กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2013
เซอร์จิโอ การ์เซีย ดาวดังจากสเปนโชว์ฟอร์มเยี่ยมหวด 4 อันเดอร์พาร์ 68 คว้าแชมป์ “ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2013” ตามความคาดหมาย ด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 ทิ้งห่าง เฮนริค สเตนสัน ยอดโปรมือ 3 ของโลกจากสวีเดน 4 สโตรค ด้านโปรอันดับไทยดีสุดเป็นของ ชัพชัย นิราช จบที่ 11 อันเดอร์พาร์ 277 รั้งอันดับ 8 ร่วม
การแข่งขันกอล์ฟเอเชียน ทัวร์ รายการ “ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2013” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 32 ล้านบาท) แข่งขัน ณ สนามอมตะ สปริง คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคมนี้ เป็นการดวลวงสวิงของยอดโปรแถวหน้าของโลกจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่จัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2011
การแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาปรากฎว่า เซอร์จิโอ การ์เซีย อดีตโปรหมายเลขสองของโลกปี 2010 จากสเปน ผู้นำตั้งแต่รอบสอง รักษาฟอร์มเหนียวหวดเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสียไปสองโบกี้ ปิดฉากฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์แรกในรอบปีได้อย่างสวยหรูไปด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 รับเงินรางวัลไป 180,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.76 ล้านบาท โดยมี เฮนริค สเตนสัน ดีกรีแชมป์เรซ ทู ดูไบ ของยูโรเปียน ทัวร์ และเฟดเอ็กซ์ คัพ ของพีจีเอทัวร์ ที่รอบนี้เก็บเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 ทำได้เพียงรองแชมป์ที่สกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 รับเงินรางวัลไป 110,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.52 ล้านบาท)
การ์เซีย ซึ่งหวดโฮลอินวันในรอบสองและขึ้นนำมาตั้งแต่นั้นกล่าวว่า “การแข่งขันสัปดาห์นี้เฮนริคนถือว่าเป็นคู่แข่งที่เอาชนะไม่ง่ายเลย ผมต้องมุ่งมั่นกับเกม เหตุผลที่ทำสำเร็จคงจะเป็นเรื่องของความอดทน การเป็นตัวของตัวเอง ความเชื่อมั่นในตัวเอง และความเข้มแข็งของจิตใจ ชัยชนะครั้งนี้เป็นเรื่องอัศจรรย์ และเป็นรายการสุดท้ายของปีที่ยอดเยี่ยม ขอขอบคุณสนาม อมตะสปริง ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน สนามอยู่ในสภาพที่ดีมาก เยี่ยมมาก ผมมาแข่งขันที่นี่ตลอดสามปีที่ผ่านมา แฟนๆ ให้การต้อนรับอย่างดี ผมหวังว่าจะได้กลับมาอีก ถ้าหากตารางการแข่งขันลงตัว ผมรู้สึกดีและจะเก็บความทรงจำนี้ไว้”
ส่วนผลงานดีสุดในกลุ่มนักกอล์ฟไทยเป็นของ “โปรโจ๊ก” ชัพชัย นิราช เจ้าของ 3 แชมป์เอเชียน ทัวร์ วันสุดท้ายตีเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วันจบที่อันดับ 8 ร่วมกับ ริคกี้ ฟาวเลอร์ นักกอล์ฟดาวรุ่งแห่งปี 2010 จากสหรัฐ ที่สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 แบ่งเงินรางวัลไป 22,950 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 734,000 บาท
นักกอล์ฟวัย 30 ปี จากพิษณุโลก เจ้าของสถิติ 32 อันเดอร์พาร์ 256 ในรายการเซล โอเพ่น 2009 ที่อินเดีย เผยว่า “ช่วงนี้ฟอร์มการเล่นถือว่าพอใช้ได้ ตีเหล็กดี แต่มีปัญหาเรื่องพัตต์อย่างเดียว ผมแข่งขันรายการนี้มาตลอด 3 ครั้ง แต่ครั้งแรกตกรอบ ครั้งนี้จึงเป็นผลงานที่ดีที่สุด และไม่คาดว่าจะทำได้ขนาดนี้ เพราะสนามนี้ยาว ต้องแข่งกันบนกรีน แถมยังมีนักกอล์ฟมือดีของโลกแข่งขันมากมาย จบที่อันดับท็อปเท็นได้ก็ถือว่าเยี่ยมมาก พอใจมากครับ”
ทางด้านสองโปรชื่อดังของโลก ชาร์ล ชวาร์ทเซล โปรจากแอฟริกาใต้ ดีกรีแชมป์มาสเตอร์สปี 2011 และแชมป์เก่ารายการนี้ หวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวม 4 วันมี 13 อันเดอร์พาร์ 275 เท่ากับ จัสติน โรส มือสี่ของโลกจากอังกฤษ ที่รอบสุดท้ายทำได้เพียงอีเว่นพาร์ 72 รับเงินรางวัล 38,200 เหรียญสหรัฐ
สรุปผลการแข่งขันวันสุดท้าย
(-22)266 เซอร์จิโอ การ์เซีย (สเปน) 68-65-65- 68 เงินรางวัล 180,000 เหรียญสหรัฐฯ (5,760,000 บาท)
(-18)270 เฮนริก สเตนสัน (สวีเดน) 70-67-65-68 เงินรางวัล 110,000 เหรียญสหรัฐฯ (3,520,000 บาท)
(-14)274 อเล็กซานเดอร์ เลวี่ (ฝรั่งเศส) 70-65-70-69 เงินรางวัล 63000 เหรียญสหรัฐฯ (63,000 บาท)
(-13)275 ชาร์ล ชวาทเซล (แอฟริกาใต้) 68-73-67-67, ยูกิ โคโน่ (ญี่ปุ่น)72-69-65-69, จัสติน โรส (อังกฤษ)65-68-70-72, อาร์นีบาน ลาฮีรี (อินเดีย)71-64-67-73 เงินรางวัลคนละ 38,200 เหรียญสหรัฐฯ(1,222,400 บาท)
(-11)277 ชัพชัย นิราช 72-69-67-69, ริกกี้ ฟาวเล่อร์ (สหรัฐ)70-66-71-70 เงินรางวัลคนละ 22,950 เหรียญสหรัฐฯ (734,400 บาท)
(-10)278 ธงชัย ใจดี71-71-68-68, มาคัส เฟรเซ่อร์ ออสเตรเลีย)69-73-67-69,กากานจีต บูลลาร์ (อินเดีย) 66-73-69-70 เงินรางวัลคนละ 17,600 เหรียญสหรัฐฯ (563,200 บาท)
(-9)279 ฮันเตอร์ มาฮาน (สหรัฐฯ)71-72-68-68, ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ 74-68-65-72 เงินรางวัลคนละ 14,800 เหรียญสหรัฐฯ (473,600 บาท)