กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ชัยพีอาร์
แซนดอซ นาฬิกาเรือนหรูสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของครอบครัวช่างซ่อมนาฬิกาที่เลื่องชื่อ ในยุคแรกของครอบครัวผู้ผลิตนาฬิกาแซนดอซตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 ในยุคที่ยังไม่ได้ตั้งโรงงานผลิตนาฬิกาสู่ตลาดโลก กระทั่งทุกวันนี้ แซนดอซก็ยังคงปรัชญาในการผลิตนาฬิกาที่ดั้งเดิม และยังคงคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นนาฬิการะดับหรู ที่สืบทอดเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ของนาฬิกายี่ห้อนี้ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง
นายทวีสิทธิ์ บริสุทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สหกรุงทอง เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในโอกาสที่นาฬิกาแซนดอซมีอายุครบ 143 ปี ในฐานะผู้แทนจำหน่ายขอร่วมแสดงความยินดีและบอกเล่าถึงความเป็นมาของนาฬิกา อันเลื่องชื่อและเป็นตำนานแห่งกาลเวลาย้อนอดีตกลับไปไกลถึงปี ค.ศ. 1870 เมื่อ Henry Sandoz ตกลงซื้อกิจการ การทำนาฬิกามาจาก Admin Watch Factory แล้วเริ่มผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงที่มีตัวเรือนบางเป็นพิเศษ รวมเข้ากับกลไกที่เดินได้อย่างเที่ยงตรงถึงระดับ โครโนมิเตอร์ ออกจำหน่าย
“ปีถัดมาได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้นพร้อมๆกับการมาถึงของนาฬิกาข้อมือซึ่งช่วยให้เกิดความสะดวกสบาย มีความเหมาะสมกว่าในการสวมใส่ และในโอกาสเดียวกันนี้เองที่ จึงได้คิดประดิษฐ์นาฬิกา และนับว่าเป็นผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือแบบใหม่ออกสู่ตลาด”
หลังจากสงครามโลกครั้งดังกล่าว ลูกชายของผู้ก่อตั้งนาฬิกาแซนดอซ ชื่อ Henry Sandoz ซึ่งเพิ่งเรียนจบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์การค้า และการผลิตนาฬิกาได้เข้ามาร่วมงานในโรงงานแซนดอซ และเขาผู้นี้คือผู้ให้การสนับสนุนในการพัฒนากิจการของบริษัท จนช่วยทำให้บริษัทนี้กลายเป็นผู้ผลิตนาฬิกาที่ทันสมัย ในขณะที่ยังคงประเพณีสืบทอดดั้งเดิมเอาไว้ การรวมตัวที่สมบูรณ์นี้ทำให้เกิดนาฬิกาข้อมือ
ตัวเรือนบางเบา เช่น นาฬิการุ่น 330 ที่มีทับทิม 60 เม็ด หรือนาฬิการุ่น HSF56 ที่ใช้กลไกรูปทรงปราดเปรียวและเดินได้อย่างเที่ยงตรง ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนทั่วโลก
ในปี 2005 ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของแซนดอซในประเทศสเปน รวมถึงการเลือกผู้แทนแบรนด์หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ ด้วยการสนับสนุนนักแข่งรถสูตร 1 หรือฟอร์มูล่า-1 เช่น เฟอร์นานโด อลองโซ (Fernando Alonso) ซึ่ง Alonnso สามารถเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ แซนดอส เป็นอย่างยิ่ง นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราอยากให้คนไทยได้สัมผัส และมีโอกาสได้เป็นเจ้าของนาฬิกาซึ่งเป็นตำนานอันทรงคุณค่าอีกแบรนด์หนึ่ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทฯ กล่าว
สำหรับ เอ๋-อัญชลี กิติวรรณกุล ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่รู้จักในนาม มิสทิน เผยถึงการเลือกนาฬิกาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ และการทำงานว่า ด้วยอาชีพ
พีอาร์เป็นอาชีพที่ต้องพบปะคนจำนวนมาก ซึ่งการที่จะเลือกนาฬิกาให้เหมาะกับชุดที่สวมใส่นั้น มีความจำเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็ให้ความสำคัญน้อยกว่าหน้าที่หลักคือการบอกเวลา จึงเป็นเหตุผลในการเลือกนาฬิกา แซนดอซ ที่ดูเรียบๆ คลาสสิก เรือนเล็กๆ ไม่ต้องใหญ่ หรือหวือหวา มีสีสันอะไรมาก เพราะอยากให้ใส่ได้กับทุกกิจวัตรประจำวัน ยิ่งเราทำงานในแวดวงการทำประชาสัมพันธ์ เราจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น นอกจากความมุ่งมั่น และใส่ใจ รวมถึงบุคลิกภาพที่ดีแล้ว การตรงต่อเวลาคือปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินความสำเร็จของเราอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน จึงเป็นบทสรุปนาฬิกาที่ดีสำหรับพีอาร์สาวเก่งคนนี้คือ “นาฬิกาทรงคุณค่าคือการบอกเวลาที่เที่ยงตรง”
ด้าน โย-ชโย ตันติวศิน ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศ บริษัท ยู เค เค อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกางเกงยีนส์และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ NOBODY กล่าวว่า ความชอบในเรื่องของนาฬิกาที่มีติดตัวอยู่นั้น ผมมองนาฬิกาเป็นเครื่องบอกเวลา รวมถึงการบ่งบอกไลฟ์สไตล์ และแฟชั่นของผู้สวมใส่ ที่สำคัญต้องเป็นเรือนที่เราชอบ ยิ่งมีเรื่องราวที่บ่งบอกประวัติความเป็นมาของนาฬิกา ยิ่งสร้างความน่าสนใจและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้สวมใส่ ซึ่งนาฬิกา แซนดอซ สามารถตอบความต้องการ และความเป็นตัวตนของผมได้เพียงแค่สวมใส่ และยิ่งผมทำงานเกี่ยวกับทางด้านการตลาดระหว่างประเทศ การนัดหมายเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ และการตรงต่อเวลานัดหมายก็เป็นการต่อยอดสู่ความสำเร็จของการทำธุรกิจเช่นกัน ดังนั้นนาฬิกาจึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและการทำงานของผมเป็นอย่างมาก นาฬิกาต้องมีความทนทาน บอกเวลาได้เที่ยงตรงและใช้งานได้จริงจึงเป็นบทสรุปของนาฬิกาที่ดีสำหรับหนุ่มคนนี้