JMT ซื้อหนี้อีกกว่า 2.6 พันลบ.ดันพอร์ตรวมทะลุเป้า 3 หมื่นลบ. วางแผนปี 57 เพิ่มขนาดหนี้เพื่อบริหารเป็น 4.4 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 16, 2013 11:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--IR PLUS JMT พอร์ตซื้อหนี้มาบริหารทะลุเป้า 3 หมื่นล้านบาท หลังล่าสุดประกาศซื้อหนี้เสียมาเพิ่มอีกกว่า 2.6 พันล้านบาท ทั้งจากประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนชาต มูลค่า 183 ล้านบาท และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จาก อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส มูลค่า 2,480 ล้านบาท ดันพอร์ตซื้อหนี้เสียอยู่ที่กว่า 3.1 หมื่นลบ. “ปิยะ พงษ์อัชฌา” บอสใหญ่ เผย ยังมีดีลใหญ่อีกหลายดีลรออยู่ แต่คาดจะแล้วเสร็จช่วงต้นปีหน้า พร้อมเดินหน้าลุยซื้อหนี้ต่อเนื่องอีก วางเป้าหมายปี 57มีพอร์ตซื้อหนี้เสียเพิ่มขึ้นอีกเป็น 4.4 หมื่นลบ.ได้ไม่ยาก นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพระดับแนวหน้าของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลกับบริษัท ธนชาต จำกัด (มหาชน)โดยสัญญามีมูลค่าหนี้คงค้างตามสิทธิ เท่ากับ 183 ล้านบาท และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ กับ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) โดยสัญญามีมูลค่าหนี้คงค้างตามสิทธิ เท่ากับ 2,480 ล้านบาทปัจจุบันบริษัทฯ ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้มีพอร์ตการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารแล้วกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท เกินเป้าหมายเดิมที่ 3 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากปี 2555 มีพอร์ตการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา JMT ได้ประมูลซื้อหนี้เข้าพอร์ตเพิ่มทั้งจากสถาบันการเงินที่ไม่เคยนำหนี้ออกมาขาย ก็นำหนี้ก้อนใหญ่ออกมาขายมากขึ้น โดยติดต่อมาที่ JMT ให้เข้าไปประมูลซื้อหนี้ ซึ่งในปลายปีนี้ มีดีลประเภทนี้ค่อนข้างเยอะ แต่เนื่องจากติดเรื่องการนำส่งข้อมูล จึงคาดว่ากระบวนการต่าง ๆ จะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า ส่วนสถาบันการเงินที่เคยขายหนี้ให้บริษัทฯ อยู่แล้ว ก็นำหนี้ออกมาขายอย่างต่อเนื่องอีก เนื่องจากทุกสถาบันให้ความสำคัญกับหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อและการตามเก็บหนี้ ไม่ต้องการให้มีลูกหนี้ร้องเรียนกลับมาจึงเชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุน JMT ในปี 2557 โดยวางเป้าหมายมีพอร์ตการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มขึ้นอีกเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท “ในธุรกิจบริหารหนี้ถือว่า JMT เป็นอันดับหนึ่งของประเทศก็ว่าได้ จากพอร์ตหนี้ที่มีขนาดใหญ่ และการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งนี้ เป็นผลจากการได้รับความไว้วางใจจากการเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง มีมาตรฐานในการติดตามหนี้ และจากประสบการณ์การซื้อหนี้เข้ามาบริหารที่มีมากกว่า 8 ปี ไม่เคยทำให้เกิดความเสียหายให้กับสถาบันการเงินที่บริษัทฯ ซื้อหนี้มา หรือเกิดการฟ้องร้องจากลูกหนี้ JMT จึงได้รับความไว้วางใจให้ดูแลเรื่องการบริหารหนี้เสมอมา” นายปิยะกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ