รพ.สัตว์ตลิ่งชัน รวมพลคนรักกระต่ายในงาน “Rabbit Party-เฮฮาภาษากระต่าย” แนะเคล็ดลับดูแลกระต่ายอย่างถูกวิธี

ข่าวทั่วไป Friday December 20, 2013 11:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ไอเดียเวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่น หากกล่าวถึง เจ้าตัวน้อยขนปุกปุยตัวกลมหางสั้น มีใบหูยาว ใคร ๆ ก็รู้ว่านั่นคือ “น้องกระต่ายสัตว์เลี้ยงน่ารัก น่าทะนุถนอม ที่ปัจจุบันมีผู้นิยมเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นสัตว์ที่ดูแลง่าย สะอาดและแสนเชื่อง หากใครได้เลี้ยงจะหลงรักไม่รู้ตัว โดยเฉพาะครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่อยู่อาศัยในคอนโด ไม่มีพื้นที่สำหรับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขหรือแมว แต่สำหรับกระ ต่ายแล้ว พื้นที่แค่ในกรงเล็กๆ ก็เป็นอาณาจักรที่มีความสุขของเขา และยังประหยัดพื้นที่ใช้สอยของเราได้อีกด้วย โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันได้ร่วมกับห้างหุ้นส่วนภมรชัยซัพพลาย จัดกิจกรรมเพื่อมอบความรู้ในการดูแลกระต่ายที่ถูกต้อง พร้อมกับได้เรียนเชิญผู้ที่มีหัวใจรักกระต่ายได้มาพบปะสังสรรค์กันประสาคนคอเดียวกันในงาน “Rabbit Party-เฮฮาภาษากระต่าย” ณ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน โดยไฮไลท์ในงานคือการจัดประกวดแต่งตัวกระต่ายสวยงาม และกิจกรรมตรวจสุขภาพกระต่าย พร้อมการฉีดยาป้องกันพิษสุนัขบ้า รวมถึงการรับฟังข้อมูลความรู้จากการบรรยายของทีมสัตวแพทย์ของโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน หัวข้อน่าสนใจต่างๆ อาทิ การโภชนาการที่ดีของกระต่าย โรคที่มักเกิดกับกระต่าย อาการที่บ่งชี้ว่ากระต่ายป่วย และการดูแลกระต่ายเพื่อให้อายุยืนยาวและสุขภาพดี ฯลฯ สัตวแพทย์หญิงศิริกัญญา ช่างเอกวงศ์ สัตวแพทย์ด้านสัตว์พิเศษ (Exotics Pet)ประจำโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ได้แนะเคล็ดลับในการดูแลกระต่ายน้อย ว่า การเลี้ยงกระต่ายนอกจากความรักเราควรเข้าใจและมีความรู้ในธรรมชาติของกระต่าย เพื่อจะได้ดูแลเขาอย่างถูกวิธี เริ่มจากที่อยู่ของกระต่าย เขาเป็นสมาชิกตัวหนึ่งดังนั้นจึงควรจัดที่อยู่ของอาศัยให้เป็นที่เป็นทาง ซึ่งอาจจะจัดกรงให้หรือกั้นคอกเล็กๆ หากท่านจะปล่อยเขาให้อิสระในบ้านก็ได้แต่ควรมีโพรงกระต่ายหรือบ้านเล็กๆ พร้อมถาดอาหารและขวดห้องน้ำให้กระต่ายน้อยมีพื้นที่ส่วนตัวในการหลบมุมเงียบ ๆ เพื่อนอนหรือนั่งพักหรือสงบอารมณ์ รวมถึงมีพื้นที่ว่างให้ได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ แต่ทั้งนี้ไม่ควรให้เลี้ยงกระต่ายนอกบ้านเพราะอุณหภูมิภายนอกเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ทำให้กระต่ายไม่สบาย รวมถึงยังมีโอกาสเจอภัยจากสัตว์อื่นๆ ที่เป็นนักล่า เช่น แมว ได้ “ส่วนเรื่องที่สำคัญต่อมาคือ “อาหารและน้ำสะอาด” น้องกระต่ายสามารถกินหญ้าได้มากตามที่เขาต้องการเพราะหญ้าแห้งเมื่อถูกย่อยด้วยแบคทีเรียที่มีอยู่ในระบบทางเดินอาหาร กระต่ายจะได้สารอาหารมากมายรวมทั้งกากใยที่เหลือจากหญ้าแห้งก็ส่งผลดีต่างระบบขับถ่าย สำหรับการให้อาหารเม็ดของกระต่ายก็ควรเลือกชนิดที่มีคุณภาพดีและให้ในปริมาณที่พอดีกับน้ำหนักตัว รวมถึงควรมีน้ำสะอาดให้เพียงพอกับเขาด้วย” “นอกจากมีบ้านและอาหารที่ดีต่อกระต่ายแล้ว ควรต้องให้น้องกระต่ายได้ออกกำลังกายบ้าง โดยจัดพื้นที่ให้เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นอิสระและปลอดภัย หรือผู้ที่เลี้ยงในบ้านที่มีบริเวณสนามหญ้าก็สามารถพาเดินพาวิ่งที่สนามหญ้าบ้างก็ได้ การกระตุ้นให้กระต่ายออกกำลังกายอาจจะเพิ่มของเล่นให้เค้าได้แทะได้วิ่งไล่ตาม เพื่อเพิ่มปริมาณและเพิ่มเวลาในการออกกำลังกายรวมถึงเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับน้องกระต่ายด้วย และเพื่อให้กระต่ายมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ควรพาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ทุกๆ 6 เดือน และเมื่อกระต่ายอายุ 5-9 เดือนขึ้นไปขอแนะนำให้พาไปทำหมันเพื่อให้มีอายุยืนยาวและสุขภาพดี เพราะการทำหมันจะลดอารมณ์ก้าวร้าว และลดพฤติกรรมฉี่จองที่ ซึ่งปัจจุบันพบว่ากระต่ายเพศเมียอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปที่ไม่ได้ทำหมันมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งในระบบสืบพันธุ์ได้ และความเสี่ยงจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น เคล็ดไม่ลับเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก็จะทำให้สัตว์เลี้ยงที่น่ารักของคุณมีสุขภาพที่ดี” สัตวแพทย์หญิงศิริกัญญา กล่าว นอกจากการบรรยายให้ความรู้แก่เจ้าของกระต่ายแล้ว ยังกิจกรรมเฮฮาภาษากระต่ายคือการประกวดกระต่ายแต่งตัวสวยงาม ซึ่งเจ้าของกระต่ายทุกท่านเป็นคนให้คะแนนตัดสิน กระต่ายผู้ชนะเลิศคือ น้องบี่บี๋ ประภาทิพย์ เวชประเสริฐกุล (เอ) เจ้าของน้องบี่บี๋กระต่ายน้อยผู้ชนะเลิศที่ 1 ในการประกวดกระต่ายสวยงาม กล่าวว่า มางานนี้เป็นครั้งแรกรู้สึกประทับใจมากไม่คิดเลยว่าจะมีคนรักกระต่ายเหมือนเราจำนวนมากขนาดนี้ เมื่อก่อนเคยคิดว่าโรงพยาบาลสัตว์จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสัตว์เล็กๆ อย่างกระต่าย แต่สำหรับโรงพยาบาลแห่งนี้คุณหมอกลับให้ความสำคัญมาก ทำให้รู้สึกว่าถ้าพาน้องมารักษาที่นี่คงได้รับความเมตตาเอ็นดูจากคุณหมอแน่ๆ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ได้พากระต่ายเข้าร่วมประกวด 2 ตัว โดยน้องบี่บี๋ เป็นเพศเมียอายุ 1 ขวบแปดเดือนได้รางวัลชนะเลิศ ส่วนอีกตัวได้รางวัลชมเชย คิดว่ามาร่วมสนุกแต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รางวัล นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือได้ความรู้กลับไปดูแลกระต่ายน้อยที่เลี้ยงไว้ที่บ้านอีกด้วย ปัจจุบันมีกระต่ายอยู่ 5 ตัวและได้ตายไป 1 ตัวด้วยอาการท้องอืด ที่เกิดอาการเร็วมากจนทำให้เสียชีวิต การมาร่วมงานนี้ทำให้ได้ความรู้เรื่องให้อาหารควรเน้นให้หญ้ามากกว่าให้ผลไม้หรืออาหารเม็ดเพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่อ่อนไหวง่าย อีกเรื่องที่ต้องดูแลคือเรื่องความสะอาดไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ อาหาร หลายคนอาจจะคิดว่ากระต่ายเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงแต่จริงๆ เอรู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนใจ การได้อุ้มได้สัมผัสเขาช่วยให้เรามีความสุข คลายเครียด ศิวพร อโนทัยสินทวี (อี่) แฟนพันธุ์แท้วรรณกรรมเยาวชนและแฟนพันธุ์แท้แฮรี่พอตเตอร์เจ้าของน้องวีวี่และดีดี่ และเพื่อนๆ ร่วมก๊วนอีก 10 ชีวิตที่พามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า เข้าร่วมงานกับโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันเป็นครั้งแรก รู้สึกสนุกมาก ได้เจอเพื่อนๆ ที่เลี้ยงกระต่ายด้วยกันและกระต่ายของเราได้เจอกระต่ายตัวอื่นๆ เสมือนได้มาพบปะสังสรรค์ เจ้าของกระต่ายได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ปกติแล้วตนจะหาความรู้เรื่องการเลี้ยงกระต่ายเสมอจากการอ่านหนังสือหรือเว็บไซต์ การมางานนี้ทำให้ได้ความรู้ที่เชิงลึก จากสัตวแพทย์โดยตรงและได้ถามข้อสงสัยต่างๆ หลายเรื่อง เช่น การตัดเล็บกระต่ายแล้วเลือดไหลจะใช้ผงห้ามเลือดของสุนัขได้ไหม คุณหมอตอบว่าสามารถใช้ได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในคราวหน้าก็จะได้จัดการได้ หรือเรื่องการสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือนว่ากระต่ายป่วย ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ได้โดยตรง กระต่ายเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไม่ยาก แต่ที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงแล้วตายนั่นเพราะการเลี้ยงไม่ถูกวิธี ให้อาหารไม่ถูกต้อง ที่สำคัญไม่มีความรู้ในการเลี้ยง ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัว เราควรศึกษาให้ดีก่อนว่าเขามีชีวิตอย่างไร กินอยู่อย่างไร จะช่วยให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ “ “เราชี้นิ้วเลือกกระต่ายมาครอบครอง ในขณะที่เขาไม่อาจปฎิเสธเจ้าของได้ เมื่อเราตัดสินใจเลี้ยงเขาแล้วก็ต้องดูแลให้เขามีชีวิตที่ดี ให้ความรัก ให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่าที่ทำได้ เขาน่ารักและจะทำให้เรามีความสุข ” ศิวพร กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ