 021084488

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ