ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน “ธ. กรุงศรีอยุธยา เป็น “AAA” และ “AA+” จาก “AA-” และ “A+” และเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “Stable” จาก “Positive”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 23, 2013 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทริสเรทติ้งปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “AAA” และ “AA+” ตามลำดับ จากระดับ “AA-” และ “A+” และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก” หลังจาก Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd. (BTMU) ประกาศความสำเร็จในการเสนอซื้อหุ้นสามัญของธนาคารจาก GE Capital International Holdings Corporation (GECIH) และจากผู้ถือหุ้นรายอื่นเมื่อวันที่18 ธันวาคม 2556 หลังจากความสำเร็จในการซื้อหุ้นสามัญของธนาคารโดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer, VTO) มีผลให้ BTMU กลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารในสัดส่วน 72.01% ในขณะที่ธนาคารก็ได้กลายมาเป็นธนาคารลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ BTMU และมีฐานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นในอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ไทย การปรับเพิ่มอันดับเครดิตจึงสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิต 3 ระดับจากอันดับเครดิตเฉพาะของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะได้รับประโยชน์จากสถานะทางธุรกิจและฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นหลังจากรวมกิจการกับ BTMU สาขากรุงเทพฯ นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการสนับสนุนทางธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่งจากผู้ถือหุ้นใหม่รายใหญ่ คือ BTMU ในฐานะที่เป็นธนาคารลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อกลุ่ม BTMU ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมาโดยระบุว่า GECIH และ BTMU ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงการเสนอซื้อหุ้นสามัญของธนาคาร โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวนั้น BTMU จะเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด (ประมาณ 6,074 ล้านหุ้น) ของธนาคารโดยสมัครใจในราคาหุ้นละ 39 บาท และ GECIH จะขายหุ้นสามัญของธนาคารที่ถืออยู่ทั้งหมด (ประมาณ 1,538 ล้านหุ้น) ในราคาเดียวกับราคาเสนอซื้อที่กำหนดไว้ ซึ่งได้มีการดำเนินการตั้งแต่วันที่7 พฤศจิกายน 2556 และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2556 ในวันที่ 18 ธันวาคม 2556 BTMU ได้ประกาศความสำเร็จในกระบวนการเสนอซื้อหุ้นสามัญของธนาคารจากผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งมีผลให้ BTMU กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหม่รายใหญ่ของธนาคาร โดยถือหุ้น 72.01% และเป็นพันธมิตรกับกลุ่มรัตนรักษ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักอีกกลุ่มหนึ่งของธนาคารในสัดส่วน 25% ภายใต้นโยบายสถาบันการเงิน 1 รูปแบบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) BTMU จะทำการโอนกิจการของ สาขากรุงเทพฯ เข้ากับธนาคารกรุงศรีอยุธยา BTMU ได้ลงนามสัญญาซื้อกิจการแบบมีเงื่อนไขกับทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2556 โดยทาง BTMU จะควบรวมกิจการของสาขากรุงเทพฯ เข้ากับธนาคารกรุงศรีอยุธยาโดยการโอนกิจการของสาขากรุงเทพฯ ให้ทางธนาคารภายใน 1 ปีนับจากวันที่ครอบครองหุ้นของธนาคารกรุงศรีอยุธยาผ่านทางการเสนอซื้อหุ้นโดยสมัครใจ และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับกิจการที่ได้รับโอนมา ทางธนาคารจะออกหุ้นสามัญจำนวน 1,143,221,782 หุ้น ให้ BMTU ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของ BTMU ในธนาคารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 76.44% การโอนกิจการนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะทางธุรกิจและเสริมจุดแข็งในเชิงของการมีพอร์ตสินเชื่อที่สมดุลอย่างลงตัวระหว่างสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อธุรกิจขนาดย่อมและกลาง ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 โดย ณ เดือนกันยายน 2556 มีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านสินทรัพย์ 8% เงินให้สินเชื่อ 9% และเงินรับฝาก 8% ในขณะที่สินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 1,145 พันล้านบาท BTMU เป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย Mitsubishi UFJ Financial Group Inc. (MUFG) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสถานะทางการเงินที่ดี อีกทั้งมีระบบบริหารความเสี่ยงที่เพียงพอ และมีความเชื่อมโยงทางธุรกิจอย่างใกล้ชิดกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันภายในกลุ่ม สาขาเต็มรูปแบบของ BTMU ในกรุงเทพฯ มีขนาดสินทรัพย์ 548 พันล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2556 (ตามรายงาน ธ.พ. 1.1.) และมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านสินทรัพย์ 5% เงินให้สินเชื่อ 3% และเงินรับฝาก 2% ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) อันดับเครดิตองค์กร: AAA อันดับเครดิตตราสารหนี้: BAY206A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 20,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 AA+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ