กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
กระแสความเจริญเติบโตของกรุงเทพมหานคร ทำให้ความเป็นชุมชนเมืองแออัดมากขึ้น พื้นที่สาธารณะสำหรับ ที่จะนั่งคุย สังสรรค์ ต่างเริ่มลดน้อยและขาดหายไป ถ้าใครมีโอกาส แวะเวียนเข้าไปในซอยอินทามระ 11 บนพื้นที่สัญจรซอยเล็กๆ จะเห็นว่าสภาพพื้นที่มีความเปลี่ยนแปลงไป ดูน่าอยู่ มีชีวิตชีวามากขึ้น เมื่ออาสาสมัครทีเอ็มบี เยาวชน ไฟ ฟ้า (FAI-FAH) ชาวชุมชนอินทามระ 11 และสถาปนิกอาสาสมัครร่วมแรงร่วมใจกันจัดทำ “พื้นที่สาธารณะสำหรับชุมชนอินทามระ 11” ปรับแต่งสภาพพื้นที่ เพิ่มเติมโซนสีเขียว โดยโครงการนี้ได้แล้วเสร็จ และส่งมอบแก่ชาวชุมชน เป็นผู้ดูแลพื้นที่ต่อไป โดย นายภารไดย ธีระธาดา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ทีเอ็มบี เผยว่า “ตามแนวคิดของ Make THE Difference ของทีเอ็มบี ปีนี้ เยาวชนไฟ ฟ้า ประดิพัทธ์ ได้สำรวจและเลือกพื้นที่ชุมชนอินทามระ 11 เพื่อทำกิจกรรมการเปลี่ยนชุมชนอย่างยั่งยืน เพราะเห็นว่าชาวชุมชนฯ ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน และเมื่อเยาวชน ไฟ ฟ้า มีแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงชุมชนแล้ว อาสาสมัครทีเอ็มบี และสถาปนิกอาสาสมัครจึงเป็นที่ปรึกษาร่วมวางแผน และลงมือทำงาน”
ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ แต่ความตั้งใจจริงของเยาวชนไฟ ฟ้า อาสาสมัครทีเอ็มบี และสำนึกในการดูแลพื้นที่ของชาวชุมชนอินทามาระ 11 จึงทำให้โครงการพื้นที่สาธารณะ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยได้ปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลาง 7 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ออกกำลังกาย สนามเด็กเล่น และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยสวนแนวตั้ง และยังพัฒนาโครงการหน้าบ้านน่ามอง 6 หลัง โดยประธานชุมชนอินทามระ 11 นายอุดม เผือกงาม ชาวชุมชนผู้มีสำนึกรักในพื้นที่ที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่เกิด เผยว่า “บ้านผมเข้าร่วม จัดทำหน้าบ้านน่ามอง โดยได้จัดทำสวนแนวตั้ง นำวัสดุเหลือใช้พวกขวดพลาสติกมาเป็นอุปกรณ์เพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่เดิมประตูบ้านพื้นสีน้ำตาล กำแพงสีเทา เมื่อคุยกับเยาวชนไฟ ฟ้า และสถาปนิกอาสาฯ แล้ว แนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนให้น่ามอง คือการเติมโซนสีเขียว เพิ่มความสดชื่น สดใสให้กับหน้าบ้าน”
นุชจรีย์ อุปชัย ชาวชุมชนที่สละพื้นที่หน้าบ้าน ให้เป็นสนามเด็กเล่น เผยว่า “แม้จะมีแค่เพียงกระดานลื่น ชิงช้าเล็กๆ แต่ก็มีเด็กน้อยวิ่งเล่นปีนป่ายกันได้เกือบทั้งวัน อย่างน้อย เด็กแถวนี้ได้มีของเล่น สนามเด็กเล่น สนามน้อยๆ ไม่ต้องออกไปหมกมุ่นอยู่กับตู้เกม หรือวิ่งซนเสี่ยงโดนรถเฉี่ยว ส่วนอนาคตถ้าเป็นไปได้ อยากจะเพิ่มโซนคล้ายห้องสมุดย่อยๆ มีหนังสือ หรือของเล่นที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็กๆ”
นอกจากนี้ เยาวชนไฟ ฟ้า ประดิพัทธ์ ที่ได้ร่วมนำเสนอแนวคิดในการเปลี่ยนชุมชนอินทามระ 11 ต่างเผยทรรศนะ ดังนี้ หมู-เอกมล เส็งสีกุล เผยว่า “ตอนแรกที่เข้ามาในพื้นที่ เห็นซากที่นอนเก่าๆ รถเก่าๆ จอดตายอยู่ คุณลุง คุณป้าในชุมชนไม่มีที่พักผ่อนหย่อนใจ จึงสรุปเป็นโจทย์ว่าควรทำพื้นที่สาธารณะ และรู้สึกตื่นเต้นกับการเข้ามาลงพื้นที่ ปรับปรุงกันจริงๆ ด้วยการใช้วิชาความรู้ที่ได้เรียนจากไฟ ฟ้า ทำให้ชุมชนและสังคมดีขึ้นได้” ส่วนน้องปุ๋ม- ศิริภัสสร พิเศษฤทธิ์ เผยว่า “ได้เข้ามาร่วมตั้งแต่เริ่มวางแผนทำงาน จนถึงการลงพื้นที่ ทำจริงๆ ว่าแต่ละจุดต้องปรับแต่งอย่างไรได้บ้าง ในบางโซนที่ต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียว ถ้ามีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ เราก็จะใช้ศิลปะมาตกแต่งเป็นรูปต้นไม้แทน”
น้องลูลู่-อาทิตยา สร้อยทอง เผยว่า “มาทุกครั้งที่มาพัฒนาชุมชนนี้ เพราะอยากมีส่วนร่วมในการให้คืนกับสังคม ทั้งลงพื้นที่ปรับปรุง หรือแม้แต่ร้องเพลงเอนเตอร์เทนชาวบ้านเวลาที่มีการประชุม มีความสุขในสิ่งที่ทำและได้ใช้ความรู้ที่เรียนจากไฟ ฟ้า มาให้เกิดประโยชน์ได้จริงๆ”
แม้พื้นที่จะมีจำกัด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค กับการเปลี่ยนแปลงชุมชนอินทามระ 11 เพียงแค่ความร่วมมือ ร่วมใจ และร่วมแรงของชาวชุมชน โดยไม่ต้องรอ เพียงเท่านี้ ก็ Make THE Difference ทำให้ชุมชนน่าอยู่ขึ้นได้