วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013

ข่าวยานยนต์ Friday November 29, 2013 10:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--วอลโว่ วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013 ซีดานหรูขนาดใหญ่จากวอลโว่ ยังคงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมั่นใจ ด้วยดีไซน์งามสง่า ภายนอกเป็นเอกลักษณ์ และแชสซีที่ให้การทรงตัวและเกาะถนนดีเยี่ยม ส่วนภายในก็ยังคงเน้นทั้งความสะดวกสบายและความหรูหรา ตกแต่งอย่างประณีต ให้ทั้งความงามสง่า เกาะถนนดี และเครื่องแรงตอบสนองดีเยี่ยม โดยมีให้เลือกถึง 3 รุ่นเครื่องยนต์ ได้แก่ รุ่น T4 เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ รุ่น D4 เครื่องยนต์ดีเซล และรุ่น DRIVe เครื่องยนต์ FlexiFuel ที่สามารถรองรับน้ำมัน E85 ได้และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของวอลโว่ในการออกแบบรถที่ออกแบบมาเพื่อคนทันสมัยอย่างแท้จริง รวมทั้งยังมี 3 เทคโนโลยีใหม่เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่ ได้แก่ ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (Active High Beam) และ ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information) สำหรับรุ่น T4 และ D4 และระบบเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติเมื่อขับขี่เข้า/ออกจากที่มืด (Tunnel Detection) ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น การออกแบบภายนอก ดีไซน์การออกแบบที่หรูหราไร้กาลเวลาในแบบสแกนดิเนเวียน เมื่อดูจากภายนอกจะเห็นว่า วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013 มีตัวถังที่ดูยาว กว้างขวางนั่งสบาย กระจังหน้าและตราสัญลักษณ์วอลโว่ขนาดใหญ่ดูโดดเด่น มีสไตล์กับการตกแต่งด้วยโลหะมันวาวหรูหราบริเวณช่องระบายอากาศ ใต้ประตูและใต้ไฟท้าย ไฟหน้าที่ติดตั้งในตำแหน่งที่ต่ำ พร้อมด้วยเส้นสายโค้งจากด้านหน้าลื่นไหลไปด้านข้างและท้ายให้ความรู้สึกเสมือนว่า วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013 กำลังยิ้มให้คุณ ประตูที่โค้งนูนและกระจกหน้าต่างท้ายรถสะกดทุกสายตา ขอบใต้ประตูดีไซน์โดดเด่นสื่อถึงความหนักแน่นมั่นคง นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความหรูและสง่างาม ดูเหมือนรถพุ่งทะยานไปข้างหน้าตลอดเวลา วอลโว่ได้สร้างเส้นสายที่โค้งคล้ายดาวหางจากหน้าต่างหลังไปจนถึงกระโปรงหลัง ไฟหน้าแบบใหม่และไฟเลี้ยวแบบ LED ที่ติดตั้งบนกระจกมองข้างเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์สะกดสายตาทุกคน ในรุ่นปี 2013 วอลโว่ได้เพิ่มความหรูและอิสระในการเดินทางด้วย Sunroof เฉพาะในรุ่น T4 อีกด้วย การตกแต่งภายใน Volvo Sensus ศูนย์รวมทุกข้อมูล ทุกความบันเทิง Volvo Sensus เป็นนวัตกรรมที่ให้ความสะดวกและข้อมูลสำคัญแก่คนขับอย่างเต็มที่ โดยออกแบบให้แผงคอนโซลกลางและหน้าปัดทำมุมเอียงหันไปด้านคนขับ เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญได้สะดวกจากหน้าจอสี 7 นิ้ว วอลโว่ได้ติดตั้งจอในตำแหน่งค่อนข้างสูงบนแผงคอนโซลหน้าเพื่อให้ผู้ขับมองเห็นข้อมูลและถนนได้อย่างชัดเจนพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ การออกแบบตำแหน่งการวางอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในระยะที่ผู้ขับขี่สามารถเอื้อมถึงปุ่มบังคับต่างๆ ได้สะดวก Volvo Sensus ยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยเทคโนโลยีบลูทูธ เพื่อให้สามารถสื่อสารได้สะดวกปลอดภัย รวมทั้งฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาได้อย่างรื่นรมย์ และสามารถฟังเพลงผ่านการเชื่อมต่อแบบบลูทูธได้ในรถยนต์ด้วย หรู สบาย สไตล์สแกนดิเนเวียน ภายในห้องโดยสาร วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013 ถูกปรับปรุงให้นั่งสบายมากขึ้น และหรูหรามากขึ้น ด้วยเบาะหนังนุ่มคุณภาพดีเย็บอย่างประณีตรับกับบานประตูขลิบลายเดียวกัน เนื่องจากลูกค้า 8 ใน 10 คน ต้องการเบาะหนัง ทีมดีไซเนอร์ของวอลโว่จึงได้พยายามพัฒนาเบาะให้นั่งสบายที่สุด ขอบด้านข้างนูนขึ้นรับสีข้าง รวมทั้งเลือกใช้หนังแท้คุณภาพสูงและนุ่มสบาย เบาะหนังมีให้เลือก 2 โทนสีคือ blond กับ off-black ในรุ่น T4 และ D4 เพิ่มความหรูด้วยแผงหน้าปัดและบานประตูตกแต่งด้วยไม้ลวดลายนุ่มนวล และรุ่น DRIVe ตกแต่งด้วยแถบสีเข้มเพิ่มความเท่ ส่วนคอนโซลกลางของทุกรุ่นเป็นแบบลอยตัว เพรียวบาง พวงมาลัยดีไซน์หรูเพิ่มความสง่างามให้แก่ S80 รุ่นปี 2013 ยิ่งขึ้นโดยในรุ่น T4 และ D4 เป็นพวงมาลัยตกแต่งด้วยไม้ และรุ่น DRIVe เป็นพวงมาลัยหุ้มหนัง แผงหน้าปัดและมาตรวัดอลูมิเนียมรวมทั้ง อุปกรณ์ต่างๆ ทั้งพวงมาลัยแบบสี่ก้าน หัวเกียร์ และปุ่มสตาร์ทขลิบริมด้วยโลหะสีด้าน ใหม่! ที่แสดงตำแหน่งเกียร์ไว้บนหัวเกียร์ด้วยแสงสีเขียวเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย รวมทั้งรูปทรงใหม่ที่จับกระชับมือ ใช้วัสดุพิเศษที่จะเรืองแสงสีขาวในความมืดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน เครื่องยนต์ทรงพลัง รักสิ่งแวดล้อม วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013 มีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 3 แบบซึ่งประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยไอเสีย ได้แก่ ? เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ (GTDi) T4 ความจุ 2 ลิตร ให้พลังงานสูงสุด 203 แรงม้าที่ 6,000 rpm และแรงบิดสูงสุด 300 Nm ที่ 1,750-4,000 rpm พร้อมเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ปรับตามสไตล์การขับขี่ และเกียร์ทรอนิก อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพีง 12.05 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 152 กรัมต่อกิโลเมตร ? เครื่องยนต์ DRIVe เบนซินเทอร์โบ FlexiFuel E85 ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 5,700 rpm และให้แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 1,600 — 5,000 rpm และมอบความพึงพอใจในการขับขี่ที่เยี่ยมยอดด้วยเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีดปรับตามสไตล์การขับขี่ และเกียร์ทรอนิก อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 13.5 กิโลเมตร/ลิตรเมื่อเติมน้ำมันเบนซิน และ 9.9 กิโลเมตรต่อลิตรเมื่อเติมน้ำมัน E85 นอกจากนี้ยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เพียง 136 กรัมต่อกิโลเมตร เมื่อใช้น้ำมันเบนซิน และ 131 กรัมต่อกิโลเมตรเมื่อใช้น้ำมัน E85 ? เครื่องยนต์ D4 ดีเซลเทอร์โบ ที่สามารถเติมน้ำมันไบโอดีเซล B5 ได้ ความจุ 2 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้าที่ 3,500 rpm และแรงบิดสูงสุด 400Nm ที่ 1,500-2,750 rpm พร้อมเกียร์ 6 สปีด ปรับตามสไตล์การขับขี่และเกียร์ทรอนิก อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 16.6 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 126 กรัม/กิโลเมตร โครงสร้างเพื่อความปลอดภัย โครงสร้างนิรภัยสร้างด้วยเหล็กแกร่งหลากชนิด โครงสร้างนิรภัยของรถยนต์วอลโว่ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว ถูกแบ่งออกเป็นหลายโซน เพื่อช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซนด้านนอกจะสามารถยุบตัวได้มาก ส่วนโซนด้านในจะแข็งและทรงตัวมากกว่าเพื่อให้การปกป้องแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสูงสุด วอลโว่จึงได้ใช้เหล็กถึง 4 ชนิด นอกจากเหล็กธรรมดาสำหรับสร้างตัวถังแล้ว ยังมีเหล็กอีก 4 เกรดที่เสริมแรง เช่น High Strength Steel, Extra High Strength Steel และ Ultra High Strength Steel โครงสร้างแกร่งด้านข้าง เพื่อให้การปกป้องสูงสุดจากแรงกระแทกด้านข้าง ตัวถังรถทางด้านข้างถูกออกแบบให้ใช้เหล็กหลากชนิดเช่นกัน เหล็กต่างชนิดเหล่านี้จะให้ผลลัพธ์สูงสุดในการปกป้องผู้โดยสารด้านใน ในกรณีที่ถูกชนด้านข้าง รถยนต์จะไหลไปด้านข้างเพื่อไม่ให้แรงกระแทกเข้ามาปะทะโดยตรงกับผู้โดยสาร ระบบเบรกที่เพิ่มความมั่นใจ ระบบเบรกที่ให้ความมั่นใจเต็มเปี่ยม ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่เต็มพิกัด โดยระบบเบรกใน วอลโว่ วอลโว่ S80 รุ่นปี 2013 ประกอบด้วยเทคโนโลยีหลากหลายได้แก่ ? Ready Alert Brakes ที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อไรจะต้องเบรกกระทันหัน โดยคาลิปเปอร์เบรกจะกดเบาๆ บนจานเบรกก่อนที่ผู้ขับจะเหยียบเบรก เพื่อช่วยให้หยุดรถได้อย่างมั่นใจ ? ระบบ Hydraulic Brake Assist ช่วยลดระยะเบรกให้เหลือสั้นที่สุดได้อย่างปลอดภัย ? Optimized Hydraulic Brake ช่วยเพิ่มศักยภาพของเบรก ? Fading Brake Support ใช้ระบบไฮโดรลิกในการเพิ่มแรงเบรกเมื่อเหยียบเบรกอย่างแรง ซึ่งช่วยลดปัญหาเบรกจม ทำให้มั่นใจมากขึ้น ? ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์เมื่อจอดรถ (ติดตั้งเป็นมาตรฐาน) ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน สะดวกปลอดภัยกว่ากับ 3 เทคโนโลยีใหม่ เพื่อช่วยเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยและช่วยให้ขับขี่รถยนต์วอลโว่ได้อย่างปลอดภัย วอลโว่ได้พัฒนาและติดตั้ง 3 เทคโนโลยีใหม่เพื่อผู้ขับขี่ได้แก่ 1. ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (Active High Beam) - รุ่น T4 และ D4 เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ไฟหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเปลี่ยนจากไฟสูงเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติในสถานการณ์ที่เหมาะสม เทคโนโลยีนี้ใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางด้านบนของกระจกหน้า เพื่อตรวจจับแสงไฟหน้าจากรถที่สวนมา ส่วนซอฟต์แวร์ของรถจะวิเคราะห์ข้อมูลเรื่องทิศทางและตำแหน่งของรถที่สวนมา ก่อนจะส่งข้อมูลไปยังระบบ ถ้ารถที่สวนมาเข้ามาอยู่ในระยะที่กำหนด ระบบจะปรับไฟหน้ารถลงมาเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ เมื่อพ้นไปแล้วก็จะปรับมาเป็นไฟสูงเหมือนเดิมเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติยังสามารถทำงานร่วมกับระบบไฟหน้าแบบหักเหตามพวงมาลัย (Active Bending Lights) รวมทั้งเซ็นเซอร์วัดน้ำฝนเพื่อปรับการทำงานของไฟและที่ปัดน้ำฝนซึ่งจะให้ทัศนวิสัยที่ดีที่สุดแก่ผู้ขับขี่ในสถานการณ์ต่างๆ 2. ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information) - รุ่น T4 และ D4 เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรและลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดฝัน ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจรในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ผู้ขับไม่สามารถอ่านป้ายต่างๆ ได้ทันตลอดเวลา ระบบนี้จึงช่วยเป็นหูเป็นตา อ่านและแสดงสัญญลักษณ์ที่เป็นสากลบนแผงหน้าปัด เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว ป้ายห้ามแซง กล้องที่ติดตั้งที่หน้ารถจะสามารถตรวจจับป้ายจราจรที่ได้มาตรฐานของยุโรป 3. ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติเมื่อขับขี่เข้า/ออกจากที่มืด (Tunnel Detection) ระบบนี้จะเปิดไฟหน้าโดยอัตโนมัติเมื่อรถเข้าสู่ที่มืดหรืออุโมงค์ และเมื่อออกจากอุโมงค์ก็จะปิดไฟหน้ารถหรือกลับมาสู่ตำแหน่งที่ตั้งไว้เดิมโดยอัตโนมัติเช่นกัน ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติเมื่อขับขี่เข้า/ออกจากที่มืดทำงานโดยอาศัยเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนกระจกหน้าช่วยวัดแสงและคาดสถานการณ์ล่วงหน้าเพื่อสั่งการให้ระบบนี้ทำงาน นอกจากระบบดังกล่าวจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้แก่ผู้ขับขี่แล้ว ยังจะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ เพราะตามนุษย์ต้องอาศัยเวลาในการปรับการมองเห็นเมื่อระดับของแสงเปลี่ยนไป นอกจากนี้ วอลโว่ S80 Model Year 2013 ยังมีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมอีกมาก ได้แก่ ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (City Safety) เพื่อความปลอดภัยในเมือง ซิตี้เซฟตี้เป็นเทคโนโลยีที่วอลโว่คิดค้นขึ้นเป็นรายแรกและติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เมื่อรถคุณวิ่งไม่เกิน 50 กม./ชม. ระบบจะใช้เลเซอร์ที่ฝังอยู่ส่วนบนของกระจกบังลมหน้า สแกนพื้นที่ด้านหน้ารถในระยะห่างออกไป 10 เมตร เพื่อตรวจจับยานพาหนะด้านหน้ารถว่าหยุดอยู่กับที่หรือกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ถ้าระบบประเมินว่าการชนกำลังจะเกิดขึ้น เบรกจะถูกชาร์จเตรียมไว้เพื่อให้คุณเหยียบเบรกได้ทันท่วงที หรือหากคุณไม่เหยียบเบรก ระบบจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติ และถ้าความเร็วของรถคุณกับรถคันหน้าต่างกันไม่เกิน 16 กม./ชม. การเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจะสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่หากความเร็วต่างกัน มากกว่า 16 กม./ชม. การเบรกจะช่วยลดความรุนแรงลงได้ ระบบเตือนเพื่อป้องกันการชนพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถแบบเต็มแรงเบรกและเซ็นเซอร์ตรวจจับคนเดินถนน (Collision Warning with Full Auto Brake and Pedestrian Detection) - รุ่น T4 และ D4 ระบบเตือนเพื่อป้องกันการชน ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ขณะขับขี่บนถนนไฮเวย์โดยเฉพาะ ระบบนี้สามารถรับรู้และเตือนผู้ขับขี่ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ภายในระยะ 150 เมตร เรดาร์เซ็นเซอร์ที่อยู่บนกระจังหน้าและกล้องดิจิตอลที่อยู่บนกระจกบังลมหน้าจะตรวจจับระยะห่างระหว่างรถยนต์วอลโว่ที่มีคุณสมบัตินี้กับรถคันข้างหน้า หากรถคันหน้าหยุดกะทันหัน และระบบ Collision Warning ประเมินว่าอาจเกิดการชน ระบบจะส่งเสียงสัญญาณและไฟกระพริบเพื่อเตือนผู้ขับขี่ และยิ่งไปกว่านั้นระบบนี้ยังมีฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็วรถโดยสั่งให้ระบบเบรกทำงานในระดับหนึ่งเพื่อช่วยผ่อนแรงผู้ขับขี่ในการเหยียบเบรกให้รถหยุดทันท่วงที หากผู้ขับไม่เหยียบเบรก ฟังก์ชั่น Auto Brake จะหยุดรถโดยทันทีและเปิดสัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉินเพื่อเตือนรถคันที่ตามหลังมาให้ระวังตัว นอกจากนี้ยังสามารถตรวจจับได้ว่ามีคนเดินถนนกำลังเดินเข้ามาในทิศทางเดียวกันกับรถ และจะหยุดรถอัตโนมัติถ้าคนขับไม่เบรกอย่างทันท่วงที ระบบตรวจจับคนเดินถนนนี้ประกอบด้วย เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่บนกระจังหน้าของรถ กล้องที่ติดอยู่ด้านหลังของกระจกมองหลัง และกล่องควบคุมระบบ เรดาร์มีหน้าที่ตรวจจับภาพมุมกว้าง 60 องศาทางด้านหน้ารถว่ามีวัตถุอยู่ในรัศมีหรือไม่ และวัดระยะห่างจากวัตถุนั้น ส่วนกล้องก็จะยืนยันว่าวัตถุนั้นเป็นโครงสร้างของมนุษย์ คือ มีศีรษะ ลำตัว แขน ขา หรือไม่ โดยที่เรดาร์สามารถตรวจจับได้กระทั่งคนที่เพิ่งจะก้าวลงมาบนถนน กล้องนี้มีความละเอียดสูงมาก ทำให้สามารถตรวจจับรูปแบบการเคลื่อนไหวของคนเดินถนนนั้นได้ด้วย ระบบนี้ติดตั้งเป็นมาตรฐานและทำงานเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 35 กม./ชม. ระบบควบคุมการทรงตัวและยึดเกาะถนนแบบไดนามิก (Dynamic Stability and Traction Control - DSTC) วอลโว่ S80 เกาะถนนดีเยี่ยมไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือนอกเมือง ด้วยตัวถังที่ออกแบบมาให้แกร่ง และแชสซีที่ปรับแต่งมาใหม่เป็นอย่างดี ทำให้ขับขี่แบบสปอร์ตได้ดังใจ ควบคุมได้อย่างแม่นยำ มีการกระจายน้ำหนักของตัวรถอย่างสมดุลทั้งหน้าหลังเพื่อให้เกาะถนนและทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ DSTC ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว โดยระบบจะบันทึกอัตราความเบี่ยงเบนระหว่างทิศที่ผู้ขับขี่ต้องการไปกับทิศทางจริงที่รถแล่น ทำให้สามารถทราบได้ว่าถึงจุดที่รถอาจลื่นไถลหรือยัง เช่น เมื่อผู้ขับถอนเท้าจากคันเร่งอย่างกระทันหันขณะหักเลี้ยว เป็นต้น ระบบ DSTC จะปรับการถ่ายเทกำลังระหว่างล้อทำให้สามารถสร้างสมดุลและมีการทรงตัวที่ดี ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Information System: BLIS) เป็นอีกระบบหนึ่งที่จะช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ระบบนี้จะทำงานทันทีที่รถเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่สูงกว่า 10 กม./ชม. โดยอาศัยกล้องดิจิตอลที่ติดตั้งอยู่ภายในกระจกมองข้าง ช่วยในการสอดส่องสภาพการจราจรด้านหลังซ้ายและขวาที่เป็นจุดอับสายตา หากมีรถเข้ามาในบริเวณนี้ระบบจะแจ้งเตือนให้ผู้ขับทราบว่ามีรถอยู่ใกล้ไม่ว่ารถคันนั้นจะอยู่ด้านหลังหรือกำลังจะแซง โดยสัญญาณไฟที่กระจกประตูจะสว่างขึ้นระบบ BLIS นี้จะช่วยให้ผู้ขับสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องฉับไว ระบบเตือนผู้ขับขี่ (Driver Alert Control: DAC) - รุ่น T4 และ D4 ให้เป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่เลือกจับตาดูความเคลื่อนไหวและทิศทางของรถท่ามกลางการจราจรบนท้องถนน จากนั้นจึงประเมินความเป็นไปได้ที่ผู้ขับขี่อาจสูญเสียการควบคุมรถหรือมีสมาธิในการขับขี่น้อยเกินไปจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วส่งสัญญาณเสียง หรือข้อความทางหน้าจอเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพัก ระบบเตือนเมื่อขับข้ามเลน (Lane Departure Warning: LDW) - รุ่น T4 และ D4 ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการขับออกนอกช่องทางเดินรถ โดยอาจจะเกิดจากการสูญเสียสมาธิของผู้ขับขี่ ระบบเตือนเมื่อขับข้ามเลนสามารถควบคุมได้ผ่านปุ่มบนคอนโซลหน้ารถ เพื่อทำหน้าที่เตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณเสียงหากรถเคลื่อนที่ข้ามเส้นแบ่งเลนอย่างไม่เหมาะสม เช่นในขณะที่ผู้ขับขี่ไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว หรือการหักเลี้ยวกะทันหัน โดยใช้กล้องในการตรวจจับตำแหน่งของรถและเส้นแบ่งเลน ระบบจะเริ่มทำงานที่ความเร็ว 65 กม./ชม. และแอคทีฟต่อเนื่องในช่วงความเร็วที่มากกว่า 60 กม./ชม. ทั้งนี้ สำหรับถนนไฮเวย์ในสหรัฐฯ อุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถข้ามเลนมีตัวเลขประมาณ 1 ใน 4 ของอุบัติเหตุทั้งหมดบนถนนเลยทีเดียว นักวิจัยของวอลโว่ คาร์ประมาณการไว้ว่า ระบบเตือนเมื่อขับข้ามเลน น่าจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุประเภทนี้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30-40 ที่ระดับความเร็วระหว่าง 70-100 กิโลเมตร ระยะห่างจากรถคันหน้า — Adaptive Cruise Control with Queue Assist and Distance Alert (ACC) ในรุ่น T4 และ T4 ระบบช่วยให้ผู้ขับขี่ทิ้งระยะห่างเพื่อความปลอดภัยจากรถคันหน้าในทุกระดับความเร็วจนถึง 200 ก.ม./ช.ม. ในการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าที่ระดับความเร็วต่ำกว่า 30 ก.ม./ ช.ม. ฟังก์ชั่นหยุดรถและออกตัวรถอัตโนมัติจะปรับระดับความเร็วของรถให้พอดีกับคันหน้า จากรถที่หยุดอยู่กับที่ เพียงกดปุ่มหรือเหยียบคันเร่ง ก็สามารถขับตามคันหน้าได้อย่างนิ่มนวล และถ้าใช้ความเร็วสูงกว่า 30 ก.ม./ช.ม. ก็สามารถตั้งความเร็วรถที่ต้องการและช่วงระยะวลาน้อยที่สุดที่รถจะวิ่งไปถึงคันหน้า ระบบจะปรับความเร็วให้สอดคล้องกับคันหน้าได้โดยอัตโนมัติ หรือแสดงไฟเตือนถ้าเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป ไฟหน้าแบบหักเหตามพวงมาลัย ให้ทัศนวิสัยดีเยี่ยมในการขับขี่กลางคืนและบนนถนนที่คดโค้ง ระบบไฟหน้าแบบหักเหตามพวงมาลัย (Active Bending Lights) สามารถปรับมุมฉายตามความโค้งของถนนได้ ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง การปกป้องผู้โดยสารภายในรถ วอลโว่ออกแบบระบบป้องกันความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เพื่อช่วยปกป้องผู้โดยสารในทุกที่นั่งให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บขั้นรุนแรง ด้วยระบบต่างๆ อาทิ ระบบถุงลมนิรภัยด้านข้างแบบใหม่ 2 จังหวะ ที่ทำงานควบคู่กับม่านนิรภัยด้านข้าง (Inflatable Curtains: IC) และช่วยเสริมให้ระบบกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง (Side Impact Protection System: SIPS) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดดึงกลับอัตโนมัติครบทั้ง 5 ที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร ระบบปกป้องการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอและหลังที่เกิดจากการสะบัดของศีรษะ (Whiplash Protection System - WHIPS) ระบบนี้จะช่วยลดการบาดเจ็บที่ศีรษะ และเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาดจณะนี้ เมื่อเกิดการชนหรือกระแทก โดยในกรณีที่เกิดการชนรุนแรงทางด้านหลัง พนักพิงหลังในตอนหน้าของตัวรถและพนักพิงศีรษะจะขยับเข้ามารับตัวและศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในลักษณะคล้ายคลึงกับการทำงานของกล้ามเนื้อแขนขณะที่กำลังจับลูกบอล โดยฟังก์ชั่นการทำงานของระบบนี้ยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การจับตัวและศีรษะของผู้โดยสารทำได้อย่างนุ่มนวลยิ่งขึ้น ระบบรักษาความปลอดภัย เพราะความปลอดภัยของผู้โดยสารในทุกที่นั่ง เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง วอลโว่จึงออกแบบระบบความปลอดภัยให้มีทั้งระบบที่ทำหน้าที่เตือนเพื่อการป้องกันและการปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างดีที่สุด (Preventive and Protective Safety) เริ่มตั้งแต่ ระบบ PCC หรือ Personal Car Communicator ซึ่งมาในรูปแบบของรีโมทคอนโทรลขนาดเล็กพกติดตัวได้ ที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นสื่อสารกับรถพร้อมการปลดล็อคและขับขี่โดยปราศจากกุญแจ ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่มากขึ้นอีก โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบได้ว่า รถยนต์ล็อคแล้วหรือยังสัญญาณเตือนภัยทำงานหรือไม่ หรือมีผู้บุกรุกเข้ามาภายในตัวรถยนต์หรือเปล่า ได้ทุกที่และทุกเวลาที่ต้องการในระยะ 60 — 100 เมตรจากตัวรถ รถยนต์รักสิ่งแวดล้อม S80 DRIVe ผลงานจากโครงการ DRIVe เพื่อสิ่งแวดล้อม Volvo S80 DRIVe E85 เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในโครงการ DRIVe ซึ่งเป็นความพยายามของวอลโว่ที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ วิจัย ผลิต การขับขี่และการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ใหม่ อันเป็นก้าวสำคัญสู่การผลิตรถยนต์ปลอดไอเสีย และนำมาซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เครื่องยนต์เชื้อเพลิงทางเลือก การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ลดแรงต้านและประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้บรรยากาศในห้องโดยสารสะอาด ปลอดภัยมากที่สุด รถยนต์วอลโว่เครื่องยนต์ E85 ที่พัฒนาขึ้นตามโครงการ DRIVe และมีจำหน่ายในประเทศไทยได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานที่กำหนดโดยสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (TISI) ของไทย โดยพบว่ามีปริมาณการปล่อยไอเสียต่ำมากและอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานถึง 70% ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ เพื่อสิ่งแวดล้อม วอลโว่ S80 ถูกผลิตและติดตั้งระบบต่างๆ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดกับสิ่งแวดล้อมให้มีน้อยที่สุด เครื่องยนต์เบนซินทั้งแบบธรรมดาและแบบ FlexiFuel ถูกออกแบบมาให้มีการเสียดทานภายในต่ำ มีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ และมีระบบกรองไอเสียที่ทันสมัยช่วยลดปริมาณไอเสียได้เป็นอย่างดี ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลก็ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเขม่าออกมาในปริมาณที่ต่ำมาก จนผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ตามมาตรฐานยูโร 5 นอกจากนี้ วอลโว่ยังได้ติดตั้งระบบเพรมแอร์ (PremAir?) ที่สามารถเปลี่ยนโอโซนที่เป็นอันตรายให้กลายเป็นออกซิเจนบริสุทธิ์ได้ในเวลาที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากในขณะที่มีการจราจรหนาแน่นและในขณะที่แดดจัด ระบบควบคุมคุณภาพอากาศภายในห้องโดยสาร (Interior Air Quality System: IAQS) ช่วยลดอากาศไม่บริสุทธิ์ เขม่า ฝุ่น ละอองเกสร หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์จากภายนอกไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาภายในห้องโดยสาร ขณะเดียวกัน เบาะที่นั่ง หนังและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในตัวรถได้รับการรับรองมาตรฐาน OKO-TEX 100 ว่า ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ วอลโว่ S80 ยังติดตั้งระบบการจัดการห้องโดยสารที่ปราศจากสิ่งกระตุ้นอาการภูมิแพ้ (Clean Zone Interior Package: CZIP) ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพจากสถาบันโรคหอบหืดและภูมิแพ้แห่งประเทศสวีเดน เพื่อให้อากาศที่ไหลเวียนภายในห้องโดยสารสะอาดและดีต่อสุขภาพของผู้โดยสารทุกคน
แท็ก วอลโว่  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ