ลอรีอัล ประกาศพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายในปี 2020 ภายใต้แนวทาง ?แบ่งปันความงามให้ทุกสรรพสิ่ง?

ข่าวทั่วไป Monday December 2, 2013 17:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ เมืองคลิชี ประเทศฝรั่งเศส มร. ฌอง พอล แอกง ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลอรีอัล กรุ๊ป ประกาศพันธสัญญาของกลุ่มในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้น ภายในปี 2020 ควบคู่ไปกับการเดินหน้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน จุดมุ่งหมายของลอรีอัล กรุ๊ป คือเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่จำนวน 1 พันล้านคน ด้วยกลยุทธ์ ?Universalization? เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความงามที่แตกต่างและหลากหลายของผู้หญิงและผู้ชายทั่วโลก โดยหลักในการพัฒนากลยุทธ์นี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของพันธสัญญาที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเข้าถึงผู้บริโภคผู้ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจลอรีอัล ขณะเดียวกันสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มอบทางเลือกผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนให้กับสังคมซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ซึ่งมีการผลิตและจัดจำหน่ายอย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ลอรีอัลให้พันธสัญญาที่จะพัฒนาปัจจัยในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่ขั้นตอนการค้นคว้าวิจัย ไปจนถึงการผลิต โดยแบ่งปันการเติบโตขององค์กรกับชุมชนที่อยู่ร่วมกัน ผ่านแนวทาง ?Sharing Beauty With All? หรือ การแบ่งปันความงดงามให้ทุกสรรพสิ่ง มร. ฌอง พอล แอกง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า ?ลอรีอัล มีประวัติมาอย่างยาวนานในการเป็นองค์กรที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมีเป้าหมายที่สร้างสรรค์เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะประกาศ พันธสัญญา ?Sharing Beauty With All? เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2020 เราเชื่อว่าผู้บริโภค คือ หัวใจและเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเรา เราต้องการบรรลุเป้าหมายในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ กว่า 1 พันล้านคน พร้อมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมในเวลาเดียวกัน ด้วยการเพิ่มการผลิตนวัตกรรมที่ยั่งยืนภายในธุรกิจของเรา พร้อมนำความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการให้ข้อมูลกับผู้บริโภค สร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับสังคมในวงกว้าง และสนับสนุนผู้บริโภคให้มีข้อมูลที่สามารถเลือกทางเลือกที่ยั่งยืน พันธสัญญานี้ เริ่มมาจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) ที่หลากหลายจากทั่วโลกตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โดยลอรีอัลจะมีการรายงานผลความก้าวหน้าในการ บรรลุแต่ละเป้าหมายให้กับคณะผู้ประเมิน ซึ่งเป็นตัวแทนจากองค์กรอิสระที่น่าเชื่อถือ นำโดยนาย โฮเซ่ มีเรียยา ฟิวเกเรส ตัวแทนฝ่ายบริหารเพื่อความยั่งยืนระดับโลก พร้อมคณะผู้เชี่ยวชาญระดับสากล1 พันธสัญญา ?Sharing Beauty With All? ครอบคลุม 4 เรื่อง ดังนี้ 1. การสร้างนวัตกรรมอย่างยั่งยืน ภายในปี 2020 ผลิตภัณฑ์ที่ลอรีอัลคิดค้นทั้งหมด ร้อยละ 100 จะมีคุณประโยชน์ต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ทุกครั้งที่ลอรีอัลคิดค้นหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ ลอรีอัลจะปรับปรุงคุณลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคมของผลิตภัณฑ์นั้นไปด้วย โดยยึดหลักเกณฑ์กำหนดข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้ - สูตรใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น จะต้องลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (ลดปริมาณคาร์บอนฟุตปริ้นท์) - ส่วนผสมสูตรใหม่ ทำจากวัตถุดิบทดแทนที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืน หรือเป็นวัตถุดิบที่ได้มาจากกระบวนการทางเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - บรรจุภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ ได้รับการพัฒนาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น - ผลิตภัณฑ์ใหม่มีผลกระทบต่อสังคมในเชิงบวก 2. การผลิตอย่างยั่งยืน ภายในปี 2020 ลอรีอัล เราจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (ลดคาร์บอนฟุตปริ้นท์) ลงร้อยละ 60 พร้อมนำความงามสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่อีกกว่าหนึ่งพันล้านคน - ลอรีอัลจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากโรงงานและศูนย์กระจายสินค้า ลงร้อยละ 60 ในเชิงปริมาณ จากค่าฐานของปี 2005 - ลอรีอัลจะลดปริมาณการใช้น้ำในการผลิต ต่อหนึ่งหน่วยผลิตภัณฑ์ ลงร้อยละ 60 จาก ค่าฐานของปี 2005 - ลอรีอัลจะลดปริมาณของเสียที่เกิดจากขั้นตอนการผลิต ต่อหนึ่งหน่วยผลิตภัณฑ์ ลงร้อยละ 60 จากค่าฐานของปี 2005 - เราจะลดปริมาณของเสียที่ต้องฝังกลบให้เป็นศูนย์ - เราจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งผลิตภัณฑ์ ลงร้อยละ 20 ต่อหนึ่งหน่วยผลิตภัณฑ์ จากค่าฐานของปี 2011 3. การสร้างวิถีชีวิตเพื่อความยั่งยืน ภายในปี 2020 เราจะสนับสนุนให้ลูกค้าของลอรีอัลทุกท่าน มีอำนาจในการเข้าถึงทางเลือกในการบริโภคบนพื้นฐานของความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ในขณะที่เรายังสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับโลกใบนี้ - ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของลอรีอัล จะต้องได้รับการประเมินคุณลักษณะด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นประโยชน์ต่อสังคม และทุกแบรนด์จะต้องเปิดเผยข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภค - ทุกแบรนด์ภายใต้ลอรีอัล ประเมินปัจจัยที่สร้างผลกระทบที่สุดต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และให้คำมั่นสัญญาว่าจะพัฒนาในส่วนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ทุกแบรนด์จะรายงานความคืบหน้าและสร้างการตระหนักให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคของตนเกี่ยวกับทางเลือกในการใช้ชีวิตบนพื้นฐานของความยั่งยืน - ผู้บริโภคสามารถเป็นแรงบันดาลใจและมีส่วนร่วมในการปฏิบัติเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ผ่านทางคณะกรรมการความยั่งยืนสำหรับผู้บริโภค 4. การพัฒนาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในธุรกิจ จะครอบคลุม 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 4.1 พนักงาน - ภายในปี 2020 พนักงานทุกคนของลอรีอัลทั่วโลกจะเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การคุ้มครองทางสังคม และการอบรม - พนักงานของลอรีอัล จะได้รับสิทธิคุ้มครองด้านสุขภาพ ที่ดีที่สุดของแต่ละประเทศที่พวกเขาประจำอยู่ - เรามีประกันคุ้มครองทางการเงินสำหรับพนักงานของบริษัททั้งหมด ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดหมายเกิดขึ้นต่อชีวิตของพวกเขา เช่น ในกรณีที่ไม่สามารถทำงานได้ชั่วคราวหรือทุพพลภาพถาวร - พนักงานของลอรีอัลทุกคนทั่วโลกจะต้องได้เข้ารับการอบรมอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี 4.2 ผู้ขายสินค้าและบริการให้กับลอรีอัล (suppliers) -ภายในปี 2020 ผู้ผลิตและผู้ให้บริการหลักของเรา จะมีส่วนร่วมในโครงการด้านความยั่งยืนสำหรับผู้ขายสินค้าและบริการ - ผู้ขายสินค้าและบริการทุกรายจะต้องเข้ารับการประเมินความสามารถในการผลิตและให้บริการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และจะถูกเเลือกใช้ตามผลการประเมิน - ด้วยความสนับสนุนของเรา ผู้ขายสินค้าและบริการรายสำคัญทั้งหมดจะต้องผ่านการประเมินเกี่ยวกับนโยบายด้านความยั่งยืน - ผู้ขายสินค้าและบริการจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือในการฝึกอบรมของลอรีอัล เพื่อให้สามารถพัฒนานโยบายเพื่อความยั่งยืนของตนเองได้ - ร้อยละ 20 ของผู้ขายสินค้าและบริการจะมีส่วนร่วมในโครงการการจัดหาอย่างรับผิดชอบ (Solidarity Sourcing Program) 4.3 ชุมชน - ภายในปี 2020 ลอรีอัลจะสามารถช่วยให้ผู้คนกว่า100,000 คนจากชุมชนที่ขาดโอกาสได้เข้าถึงอาชีพ ซึ่งนับเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนพนักงานของลอรีอัลที่มีอยู่ทั่วโลก โดยเราจะบรรลุเป้าหมายผ่านโครงการต่างๆ ดังนี้ - โครงการสรรหาอย่างรับผิดชอบ (Solidarity Sourcing) - โครงการกระจายสินค้าแบบมีส่วนร่วม - โครงการฝึกมืออาชีพด้านความงาม - โครงการพี่เลี้ยงผู้ให้คำปรึกษาและการศึกษาชุมชน - โครงการจ้างงานในกลุ่มผู้ทุพพลภาพและขาดโอกาสทางสังคม 1คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับสากล ได้แก่ - Sze Ping นักสิ่งแวดล้อมชาวจีน ก่อนหน้านี้เป็นนักรณรงค์ขององค์กรกรีนพีซ และผู้อำนวยการบริหาร Greenovation Hub - Mehjabeen Abidi-Habib นักวิจัยชาวปากีสถาน ด้านมานุษยวิทยาและระบบนิเวศวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติ - HRH Celenhle Dlamini เจ้าหญิงแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ หนึ่งในผู้อำนวยการของสถาบัน Ubuntu Institute ผู้มีผลงานเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุแผนพัฒนาของ The UN Millennium Development Goals - Zem Joaquin ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์หรูหราที่ได้รับการออกแบบอย่างรักษ์สิ่งแวดล้อม ชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ ? eco-fabulous ? เว็บไซต์ซึ่งมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนให้เป็นเรื่องที่น่าปรารถนา - Analisa Balares ชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ WomensphereTM ผู้พัฒนาเครื่องมือสำหรับสื่อ ชุมชนออนไลน์ และรางวัลที่มอบเพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนผู้หญิงซึ่งต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม - Christian de Boisredon ชาวฝรั่งเศส ผู้สนับสนุนและรณรงค์แคมเปญ ?Impact Journalism? ผ่านทางรายการ Sparknews เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับโครงการริเริ่มดีๆ เพื่อสังคมทั่วโลก สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพันธสัญญา ?Sharing Beauty With All? และความสำเร็จของโครงการเพื่อการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนของลอรีอัล ได้ที่ www.loreal.com/sharingbeautywithall

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ