กรุงเทพฯ--1 ม.ค.--เอ็มบิส เอเชีย
กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. หลังจากเดินหน้ารับฟังความคิดจากทั้ง 4 ภาค เพื่อมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ด้อยโอกาส กทปส. เตรียมพร้อมเร่งนำผลสำรวจ ความต้องการ เพื่อนำไปสู่การลดช่องว่างระหว่างสังคมเพื่อให้เกิดความทัดเทียม อันเป็นสิทธิที่ควรพึงมีในกลุ่มเป้าหมาย พร้อมวางแผนผลักดันให้บุคคลเหล่านี้มีการดำเนินชีวิตขั้นพื้นฐานเสมือนปกติ
สำนักงาน กสทช. โดย กลุ่มงานกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ ได้ทำการรับฟังความคิดเห็น เรื่อง “การส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ด้อยโอกาส อย่างยั่งยืน” ทั้งหมด 4 ภาค คือ จังหวัดตรัง ขอนแก่น เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ โดยต้องการนำความคิดเห็นจากกลุ่มเป้าหมายทั้ง 4 ภาค มาปรับใช้ในแผนการดำเนินงานที่จะเข้าถึงผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ในงานด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม รวมถึงการคุ้มครองสิทธิ เพื่อนำงบประมาณในปี 2557 ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการจัดรับฟังความคิดเห็นทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายกว่า 2,000 พันคน อาทิ กลุ่มนักวิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง และเสนอแนะแนวทางร่วมกัน พร้อมเดินหน้าวางแผนงาน นโยบาย ในปี 2557 และในอนาคตอย่างยั่งยืน
พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. กล่าวว่า วันนี้ทุกคนในประเทศต้องมีสิทธิที่เท่าเทียมกัน ดังนั้น ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ต้องได้รับการเข้าถึงบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเสมือนคนปกติทั่วไป ตลอดจนการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมาบุคคลเหล่านี้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก มักถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม และขาดโอกาสการเข้าถึงบริการพื้นฐานโดยทั่วไปของรัฐ อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาเหล่านั้นขาดการเหลียวแลจากสังคม ไม่มีการเพิ่มทักษะ และพัฒนาตนเองได้อย่างที่ควรจะเป็น “เพื่อให้มีแนวความคิดที่หลากหลาย และตอบสนองกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสะท้อนปัญหาที่แท้จริงในปัจจุบัน รวมถึงในอนาคต การทำงานในครั้งนี้เรามุ่งไปที่กลุ่มผู้พิการทั้ง 5 ประเภท คือ ผู้พิการทางการมองเห็น กลุ่มผู้พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย กลุ่มผู้พิการทางกายหรือความเคลื่อนไหว กลุ่มผู้พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม กลุ่มผู้พิการทางสติปัญญา ตลอดจนกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศไทย โดยทาง กทปส. ได้นำทุกความคิดเห็นที่ได้รับไปปรับใช้ในแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้อง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีศักยภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางสังคมในระยะยาว”
นายฐากร ตัณฑสิทธ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า จากการจัดงานมาแล้วทั้ง 4 ภาค ผลที่ได้รับมีความหลากหลายทางความคิดเห็น จากกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ที่ได้ให้ความคิดเห็นในด้านโทรคมนาคมขั้นพื้นฐานในทุกพื้นที่ของประเทศ ที่ต้องการให้เกิดการตอบสนองสำหรับผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสในสังคม รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เอื้อต่อความสะดวก ตลอดจนค่าบริการที่ต้องการให้มีการปรับราคาในอัตราพิเศษเพื่อพวกเขาเหล่านั้น และในด้านของการสื่อสารต้องการผลักดันให้มีภาษามือ หรือตัวหนังสือวิ่งด้านล่างให้มากยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการรับสารจากสื่อแขนงต่างๆ หรือกระทั่งคนพิการที่ไม่ได้รับการศึกษา ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี สามารถทำอย่างไรให้กลุ่มผู้พิการเข้าถึงเครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เกิดความเข้าใจได้ง่าย หรือจัดให้มีการอบรมเรื่องการใช้งาน เพื่อให้ช่วยเหลือตนเองได้ ส่วนของภาค NGO มีข้อเสนอแนะคือ ต้องการให้มีความทัดเทียมกันของกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย รวมถึงผู้ที่ด้อยโอกาส โดยควรมองถึงเรื่องสิทธิ์ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ และการพัฒนาระบบเทคโนโลยี การเข้าถึงของกลุ่มคนเหล่านั้น สื่อในสาขาต่างๆ ที่ควรมองเห็นและให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ซึ่งทุกความคิดเห็นต่างๆ ทาง กทปส. คาดว่าจะดำเนินการวางแผนให้เป็นรูปธรรมในปี 2557 ควบคู่กับการวางแผนระยะยาวในอนาคต
นายฐากร กล่าวอีกว่า จากที่ทาง กสทช. ได้ดำเนินการระบบ Call Center 1414 เพื่อให้บริการแก่กลุ่มคนตาบอด พบว่าจากฐานข้อมูลในแต่ละวันมีผู้ใช้ระบบทั้งสิ้นกว่า 8,000 ราย เดือนละกว่า 200,000 ราย ซึ่งในเบื้องต้นสิ่งที่คาดว่าจะเริ่มในปี 2557 คือ ให้กลุ่มโอเปอเรเตอร์ทำการลดค่าบริการให้กับกลุ่มเป้าหมาย ที่เกี่ยวข้องตลอดจนเร่งพัฒนาอุปกรณ์ในการรองรับระบบทีวีดิจิตอล ออกแบบกล่องรับสัญญาณเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการและกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงระบบสมาร์ทโฟนให้มีระบบที่รองรับกับการใช้งาน อีกทั้งทาง กทปส. ยังเดินหน้านำข้อมูลผลสำรวจ ผลงานวิจัยต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มคนเหล่านี้อีกด้วย กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ถือว่ามีจำนวนมากนับเป็นหลายล้านคนในประเทศไทย หากแต่วันนี้เรามีกี่ยืนมือในการช่วยเหลือ และขับเคลื่อนได้อย่างตรงจุด ทุกๆ ภาคส่วนให้ความสำคัญ เราเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้จะยืนได้ด้วยตัวเอง และเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของประเทศที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจก้าวหน้าต่อไปได้